บท
ตั้งค่า

6.ปราบผีขี้หวง

" ว้าวว/กุ๊กก/จิ๊บบ "

หินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงามแต่ประหลาดที่งอกออกมาจากเแพดานถ้ำความระยิบระยับโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่กว้างขวางโอ่อ่าขนาดสู่สีกับลานบ้านทั้งหลังของเธอทำให้ร่างทั้งสามที่มาถึงถอนหายใจคล่องขึ้นพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอดอย่างเต็มอิ่มหลังจากที่ต้องทนอุดอู้กับทางแคบๆมาหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่นี้และยิ่งต้องสูดลมหายใจเข้าลึกกว่าเดิมเมื่อสังเกตเห็นชัดว่าที่ถ้ำระยิบระยับขนาดนี้เพราะมันสะท้อนกับกล่องไม้ที่เปิดอยู่หลายกล่อง

" เฮือกกกกกกก " เสียงสูดลมหายใจเข้าปอดดังเฮือกใหญ่จากหนึ่งคนสองตัวทำเอาทั้งสามมองห้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย

" สมบัติ " ทองคำในกล่องไม้หลายกล่องที่วางบนพื้นถ้ำสะท้อนกับผนังถ้ำทำให้ตาพร่ามัวไปหมดยังไม่รวมกับลังไม้หลายสิบที่วางกระจัดกระจายไปทั่วถ้ำอีกแค่คนธรรมดามองก็รู้ว่าข้างในย่อมเป็นสมบัติใส่ของมีค่าไม่ต้องถามความคิดเห็นของผู้มีพลังพิเศษเลยแค่กลิ่นอายที่ล่องลอยอยู่ก็บอกได้ว่าเป็นของเก่าแก่ที่มีพลังงานอยู่ถึงแม้จะน้อยนิด

แต่ก็พอให้ทั้งสามกลืนอิ่มไปหลายวัน

ได้ทั้งพลังได้อิ่มท้องจากความร่ำรวยของสมบัติทำเอาท่านเทพแห่งความโชคดีมีความโลภขึ้นมาในใจ แค่คิดในใจแต่สมองกลับสั่งให้ร่างกายเดินไปหากล่องสมบัติเหล่านั้นซะแล้ว

" ทองคำขนาดนี้ใครบ้าเอาทิ้งไว้ "

" กุ๊กกกกกกก " แวววาวแสบตาเกินไปแล้ว เสี่ยวเฟยที่ถูกสัญชาติญาณความเป็นสัตว์ปีกที่ชอบสิ่งของแวววาวกระพือปีกบินทิ้งตัวลงบนกล่องทองคำก่อนจะใช้ตัวถูไถ่กับกองทองก้อนเล็กพวกนั้นอย่างหลงใหล " กุ๊กกกกก " ทั้งหอมน่ากินขนาดนี้

" จิ๊บๆ " เสี่ยวฝานใช้จะงอยปากเล็กแต่คมดุจมีดของมันงัดเปิดลังไม้ออกถึงจะค่อนข้างยากแต่กลิ่นอายที่อยู่ในลังไม้นี้กลับน่าสนใจกว่าทองคำในกล่องพวกนั้นอีก ด้วยสัญชาติญาณของมันกู่ร้องว่าในลังไม้นี้ต่างหากที่เป็นสมบัติล้ำค่ามากกว่าทองคำในกล่องไม้ที่เจ้านายตัวน้อยกับรุ่นพี่นักขุดทองชื่นชอบ

" อู้ววว/กุ๊กกกก/จิ๊บบบบ "

ทั้งสามต่างส่งเสียงร้องบอกถึงความเผ่าพันธ์ุตัวเองออกมาอย่างอดไม่อยู่เมื่อเห็นของที่อยู่ในลังไม้ใหญ่ขนาดเท่าสูงเท่าต้นขาซ่งซิงเหลียน เพราะในในลังไม้นี้เต็มไมอัญมณีหลากหลายทั้งเพชรพลอยหินหยกมีค่าหลายอย่างหลายสีสันขนาดใหญ่ที่หลายสิบก้อนถูกอัดทิ้งไว้ในนี้อย่างไม่ใส่ใจ

และที่ทั้งสามต่างร้งเสียงหลงก็เพราะว่าอัญมณีเหล่านี้ต่างยังไม่ผ่านการเจียรไนทำให้ความบริสุทธิ์ของอัญมณีพวกนี้ยังอยู่ครบถ้วนเสมือนการเก็บผักออกจากสวนใหม่ๆ ทั้งกลิ่นอายและขนาดน่ากินสุดๆ

" นี้อาจทำให้ท้องแตกตายได้เลยนะ "

แล้วไงใครสนอิ่มจนท้องแตกตายก็ยังรุู้ว่าอิ่ม

ทั้งสามส่งสายตาให้กันทันทีเหมือนว่าจะมีความคิดเห็นที่ตรงกันเป็นมติลงไว้เป็นเอกฉันท์ จากนั้นต่างก็แยกย้ายกันไปที่ลังไม้ที่เหลืออีกหลายสิบช่วยกันเปิดลังไม้ที่เหลืออย่าแข็งขันวิ่งวนไปทั่วถ้ำไม่รู้สึกเหนื่อยพลางส่งเสียงร้องบอกกันอย่างคึกคักว่าในลังไม้ที่เปิดมีอะไรอยู่ในนั้นจากนั้นก็ผลัดกับเดินชมสิ่งของในนั้นราวกับชมนิทรรศการภาพวาด

" ภาพวาด แจกัน อัญมณี เครื่องประดับ ของพวกนี้เป็นของเก่าแก่ที่มีอายุมาหลายร้อยปีถึงแม้จะเป็นของที่ผ่านการประดิษฐ์ของพวกมนุษย์แต่พวกมันก็ผ่านการสะสมพลังของฟ้าดินได้เหมือนกัน เพราะอะไรรู้ไหม "

ซ่งซิงเหลียนถือโอกาสสอนบทเรียนเล็กเพิ่มให้กับเจ้าสองตัวเพื่อให้มีความรู้พื้นฐานที่เหล่าผู้ฝึกตนควรรู้และจดจำให้ขึ้นใจกับสิ่งต่างๆที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในโลกผู้ฝึกตนเพราะถ้าหากปล่อยให้ใช้ชีวิตกันเองโดยไม่สอนอะไรเลยมีแต่จะให้ปล่อยไปตายเปล่าเสียชื่อลูกสมุนท่านเทพหมด

" เพราะว่าของพวกนี้เกิดจากความตั้งใจของมนุษย์ที่มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์แน่วแน่ที่สร้างพวกมันขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจนก่อเกิดพลังจิตวิญญาณให้กับสิ่งของพวกนี้ ยิ่งผ่านกาลเวลายิ่งสะสมพลังได้มากหากไม่ผิดพลาดถ้าพวกมันไม่ถูกกาลเวลาทำลายไปซะก่อนอาจจะกลายเป็นส่งสมพลังวิญญาณได้จนมีรูปร่างได้ "

เมื่อเห็นเจ้าสองตัวตั้งอกตั้งใจฟังที่เธอพูดก็เห็นได้ชัดว่าเจ้าสองตัวนี้มีสติปัญญาพัฒนาไปมากจนใกล้เคียงกับมนุษย์มากแล้วและเมื่อยิ่งมีสติปัญญาที่ก้าวเข้าสู่ความเป็นมนุษย์ก็จะทำให้พวกมันมีความสำเร็จที่แม้แต่มนุษย์ผู้ฝึกพลังยังสู้ไม่ได้

พูดได้ว่าการสำเร็จเป้าหมายเป็นเซียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับเผ่าพันธุ์หรือชาติกำเนิด

" ขนาดต้นสนจากโลกมนุษย์ยังกลายเป็นเซียนต้นไม้เข้าสู่แดนบำเพ็ญเซียนได้ นับอะไรกับสิ่งมีชีวิตสองตัวที่มีชีวิตใกล้เคียงกับมนุษย์แบบพวกเธอที่ กิน ดื่ม ขับถ่าย และสืบพันธุ์เหมือนมนุษย์ นี้เรียกว่าง่ายและใช้เวลาน้อยกว่าของแข็งๆที่ไร้ชีวิตพวกนี้ " เธอชี้ไปที่กองสมบัติเหล่านั้นเป็นตัวอย่างในการอธิบายให้เห็นชัด

ทั้งสองตัวนิ่งไปครู่ใหญ่กับการที่มีคำอธิบายสมองประมวลจนเห็นภาพที่ค่อยไล่เรียงขึ้น

" พวกเธอทั้งสองตัวเป็นสิ่งมีชีวิตมาโดยการถือกำเนิดเป็นมีเลือดเนื้อ จากนั้นก็กลายเป็นภูติ แล้วกลายเป็นอสูร สุดท้ายกลายเป็นปีศาจ แล้วถ้าหากสามารถสั่งสมความดีและมีบุญบารพลังตบะมีมากพอจนฟ้าดินตอบรับก็จะเข้าสู่ด้านเคราะห์เส้นทางสวรรค์อัสนีบาตก้าวสู่ความเป็นเซียนได้ "

" กุ๊กๆ/จิ๊บๆ " ทั้งสองตัวที่ได้รับการเปิดสติปัญญาขึ้นต่างจดจำและฟังคำพูดอธิบายของเจ้านายตัวน้อยได้อย่างเข้าใจทันที ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมันทั้งสองต่างก็สามารถจะเป็นสิ่งที่พวกมนุษย์กราบไหว้บูชาได้ ผู้ที่ถูกเรียกว่าเซียนนั่น

พวกมันต่างก็รู้จักคำเรียกขานนี้

" ก็รูปปั้นคนแก่ๆที่อยู่ในศาลเจ้าของหมู่บ้านเราที่พวกเขาจุดธูปไหว้บูชาไง "

" จิ๊บๆๆๆๆ " มีเซียนอยู่นั้นจริงๆหรือ มันสัมผัสได้แค่พลังบริสุทธิ์ที่สถิตอยู่แต่ไม่เคยเห็นตัวตนจริงๆ

" มีพลังงานบริสุทธิ์สถิตอยู่แสดงว่าเซียนเฒ่าองค์นี้มีจริงแต่ที่พวกเรามองไม่เห็นเพราะเป็นกฏสวรค์พลังฟ้าดินบังคับกายเนื้อไม่ให้กายจิตสัมผัส พูดให้เข้าใจง่ายไว้ตายแล้วค่อยเจอ "

" แต่มีจิตวิญญาณอีกอย่างที่เราไม่ตายแล้วเจอได้นะ "

" กุ๊ก/จิ๊บ " อะไรหรือเจ้านาย

" ภูติผี "

ฟิ้วววววว

เพล้งงงงง

วิ้งงงงงงง

เสียงลมที่หวีดร้องอย่างรุนแรงพร้อมกับข้าวของที่ถูกมือล่องหนเขวี้ยงปาไม่รู้ทิศทางเกิดขึ้นพร้อมๆกับประโยคสิ้นสุดของเธอทำเอาเจ้าไก่เสี่ยวเฟยและเจ้านกเสี่ยวฝานต่างตกใจกลัวและสับสนเพราะพวกมันสองตัวได้เห็นสิ่งที่เจ้านายตัวน้อยเรียกว่าภูติผีแล้ว จิตวิญญาณที่ไม่ตายก็เจอได้

" กล้ามากที่ปรากฏตนให้ฉันเห็นต่อหน้า " และกล้ามากที่จะสู้กับท่านเทพผู้นี้ที่เป็นศิษย์เอกของท่านเทพความตายหนึ่งในเทพชั้นสูงผุ้กุมอำนาจในแดนยมโลกผู้ตัดสินการเวียนวายตายเกิดในโลกมนุษย์

วิชาอื่นไม่กล้าอวดอ้างว่าเป็นที่สอง แต่วิชาปราบผีนี้เธอกล้ายืนขึ้นตะโกนแดนสวรรค์ว่าไม่มีใครสู้ได้ ยังเว้นท่านอาจารย์ที่เธอยกให้เป็นอันดับหนึ่ง เดี๋ยวถูกด่าว่าเป็นศิษย์ล้างครู

" กุ๊กกกกกกก/จิ๊บบบบบบบ "

ไม่ทันได้คิดทำอะไรสัญชาติการเอาชึวิตรอดสั่งให้พวกมันสองตัวกระโจนลงสู่กล่องไม้เพื่อหลบภัย ก่อนจะค่อยๆโผล่หัวเล็กๆดันฝากล่องเปิดช่องเล็กพอสองหัวออกเพื่อดูเหตุการณ์

ทั้งสองตัวสะดุ้งโย้งกับภาพตรงหน้าที่จู่ๆก็มีสิ่งที่มีรูปร่างหน้าตาเป็นมนุษย์ทุกประการแต่ไม่มีขาและไร้เงาหลังหายตัวผลุบโผล่ขว้างปาสิ่งของใส่พวกมันที่นั่งเป็นเป้านิ่งอยู่ นี้สินะภูติผีที่พวกมนุษย์พูดถึง

" กล้าทำให้ข้าวของพวกนี้เสียหายต้องโดนทำโทษข้อหาไม่รู้จักประหยัดอดอ้อม " กล้ามากที่ทำลายสมบัติฉันรู้ไหมขาดทุนไปเท่าไหร่

ซ่งซิงเหลียนใช้นิ้ววาดอักขระโบราณที่ไม่มีใครเข้าใจแต่ว่าเหล่าภูติผีที่หากได้เห็นเป็นอันต้องกระโจนลงหลุมเดิมเพราะอักขระสีแดงที่วาดขึ้นมีสีแดงหมายถึงการลงทันฑ์ที่มีแต่พวกทำงานในแดนยมโลกเท่านั้นที่ใช้กันและยิ่งอักขระที่วาดขึ้นในตอนนี้แดงก่ำดุจเลือดบ่งบอกว่าสถานะผู้วาดนี้มีฐานะเหนือกว่าไม่ใชธรรมดาสามัญทำให้ภูติผีตนนี้ที่ยังไม่ได้สัมผัสถึงกับสั่นสะท้านจนวิญญาณคงรูปร่างเดิมไม่ได้กลายเป็น

" กระดูกนิ้วข้อหนึ่ง "

" กรี้ดดดดด " เสียงกรี๊ดร้องโหยหวนเมื่อกระดูกนิ้วข้อนั้นโดนอักขระเธอเต็มๆมันมีรอยร้าวเล็กๆเกิดขึ้น

นี้แค่ใส่พลังไปเศษเสี้ยวคงไม่ถึงวิญญาณแตกดับหรอก

" อืมยังรอดอีกหรือ " มองผ่านนัยน์ตาสวรรค์แล้วยังเจอกับก้อนกลมสีแดงอมดำก้อนหนึ่งขดตัวสิ่งในกระดูกนิ้วนั้นด้วยความเจ็บปวด เธอใช้เท้าเขี่ยด้วยความรังเกียจก่อนจะเตะออกไป

แคร๊ก

" กุ๊กกกกกก/จิ๊บบบบบบบ "

ตกลงบนกล่องไม้ที่เจ้าสองตัวหลบอยู่เป๊ะ
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel