บท
ตั้งค่า

3.ขึ้นเขา

" ซ่งซิงเหลียน " เด็กๆหลายคนที่ปั่นจักรยานตามไล่หลังเด็กหญิงร่างอวบอ้วนผิวขาวชมพูหน้าตาหน้ารักดวงตากลมตาใสกระจ่างและมีรอยยิ้มที่สดใสประดับใบหน้าอยู่เสมอ ซ่งซิงเหลียนในวัยเจ็ดขวบอยู่ในชั้นประถมต้นเด็กหญิงคนนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนรอบตัวเสมอเพราะความใจดี อ่อนโยน เฉลียวฉลาดที่เป็นแบบอย่างให้เพื่อนๆทำให้ผู้ใหญ่ในหมู่้บ้านพลอยเอ็นดูเธอไปด้วย

ซ่งซิงเหลียนหันไปมองก็พบกับกลุ่มเด็กชายหญิงหลายคนในหมู่บ้านที่รวมกลุ่มปั่นจักรยานจะไปที่ไหนสักแห่ง ถ้าเดาไม่ผิดละก็คงจะขึ้นเขาหรือไม่ก็ไปที่ทะเลสาปน้ำจืดหลังหมู่บ้านที่นั้นเป็นที่รวมตัวของเด็กๆ

" จะไปเล่นไหนกันเหรอ " เด็กหญิงยิ้มอ่อนก่อนจะส่งสายจดจ้องไปให้กับเพื่อนๆ " การบ้านปิดเทอมฤดูร้อนพวกเธอเสร็จแล้วหรือ " เพื่อนหลายคนสะดุ้งกับคำว่าการบ้านแต่หลายคนกลับยิ้มอย่างสดใส

" 5555 เสร็จแล้วล่ะ พวกเราฟังเธอนะถ้าอย่างเล่นโดยที่บ้านไม่บ่นละก็ให้ทำให้เสร็จ นี่ฉันนั่งทำทั้งอาทิตย์เลย " เด็กหญิงที่เป็นผู้นำหัวเราะสดใส การบ้านที่เธอตั้งใจนั่งทำทั้งอาทิตย์ถูกทำเสร็จอย่างสมบูรณ์ไม่เพียงแต่การบ้านเสร็จแล้วได้เที่ยวเล่นอย่างสบายใจยังได้รับคำชมจากที่บ้านด้วย

" ฉันยังไม่เสร็จเลย " เด็กชายก้มหน้างุดก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนที่มองเขาอยู่ด้วยความชื่นชมกับความกล้าหาญในการกล้าพูดกับหัวหน้าห้องว่าการบ้านยังไม่เสร็จและยังอยากรู้คำตอบจากเด็กชายอีก

" มันยากเหรอ"

" วิชาอื่นฉันทำได้นะหัวหน้า แต่ไอ้วิชาเขียนเรียงความนี่มันเขียนไม่ออกเลยจริงๆ "

" ฉันเหมือนกัน "

" ฉันด้วย "

เด็กชายหญิงหลายคนโต้ตอบเห็นพร้อมกันเมื่อพวกเขาเจอปัญหาการบ้านเดียวกัน การรวมตัวปั่นจักรยานเล่นในวันนี้ดูเหมือนจะถูกลดความสนุกไปแล้วล่ะวันนี้ เพราะคำว่าการบ้านไม่เสร็จ แต่ไม่มีใครโทษว่าเป็นความผิดของซ่งซิงเหลียนเลยเพราะรู้ว่าเด็กหญิงหัวหน้าห่วงว่าพวกเขาจะถูกคุณครูดุแถมตัดคะแนนอีกหากไม่ส่งการบ้านให้ครบ

" อ๋อเรียงความ ไม่เป็นไรหรอกค่อยเขียนก็ได้ ก็หัวข้อมันคือวันหยุดของตัวเองนี่นาแต่ก็ต้องมีเรียงความส่งนะ ถ้าหัวข้อก็ต้องเป็นความสนใจของตัวเองอยู่แล้ว "

เด็กทุกคนพยักหน้าหงักๆเห็นด้วย

" ฉันจะไปหาพ่อที่สวนก่อนนะ พวกเธอระวังตัวตามที่คุณครูสอนล่ะ " ระวังตัวตามที่คุณครูสอนหมายถึง ไม่เข้าใกล้คนแปลกหน้า ไม่รับของจากคนแปลกหน้า เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ให้ตะโกนให้คนช่วยและวิ่งหนีให้ไกล และไม่ไปเล่นใกล้แม่น้ำหรือบนเขาลึกโดยไม่มีผู้ใหญ่ไปด้วย

ซ่งซิงเหลียนโบกมือลาเหล่าสหายตัวน้อยที่น่ารักของเธอก่อนที่ก่อนจะเดินไปอีกทางของหมู่บ้านค่อนข้างไกลถึงอย่างนั้นเสันทางบนถนนต่างก็เต็มไปด้วยผู้คนเพราะมันคือเส้นทางขึ้นเขาที่ง่ายที่สุดเนื่องจากเนินเขาที่ค่อนข้างเตี้ยและอีกเหตุผลคือเส้นทางนี้เป็นฝั่งของชาวบ้านที่เลือกทำสวนสร้างฟาร์มเสียส่วนใหญ่

สวนผลไม้และฟาร์มของพ่อเธอก็อยู่ที่นี้เรียกได้ว่าขนาดใหญ่ถึง100ไร่ที่เดียวมีคนงานที่ต้องจ้างประจำหลายคนเพราะพ่อเน้นทำสวนอย่างปลอดภัย และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ทำก็ใหญ่มากทั้งไก่ไข่และนมวัวต่างก็เป็นที่ต้องการของตลาดมากเรียกว่าในอำเภอนี้พ่อเป็นเศรษฐีเลยทีเดียว

" ซิงซิง มาส่งข้าวซ่งหลี่หรือ "

" พ่อหนูอยู่สำนักงาน " ชายอีกคนกล่าวก่อนที่จะลงมือพรวดดินต้นไม้ต่อด้วยความขยันเพราะเจ้านายสวนนี้ใจป้ำสุดๆ เรียกได้ว่าตั้งแต่ซ่งหลี่มารับช่วงต่อสวนจากพ่อที่เสียไปแล้วก็ได้ขยายพื้นที่จากสวนเล็กๆ 20 ไร่ มีขนาดใหญ่นับร้อยไร่ เป็นอันดับหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ

ทำให้ชาวบ้านในบ้านที่ทำสวนและฟาร์มพลอยได้ประโยชน์ไปด้วยจากการรวมกลุ่มที่ซ่งหลี่จัดตั้งเพื่อส่งผลผลิตออกส่งขายกับพ่อค้าแม่ขายที่ทำสัญญาไว้กันเบี้ยวรับของ แต่ผลผลิตที่ส่งออกขายต้องได้มาตฐานไม่งั้นซ่งหลี่ไม่ให้ร่วมกลุ่ม

เรียกว่าหมู่บ้านหยูหลินร่ำรวยและเจริญที่สุดในอำเภอนี้

" จ๊ะ " เด็กหญิงรับคำก่อนจะเดินตรงไปที่ศาลาพักที่พ่อเธอสร้างไว้หน้าทางเข้าสวนเพื่อใช้พักผ่อนของคนงานและคนที่มาติดต่อเขา ที่ศาลานี้มีจักรยานคนเล็กสีสันสดใสสีแดงจอดอยู่ พ่อเธอซื้อให้เอาปั่นเล่นในสวนเพราะจะให้ขาเล็กๆนี้วิ่งทั่วสวนเลยก็เป็นไปไม่ได้

สำนักงานขนาดเล็กที่มีห้องติดแอร์อยู่และโกดังขนาดกลางที่จัดสรรพื้นที่รับส่งของตั้งห่างจากทางเข้าสวนอยู่ไม่ไกลนักทำให้เธอปั่นจักรยานได้ไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงจากนั้นเดินร่างเล็กก็เดินปรี่ตรงไปหาพ่อทีนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ พร้อมกับจดบางอย่างลงสมุดเล่มหนา

" พ่อขาาา แม่ให้เอาข้าวมาส่งวันนี้มีซี่โครงเปรี้ยวหวานด้วยนะ " ซ่งซิงเหลียนวางเถาปิ่นโตลงบนโต๊ะรับแขกด้านหน้าก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวยาว

สายตาที่เปล่งประกายสดใสจ้องบิดาบุญธรรมอย่างคาดหวังบอกอย่าง นั้นทำให้ผู้ถูกจ้องมองต้องต้องทอดถอนใจอย่างช่วยไม่ได้กับความชั่งตื้อของลูกสาวที่มีคำขอค่อนข้างจะน่าปวดหัว

" ซิงซิงถ้าหนูไปแล้วพ่อจะทำยังไง "

" เรื่องแค่นี้เองหนูจะให้เสี่ยวฝานส่งข่าวบอกส่วนถ้าใครถามหาหนูให้พ่อบอกว่าไปเยี่ยมญาติในเมืองก็ได้นี่น่า " เสี่ยงฝานที่พูดถึงคือนกกระจิ๊บที่มาติดบ่วงในสวนและได้เธอช่วยไว้เมื่อต้นปีจากนั้นมันก็ตามติดเธอต๋อยๆไม่กลับป่า

เพราะเรื่องจะรอช้าไม่ได้แล้วมันเสยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ทั้งที่มีทรัพยากรใกล้ตัวจนน้ำลายไหล

" แม่โยนเรื่องนี้มาให้พ่อใช่ไหม "

ซ่งหลี่ส่ายหน้าเบาๆก่อนนวดขมับตนเองพลางมองบุตรสาวตัวน้อยที่ทำตัวน่ารักกว่าทุกวันการทำแบบนี้ย่อมหวังผลบางอย่างและเขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยเพราะว่าหากปฏิเสธไป ลูกสาวตัวน้อยก็ไม่ปฏิบัติตามอยู่ดี

แต่...แต่ว่าจะเอามาตรฐานคนธรรมดาทั่วไปมาใช้กับลูกสาวเขาไม่ได้ก็เพราะว่าลูกสาวเขาไม่ใช่เด็กเอ่อ...เรียกว่าคนธรรมดาทั่วไปได้

ลูกสาวตัวน้อยของเขาค่อนข้างพิเศษกว่าคนทั่วไปที่ความสามารถไม่ธรรมดาและคนธรรมดาไม่มีแน่

เรียกว่าเป็นพวกมีวิชาบำเพ็ญเพียรแบบผู้ฝึกตนในสมัยโบราณคงเรียกว่า วิชาเต๋า

แต่เขารู้จักแค่วิชาการต่อสู้ที่รู้และได้ยินว่ามีผู้ฝึกจริงและสามารถยกระดับให้แข็งแกร่งจนผู้คนขนานนามว่าเซียนเฒ่ามีสุขภาพดีและอายุยืนยาวบางคนสามารถคงความหนุ่มสาวได้ตราบจนสิ้นอายุขัย

" ลูกคิดว่าจะใช่เวลาแค่ไหนในการอยู่บนเขา ไหนจะการกินอยู่อีก ซิงซิงลูกดูแลตัวเองได้จริงๆใช่ไหม " เมื่อเจอกับคำถามนี้ซ่งซิงเหลียนมองบิดาบุญธรรมอย่างซาบซึ้งกับความห่วงใยของคำว่าครอบครัวที่ตัวเองไม่เคยได้สัมผัสในชีวิตของภพเซียน

นี่สินะชีวิตที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ต่างยอมสละเพื่อลิ้มรสสักครั้งในชีวิต

" พ่อคะ...ดูดีๆนะ " ซ่งซิงเหลียนยกถุงหอมใบเล็กสีม่วงปักลวดลายดอกบัวสีแดงสดที่มีความปราณีตอย่างหาชางฝีมือที่เย็บปักได้ยากในสมัยนี้ทำออกมาได้ยากให้ซ่งหลี่ดู

" โอ้ออ...ฝีมือดีขึ้นอีกแล้วนะลูกสาวของฉันเก่งจริงๆ " พูดอย่างภาคภมูิใจในความสามารถของลูกสาวที่เก่งรอบด้านจนนึกสงสัยในความสามารถว่าเกี่ยวกับการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใ่ส่ของเขากับภรรยาหรือเกี่ยวกับสายเลือดผู้ให้กำเนิดที่น่าจะไม่ธรรมดาแน่นอนของลูกสาวบุญธรรม

นี้คือการเลี้ยงดูมากกว่าไม่เกี่ยวข้องกับสายเลือดหรอก

คิดอย่างนั้นก็ยื่นอกไหล่เหยียดตรงอย่างหยิ่งผยองกับความสามารถของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้บุนวมเดินตรงไปนั่งข้างบุตรสาวที่กวักมือเรียกอยู่แล้วหันซ้ายมองขวาราวกับกำลังจะเปิดเผยความลับที่ไม่อยากให้ใครรู้เห็น

" เอาละห้ามตกใจนะคะ "

" วาบบบ "

" เฮือกกกก " ซ่งหลี่มองบุตรสาวบุญธรรมที่สบัดถุงหอมใบเล็กในมือเบาๆก่อนจะปรากฏข้าวของหลากหลายอย่างบนโต๊ะที่จู่ก็โผล่มาทำเอาเขาแทบช็อก นี่สินะความมหัศจรรย์ของโลกผู้ฝึกวิชาที่ผู้คนต่างจินตนาการถึงมันและเฝ้าฝันการอยากมีความสามารถแบบนี้

เห็นความสามารถของซ่งซิงเหลียนกับตาก็วันนี้

ชีวิตนี้ลูกสาวของเขาไม่ไปรังแกคนอื่นนับว่าสร้างบุญกุศลมหาศาล บอกเลยว่านี้คือความเชื่อใจในการใช้ชีวตตลอดมาเพราะด้วยนิสัยที่ไม่เคยมีปัญหาหรือสร้างปัญหาตั้งแต่เด็กและกลับกันใครที่มาสร้างปัญหาหรือสร้างความรำคาญให้เด็กหญิงไม่พอใจถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆอย่างป้าข้างบ้านแอบนินทาเรื่องบ้านพวกเขา

" ซิงซิงเรื่องป้าหงข้างบ้านเราฝีมือลูกใช่ไหม" นี่คือเรื่องที่ค้างคาใจเขามาหลายปีกับเหตุการณ์สะเทือนหมู่บ้านที่ไม่สามารถจับขโมยหรือแม้แต่ผู้ต้องสงสัยได้เลย

เขาคิดว่าเขาสามารถจับตัวคนร้ายที่กระทำอย่างอุกอาจได้แล้ว

กับเรื่องสะเทือนหมู่บ้านที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบหลายปีที่เช้าวันรุ่งขึ้นป้าหงข้างบ้านต้องสูญเสียขาหมูเค็มที่หมักไว้ในครัวไปทั้งหมด ได้ยินว่าเป็นสิบขาเลยทีเดียวจนป่านนี้จับมือใครดมไม่ได้และที่เขามั่นใจก็เพราะมีขาหมูขนาดใหญ่วางบนโต๊ะต่อหน้าตอนนี้ยังไงล่ะ

" ใครให้ความกล้าป้าหงชอบนินทาแม่เราในเมื่อชอบทำอะไรลับหลังก็เจอคนทำอะไรลับหลังบ้าง " ว่าพลางก็ยื่นมือลูบขาหมูเค็มอย่างมีความสุขก่อนนึกถึงรสชาติของมันที่เธอแอบเอาออกมาให้แม่ทำให้กินบ่อยๆ จนเหลือไม่กี่ขา ท่าทางแบบนั้นทำให้ซ่งหลี่ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

" เอื้อก "

" ขาหมูป้าหงอร่อยกว่าที่ภัตตาคารในจังหวัดอีก "

" น่าจะเอามาให้หมด "

ยังจะเอาอีกหรือ
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel