บท
ตั้งค่า

4.เก็บสมุนไพร

จิ๊บ

เสียงนกกระจอกตัวเล็กที่บินไปเกาะบนต้นไม้ดึงความสนใจของซ่งซิงเหลียนที่กำลังเดินขึ้นเนินเขาอย่างเร่งรีบในยามที่อาจมีชาวบ้านลงจากเขาและตอนนี้แม้จะเริ่มพลบค่ำก็ตามเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจตามมาที่หลังเธอจึงใช้เส้นทางที่ชาวบ้านไม่ใช้กันถึงแม้จะใช้วิชาหลบหลีกที่ไม่มีวันที่คนทั่วไปจะรู้ถึงการมีอยู่ของเธอ

แม้ว่าเธอจะยืนอยู่ต่อหน้าก็ตาม

หากจะถูกจับได้คงเป็นพวกมีวิชาที่สูงกว่าเธอซึ่งเธอยังไม่อาจรู้ได้เพราะยังไม่เจอคนฝึกวิชาในโลกใบนี้เลยสักคน ทว่าเธอก็ไม่กลัวกับการมีอยู่ของผู้มีวิชาในโลกใบนี้ถ้าเผชิญหน้ากันหากสู้ไม่ได้ก็แค่เผ่นหนี มั่นใจเลยว่าวิชาหลบหลีกของเธอติดอับดับหนึ่งในสิบแดนเซียนที่ใครก็ตามจับไม่ได้นี้คือคำสอนแรกของท่านอาจารย์ที่รับตนเองเป็นศิษย์เอกและเป็นผู้เดียวที่รับก่อนที่ท่านอาจารย์จะผ่านด้านเคราะห์ขึ้นไปเป็นเทพ

ศักดิ์ศรีกินไม่ได้ แต่การมีชีวิตอยู่ต่อสามารถกินต่อได้

" อะไรเสี่ยวฝานเจอของดีอะไรหรือ " นี่คือเจ้านกขุดทองคู่ใจที่เธอเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้เสียข้าวสุกจึงจับมัน อุ้ยหมายถึงร่วมมือกันทำมาหากินอย่างขยันขันแข็งน่ะนะ ไม่ได้ขุดทองอะไรหรอกจริงๆนะ

" จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ " เจ้าเสี่ยวฝานส่งเสียงร้องตอบก่อนโผบินไปทิศทางหนึ่งที่ค่อนข้างรกเนื่องจากเป็นถนนที่ชาวบ้านไม่นิยมเดินทางไปกัน

ต้นไม้ที่หนาทึบกอหญ้าที่บึดบังสายตาผู้คนมีเถาวัลย์ที่เป็นเหมือนปราการชั้นยอดในการปกป้องบางอย่างบ่งบอกถึงการที่ไร้ผู้คนสัญจรมาเนิ่นนานทำให้ซ่งซิงเหลียนคาดเดาได้ว่าในป่าภูเขาด้านนี้จะต้องสมบัติล้ำค่าที่รอให้เธอค้นพบมันอย่างแน่นอนและยิ่งตอกย้ำความมั่นใจของเธอมากขึ้นเมื่อเจ้าเสี่ยวฝานบินไปเกาะที่ยอดโคนไม้ที่มีบางอย่างผุดขึ้นมา

" หลินจื้อดำ " ย่างก้าวพริ้วไหวเพียงแตะบนยอดหญ้าเหมือนเซียนตัวน้อยที่ลงมาท่องเที่ยวในป่าทำให้เจ้านกเสี่ยวฝานอดสะท้านหวาดกลัวและมีความสุขไม่ได้

หวาดกลัวเพราะในตอนนั้นหากมันหนีไปก็อาจกลายเป็นนกกระจอกตุ๋นยาจีน

ดีใจที่มันตกลงรับเด็กหญิงเป็นเจ้านายผลตอบแทนที่ได้คือการอยู่ดีกินดีเปิดสติปัญญาสำเร็จมีจิตวิญญาณกลายเป็นภูตนกที่มีโอกาสเข้าสู่โลกแห่งการหลุดพ้นพันธนาการกลายเป็นตัวตนที่เหล่าสัตว์ทั้งหลายเล่าขานว่าเป็นเพียงตำนานเท่านั้น แต่นี้คือตำนานที่มีอยู่จริงโดยเจ้านายตัวน้อยของมันที่สอนสั่งวิชาให้

" ว้าวววหลินจื้อดำอายุตั้ง120 ปี "

ของชั้นยอดขนาดนี้ยังไม่มีคนเจอแสดงว่าป่าแห่งนี้คงไม่มีคนเข้ามานานมากจริงๆ ถ้าให้เดาล่ะก็คงต้องนานมากกว่ายุคที่อดยากจะมาถึงในตอนยุคนั้นที่ผู้คนยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อความอยู่รอดในการเสี่ยงชีวิตเข้าป่าใหญ่บนภูเขาลึกที่เต็มไปด้วยอันตรายจากทั้งสัตว์ร้ายและสภาพแวดล้อมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้และยิ่งมีอันตรายกว่านั้นคือในยุคโจรร้ายที่มักจะซ่อนตัวบนภูเขา

เรียกได้ว่าเหล่าคนที่มีความสามารถในการเอาชวิตรอดจากเขาแห่งนี้ไปสิบกลับออกมาแปดจากหุบเขาแห่งนี้ที่กินพื้นที่ไปหลายมณฑลของแดนใต้ในประเทศ

" จิ๊บๆๆๆๆๆๆ " เสี่ยวฝานมองเจ้านายตัวน้อยที่แย้มยิ้มดีใจกับสิ่งที่เรียกว่าเห็ดตรงหน้า แม้มันจะไม่รู้จักสมุนไพรมากนักแต่มันก็สามารแยกแยะถึงของล้ำค่าจากประสาทสัมผัสของจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ที่ล่องลอยออกมาจากสิ่งที่เติบโตขึ้นจากพลังฟ้าดินและธาตุทั้งเจ็ดได้เฉียบคม

และสัมผัสของมันยิ่งเฉียบคมมากขึ้นหลังจากกลายเป็นภูตนก

" นี่คือหลินจือดำเอามาปรุงยาบำรุงร่างกายได้ ทำให้คนธรรมดาร่างกายแข็งแรงส่วนฉันกับเธอแล้วก็เสี่ยวเฟยจะกลายเป็นว่าบำรุงธาตุในร่างกายให้แข็งแกร่ง "

" จิ๊บ " อะไรเจ้านายฉันไม่เข้าใจ

" หมายการปรุงยาที่จะทำให้นายกินแล้วกลายเป็นภูตนกที่แข็งแกร่งไปอีกขั้นนี้ "

เสี่ยวฝานเบิกตาโตที่โตอยู่แล้วยิ่งขึ้นเมื่อรู้ว่าของพวกนี้ทำให้มันได้กลายเป็นผุู้ที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น ทว่ามันกลับมองไปที่เจ้าไก่เสี่ยวเฟยที่เดินตามกึ่งบินพึ่งจะมาถึงอย่างไม่ค่อยจะพอใจนักยิ่งเมื่อเห็นร่างอ้วนที่มีขนเงาสวยเกินไก่ และร่างอ้วนจนทำให้ร่างเชื่องช้าทำให้อาจเสียเวลาหาสมบัติดีๆแบบนี้มันต่อว่าเจ้าไก่เสี่ยวเฟยอย่างไม่พอใจ

" จิ๊บๆๆๆๆๆๆ " เจ้าชักช้าเกินไปแล้วรีบๆไปเถอะ เจ้านายบอกว่าของพวกนี้เป็นสมบัติที่ทำให้พวกเราก้าวหน้าเร็วขึ้นนะ

" กุ๊กกกกกกก กุ๊ก กุ๊ก " ฉันก็เร็วอยู่นี้ไงแต่เจ้าบินได้ฉันบินไม่ได้เห็นไหมขนสวยๆของฉันแตกหมดแล้ว

ทั้งนกและไก่ต่างส่งเสียงโต้ตอบเสียงดังทำให้บรรยากาศในป่าจากที่เงียบสงบถึงขั้นเรียกว่าวังเวงกลายเป็นคึกคักขึ้นทันตา ซ่งซิงเหลียนมองสองฝ่ายโต้เถียงด้วยภาษาสัตว์ที่มีสปีชี่ล์เดียวกันเป็นสัตว์ปีกทำให้เข้าใจกันได้และยิ่งเข้าใจภาษากันมากขึ้นเพราะต่างก็เลื่อนขั้นกลายเป็นภูตสัตว์แล้ว ด้วยความชาชินกับเสียงพวกนี้เพราะไม่มีวันไหนที่สองตัวนี้จะอยู่อย่างเงียบสงบ

ตอนอยู่บ้านเสียงนกและไก่มีประโยชน์ทำให้พ่อกับแม่ต้องขบขันกับการโต้เถียงของพวกมันสองตัวบ้างแม้ว่าท่านทั้งสองจะไม่เข้าใจสิ่งที่สองตัวนี้ส่งเสียงออกมาทว่าท่าทางพวกมันก็ทำให้รุู้ได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ยิ่งบ้างครั้งโต้เถียงถึงขั้นตีกันจนท่านทั้งสองต้องคอยปรามก็มีมาแล้วหลายครั้งแต่ตอนนี้เราอยู่ในป่าสิ่งที่มีประโยชน์คือสายตาหาทองคำ

" จิ๊บบบ จิ๊บๆ " เจ้านายบอกว่าถ้าหาสมุนไพรพวกนี้เจอก็สามารถปรุงยาที่ทำให้พวกเราแข็งแกร่งขึ้น" จิ๊บๆ จิ๊บๆ " ถึงเวลานั้นเจ้าอยากจะมีขนสวยขนาดไหนก็ง่าย

" กุ๊กๆ " จริงๆหรือ เสี่ยวเฟยมองเจ้าเสี่ยวฝานที่ร่ายยาวออกมาอย่างไม่น่าเชื่อกับคำพูดของมันเลยไม่ทันได้ยินที่ทั้งสองพูดกันก่อนจะไปหาคำตอบเพื่อยืนยันจากเจ้านายที่มองทั้งสองอยู่ก่อนแล้ว

" จริงๆ ยิ่งหาได้มากและล้ำค่ามากก็จะสามารถทำยาได้ตรงกับความต้องการ อยากแข็งแกร่งก็ได้หรือเธออยากมีขนสวยๆกว่านี้ฉันก็ทำยานั้นได้นะ " ซ่งซิงเหลียนยกนิ้วโป้งให้เสี่ยวฝานที่พูดแค่ประโยคเดียวก็เขาใจความหมายที่เธอสื่ิออกมาและแทบอยากจะปรบมือให้กับฉลาดเจ้าเล่ห์ที่หลอกล่อให้เสี่ยวเฟยจอมขี้เกียจออกทำงานได้โดยไม่ต้องบอก

เสี่ยวเฟยเมื่อได้รับการยืนยันจากเจ้านายแล้วมันก็ไม่รอช้าวิ่งเข้าป่าไปไม่หันกลับไปมองหลังอีก ทั้งยังสลัดความสะอาดและสวยงามของขนที่รักษาไว้มานานทิ้งเพื่อการข้างหน้าที่จะมีขนสวยกว่าเดิมให้ได้

" กุ๊กกกกกกกกก " เพื่อขนสวยๆ เจ้านายรอรับสมบัติได้เลย

" โอ้วววว เสี่ยวเฟยสู้ๆ " ซ่งซิงเหลียนมองเจ้าไก่สาวที่ถูกล่อล่วงจากเพื่อนรักเพื่อนแค้นอย่างเจ้าเสี่ยวฝานวิ่งเข้าป่าในรอบหลายปีนับตั้งแต่เธอเก็บมันไว้เลี้ยงกินไข่ด้วยความเหลื่อเชื่อกับสิ่งที่มันกำลังทำซึ่งขัดกับความเป็นตัวมันที่เรียกว่า

ขี้เกียจจนอ้วนกลม

แต่รักขนเท่าชีวิต

อ๋อที่อ้วนไม่ใช่ว่าเลี้ยงให้อ้วนแล้วจะได้ออกไข่ใบใหญ่ให้เธอกิน ตั้งแต่ที่ไก่สาวเสี่ยวเฟยสามารถฟักลูกไก่ออกมาได้สองตัวเมี่อสามปีก่อนมันก็ไม่ยอมให้ไก่ตัวไหนแตะต้องมันอีก เธอเคยได้เห็นไก่โต้งตัวโตโดนเจ้าไก่ป่าสาวตัวนี้กระโดดกรงเล็บขยุ้มจิกปากจิกจนขนร่วงทั้งตัวหลังจากนั้นก็เรียบร้อยกลายเป็นซุปไก่โต้งในหม้อให้ครอบครัวเจ้านายบำรุงร่างกาย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีไก่ตัวผู้ตัวไหนกล้าเข้าใกล้เจ้าเสี่ยวเฟยอีก

ถ้าให้เธอหาคำตอบนี้ คงเพราะเสี่ยวเฟยได้เปิดสติปัญญาจนมีจิตวิญญาณแล้วนั่นเอง

" ใกล้จะมืดแล้ว เราเร่งเดินทางให้ไปถึงจุดพักที่เธอว่าเถอะเสี่ยวเฟย " ซ่งซิงเหลียนโบกมือไปที่เห็ดหลินจือดำที่ขึ้นอยู่บนโคนไม้จากนั้นโคนไม้ที่มีเห็ดอยู่ก็หายไป ทั้งหมดลงอยุ่ในถุงหอมมิติใบเล็กนั้นที่ผูกห้อยข้างเอวเธอ

" จิ๊บๆ " เสี่ยวฝานรับคำแล้วโผบินนำหน้าเธอตรงเข้าป่าลึกเพื่อให้ถึงจุดพักที่เจ้าภูตนกพูดถึงบ่อยๆ เพราะที่นั้นเคยเป็นรังของมัน

พรึ่บบบ

เพียงพริบตาเดียวร่างเล็กก็หายไปจากจุดที่อยู่ทำให้เสี่ยวเฟยเร่งกระพือปีกเร็วขึ้นความรวดเร็วของมันไม่ต่างจากนกอินทรีตัวเต็มวัยหากมันไม่แข็งแกร่งขึ้นเกรงว่าอาจถูกเจ้านายตัวน้อยทิ้งไว้เบื้องหลังเพราะไร้ความสามารถ การมีเจ้านายที่เก่งเกินวัยลูกน้องอย่างมันก็ต้องมีความสามารถเกินต้านไม่อย่างนั้นผู้อื่นจะดูถูกเจ้านายผ่านลูกน้องไร้ความสามารถสอนสั่งไม่ได้

" อืมมมม " ซ่งซิงเหลียนมองใช้วิชาพุ่งทะยานผ่านป่าใหญ่เกือบครึ่งชั่วโมงก็มาถึงจุดที่เสี่ยวเฟยพูดถึงสายตากวาดมองรอบตัวที่มีแต่ต้นไม้ใหญ่หลายสิบต้นที่กระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้างดอกไม้ป่าหลายสายพันธุ์ต่างชูช่อออกดอกส่งกลิ่นหอมอบอวลด้วยบรรยากาศแบบนี้ทำให้บริเวณนี้เกิดมีพลังวิญญาณ ถึงแม้จะบางเบาแต่ก้นับว่าหนาแน่นพอสำหรับเหล่านกตัวน้อย

" สงสัยวันนี้เจ้าพวกนกคงต้องย้ายถิ่นซะแล้ว "

เพราะพลังวิญญาณพวกนี้ต้องกลายเป็นอาหารว่างของเธอหมด
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel