บท
ตั้งค่า

2 ไม่เป็นไปดั่งที่คิด

2

ไม่เป็นไปดั่งที่คิด

ตำหนักใหญ่

คนเฝ้ารอคำตอบเดินวนไปมาอยู่ภายในตำหนักอย่างร้อนใจ เวลานี้ด้านในไม่มีผู้ใดอยู่นอกจากโจวจางเหว่ยเพียงคนเดียว เขาสั่งให้ธารกำนัลทั้งหมดรวมถึงองครักษ์และหัวหน้าขันที ที่มักอยู่ข้างกายแทบจะตลอดเวลาออกไปรอด้านนอก เรื่องราวครั้งนี้เป็นเรื่องเสื่อมเสียน่าอับอายขายขี้หน้านัก เป็นไปได้จึงไม่อยากให้ผู้ใดรับรู้มากไปกว่านี้อีก

ตั้งแต่ลูกสาวคนนี้ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาบนโลก ไม่มีวินาทีไหนที่โจวจางเหว่ยไม่รู้สึกอยากบีบคอนางให้ตายคามือ วันเกิดของนางคือวันตายของสตรีที่เขารัก ถึงจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขและมีใบหน้าคล้ายคลึงกันมาก แต่โจวซูฮวาก็มิอาจแทนที่มารดาของนางได้

เลี้ยงเอาไว้ข้างกายก็เปรียบดั่งหนามยอกอยู่ในอก ทุกคราที่เห็นหน้าพระราชธิดาก็มักจะหวนนึกถึงเมียรักอยู่ร่ำไป มันเป็นสิ่งตอกย้ำว่าทุกสิ่งที่โจวจางเหว่ยพยายามทำมาทั้งหมดอย่างยากลำบาก เพื่อให้ได้ครอบครองสตรีที่รัก มันพังครืนในเสี้ยววินาทีเดียวเพียงแค่โจวซูฮวาถือกำเนิด

ครั้นจะลงมือฆ่าให้ตายก็ทำไม่ได้อีก ขึ้นชื่อว่าเป็นพระราชธิดาโดยสายเลือด ก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอให้โจวจางเหว่ยต้องปล่อยให้นางมีชีวิตอยู่ต่อ นี่ก็ปาเข้าไปร่วมยี่สิบสองปีเต็มแล้ว ที่ต้องคอยทนเห็นหน้าของสตรีที่พรากความสุขของเขาไป

และในทุกๆ วันที่โจวซูฮวามีลมหายใจอยู่ ไม่เคยมีวันไหนที่นางไม่ก่อเรื่องให้เขาต้องปวดเศียรเวียนเกล้า ทำลายชื่อเสียงราชวงศ์โจวที่อุตส่าห์สั่งสมมาเนิ่นนานให้แปดเปื้อน มีนางอยู่คล้ายมีตัวกาลกิณีอยู่ในเมืองหลวง เป็นตัวหายนะที่ยากจะกำจัดให้สิ้นซาก

ลงโทษนางมาก็สารพัดจะทำ บางคราบทลงโทษยังดูรุนแรงกว่าที่พวกข้าทาสโดนเสียด้วยซ้ำ นางยังไม่หลาบจำและทำตัวดีๆ ให้ผู้เป็นบิดาอย่างเขาไม่หนักใจเลย วันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ศักดิ์ศรีวงศ์ตระกูลต้องป่นปี้ในพริบตา เพราะการกระทำผิดจารีตประเพณีที่โจวซูฮวาก่อขึ้น

ไหนจะแผนการที่เขาตั้งใจจะเขี่ยเฉินตงหยางออกจากแคว้น โดยการส่งไปอภิเษกสมรสต่างแดนเพื่อกำจัดหอกข้างแคร่ให้พ้นจากชีวิตอีก นางทำทุกอย่างพังย่อยยับไปหมด จะไม่ให้เปรียบโจวซูฮวาเป็นตัวหายนะได้เยี่ยงไรเล่า

จมอยู่ในห้วงความคิดได้เพียงไม่นานบานประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมกับสองร่างชายหญิงตัวก่อปัญหาเดินเข้ามาด้านใน ทั้งสองคนทำความเคารพผู้เป็นเจ้าของตำหนักตามมารยาท และยืนนิ่งไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา

“ข้าให้พวกเจ้ามาเพื่ออธิบายในการกระทำต่ำช้าที่ก่อขึ้น มิใช่ให้มายืนอมน้ำลายกันเยี่ยงนี้!!”

คนที่ไฟโทสะกำลังลุกโหมตวาดลั่นตำหนักเมื่อทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจ ยกมือชี้หน้าคนทั้งคู่อย่างเหลืออด

“เรื่องทุกอย่างเป็นเพียงเหตุเข้าใจผิดที่ไม่อาจยับยั้งได้พ่ะย่ะค่ะ ขอฝ่าบาทโปรดลงโทษกระหม่อมที่ควบคุมสติตนเองไม่ได้”

เฉินตงหยางทรุดกายคุกเข่าคำนับลงกับพื้น เพื่อหวังให้เรื่องทุกอย่างจบด้วยการลงโทษเพียงแค่เขาคนเดียว นั่นยิ่งสร้างความประทับใจให้กับสตรีซึ่งยืนอยู่เบื้องหลัง ไม่มีแม้สักคำที่เขาจะกล่าวอ้างถึงนาง ทั้งๆ ที่แผนการทั้งหมดเป็นโจวซูฮวาที่คิดและก่อขึ้นทั้งนั้น

“ลงโทษงั้นรึ? ท่านคิดว่าข้าสามารถทำอะไรท่านได้มากมายนักหรือไงอ๋องเฉิน!”

ขืนทำอย่างที่ใจปรารถนา ให้บทลงโทษรุนแรงกับบุรุษตรงหน้า มีหวังแผ่นดินแคว้นฟู่ได้ลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน แล้วอย่างนี้โจวจางเหว่ยจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากปล่อยให้เรื่องมันจบไปเงียบๆ โดยลงโทษได้เพียงแค่คนของตัวเองอย่างโจวซูฮวาเท่านั้น

“กระหม่อมรับประกันว่ามันจะไม่มีปัญหาอันใด ตามมารบกวนพระทัยฝ่าบาทภายหลังอย่างแน่นอน ขอโปรดทรงวางพระทัยได้ ลงโทษกระหม่อมตามที่เห็นควรเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินตงหยางยืนยันอย่างหนักแน่นในคำพูด ทว่าโจวจางเหว่ยก็ยังรู้สึกไม่กล้าเสี่ยงราดน้ำมันลงบนกองฝืนที่ยังไม่สิ้นเชื้อไฟอยู่ดี

ใครจะเดาใจอ๋องเฉินจอมเย็นชาเจ้าแผนการอย่างเขาได้ บางทีเหตุการณ์ในครั้งนี้ หากโจวจางเหว่ยผลีผลามทำอะไรลงไปอาจกลายเป็นเข้าทางอีกฝ่าย เขาอาจนำเรื่องนี้มาเป็นหัวข้อในการก่อกบฏภายหลัง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือต้องระมัดระวังตัวเอาไว้ให้ดี

“เสด็จพ่อ! เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของลูกต่างหากเพคะ ถ้าพระองค์คิดจะลงโทษท่านอ๋อง ให้เปลี่ยนความคิดมาลงโทษหม่อมฉันแทนเถอะ ท่านอ๋องเป็นเพียงเหยื่อในเรื่องนี้เท่านั้น”

จังหวะที่โจวจางเหว่ยทำสีหน้าครุ่นคิดไม่ตกอยู่ชั่วอึดใจ โจวซูฮวาก็คุกเข่าลงเคียงข้างเฉินตงหยาง และโพล่งสิ่งที่อยู่ภายในใจออกมา

โจวซูฮวาเก็บรายละเอียดมาสักพักหนึ่งแล้ว ไม่มีใครพูดถึงการแต่งงานซึ่งเป็นข้อสรุปที่นางต้องการสักที เอาแต่พูดถึงบทลงโทษเพียงเท่านั้น แล้วอย่างนี้นางจะได้แต่งเข้าจวนอ๋องเฉินอย่างที่หวังหรือไม่

“นังลูกตัวดี! ที่เจ้าพูดหมายความว่าเยี่ยงไร ทั้งหมดเป็นเพียงแผนการที่เจ้าตั้งใจก่อมาปั่นประสาทข้างั้นรึ?”

โจวจางเหว่ยสืบเท้าปรี่เข้าประชิดกายธิดาของตน ก่อนใช้นิ้วชี้ผลักศีรษะเล็กจนร่างบางเซล้มนั่งราบกับพื้นตำหนักเย็นเฉียบ

“เหตุใดเจ้าจึงไม่อยู่เงียบๆ?”

เฉินตงหยางหันไปแสดงสีหน้าไม่พอใจพร้อมกดเสียงต่ำถามตัวก่อปัญหา ทุกอย่างมันควรจบโดยเร็วที่สุด เพราะเขาเบื่อที่จะต้องมานั่งปั้นหน้าสำนึกในความผิดเคียงข้างนางเต็มทน

อุตส่าห์ออกตัวรับความผิดทั้งหมดไว้แทนแล้วแท้ๆ ใยนางจึงต้องทำให้เรื่องราวมันยืดเยื้อขึ้นด้วย มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเสียเต็มประดา

ดวงตากลมใสตวัดมองเฉินตงหยางเพียงชั่วครู่ โจวซูฮวารับรู้ได้ถึงความเบื่อหน่ายเต็มกลืนของคนข้างกาย เขาคงอยากไปให้พ้นๆ จากตรงนี้เต็มที่ แต่ก่อนจะได้แยกย้ายกันไปไหน อย่างไรเสียนางต้องได้ข้อสรุปเป็นการแต่งงานเท่านั้น!

“เรื่องทั้งหมดเพียงเพราะลูกต้องใจท่านอ๋องเท่านั้นเพคะ หม่อมฉันมิอาจหักห้ามความรู้สึกที่มีอยู่ได้ จึงไม่ทันยั้งคิดลงมือกระทำทุกอย่างลงไป”

“…!”

“…!!”

“ขอเสด็จพ่อโปรดมอบงานอภิเษกให้ลูกกับอ๋องเฉินด้วย!”

“…!!!”

สองบุรุษต่างวัยกันจ้องเขม็งมาที่โจวซูฮวาเป็นตาเดียว ทว่าในแววตาของทั้งคู่แตกต่างกันคนละความรู้สึก โจวจางเหว่ยตกใจในสิ่งที่ตนพึ่งได้รับรู้จากปากของธิดา ขณะที่เฉินตงหยางกำลังรู้สึกได้ถึงเรื่องยุ่งยากซึ่งกำลังจะมาเยือนชีวิตตน

“ฝ่าบาทโปรดไตร่ตรองให้ดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ที่องค์หญิงกล่าวมาเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ”

เฉินตงหยางจะไม่ยอมให้เรื่องทั้งหมดเป็นไปตามที่ตัวก่อปัญหาต้องการแน่ เพียงแค่คิดว่าต้องมีโจวซูฮวาอยู่ในชีวิตทุกๆ วันนับต่อจากนี้ เขาก็รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าแล้ว

“ที่ท่านเอ่ยเยี่ยงนี้ แสดงว่ามิปรารถนาจะรับธิดาข้าเป็นชายางั้นรึ?”

ถึงจะตกใจในสิ่งที่โจวซูฮวาเอ่ยเมื่อครู่อยู่ ทว่าโจวจางเหว่ยกลับรู้สึกแปลกใจที่เฉินตงหยางไม่อยากเกี่ยวดองกับตนมากกว่า

นี่เป็นโอกาสที่เขาจะมีสิทธิ์ได้ครอบครองราชบัลลังก์มากขึ้น ใยท่าทีที่เฉินตงหยางแสดงออกถึงดูไม่ต้องการเช่นนั้น หรือความจริงแล้วอ๋องเฉินมั่นใจว่าจะชิงบัลลังก์ได้ด้วยกองกำลังที่ซ่องสุมของตนเอง

“กระหม่อมมิได้มีเจตนาจะหมิ่นเกียรติของฝ่าบาท เพียงแต่เวลานี้ยังไม่มีความคิดในเรื่องคู่ครอง และตั้งมั่นจะครองตนอยู่อย่างสันโดษไปเรื่อยๆ พ่ะย่ะค่ะ”

เป็นจริงอย่างที่กล่าวออกไปเฉินตงหยางยังไม่พร้อมรับใครเข้ามาในชีวิต เวลานี้รอบกายเขามีแต่อันตรายมากมายจากการถูกลอบฆ่า หากแต่งชายาเข้าจวนมาย่อมมีห่วงเพิ่มขึ้น ไหนจะแผนการใหญ่ที่วางไว้อีก

อีกทั้งการอภิเษกธิดาองค์เดียวของฮ่องเต้แคว้นฟู่เป็นพระชายา ยิ่งทำให้ชีวิตเฉินตงหยางถูกเพ่งเล็งมากยิ่งกว่าเดิม คนที่ไม่รู้เรื่องอาจเข้าใจผิดว่าเขาต้องการรวมอำนาจกับโจวจางเหว่ย และหวังฉกชิงมันทีหลังเป็นแน่

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรับผิดชอบสตรีที่กำลังนั่งอยู่ข้างกาย ถึงโจวซูฮวาจะมีนิสัยแก่นแก้วแสบสันชอบสร้างเรื่องไปวันๆ แต่เฉินตงหยางก็พอจะเข้าใจว่านางต้องการเรียกร้องความสนใจจากผู้เป็นบิดาเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีพิษสงร้ายกาจอันใด

เป็นเพียงสตรีตัวเล็กๆ ที่ไม่เคยได้รับความรักจากใคร ความจริงโจวซูฮวาน่าสงสารมากกว่าน่ารำคาญเสียอีก แต่ก็นะ... อย่างไรเสียนางก็ยังน่ารำคาญในสายตาเฉินตงหยางอยู่ดี

“งามหน้านัก!! บุรุษเขาไม่ได้ต้องการเจ้า เช่นนี้แล้วจะทำเยี่ยงไร นังลูกทรพี!!”

เมื่อทำอันใดเฉินตงหยางไม่ได้โจวจางเหว่ยจึงหันมาเล่นงานพระธิดาแทน มือใหญ่เหี่ยวย่นยกง้างฟาดลงบนศีรษะและร่างกายบอบบาง อีกข้างจิกทึ้งกลุ่มผมยาวสลวยสีดำมันเงาอย่างแรง เสียงร้องห้ามจากคนข้างๆ ไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำนี้ได้

“ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินตงหยางพยายามเข้าห้าม เอาร่างกายตนขวางการบันดาลโทสะของโจวจางเหว่ยอย่างเต็มที่ ทว่ากลับดูไร้ประโยชน์เพราะอีกฝ่ายไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

“ในเมื่ออ๋องเฉินไม่คิดจะรับนางเป็นชายา ก็อย่ามายุ่งเรื่องในครอบครัวข้า!!”

โจวจางเหว่ยหันไปกล่าวกับเฉินตงหยางเพียงครู่เดียว ก็กลับมากระหน่ำทุบตีโจวซูฮวาต่อ เขารู้สึกดีที่ได้ลงมือกับสตรีนางนี้ ยิ่งเห็นนางร้องไห้คร่ำครวญอย่างเจ็บปวดยิ่งมีความสุข

ทว่าโจวซูฮวากลับเอาแต่นิ่งเงียบ นั่งเฉยให้ผู้เป็นบิดาทุบตีตามแต่ปรารถนา ราวกับรู้สึกชินชากับสิ่งที่โดนกระทำไปเสียแล้ว นั่นยิ่งทำให้คนลงมือหงุดหงิดหนักกว่าเก่า

ใช่! นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางโดนทำร้ายร่างกายแบบนี้ ตั้งแต่เด็กจนโตโจวซูฮวาโดนมาสารพัด ถูกเฆี่ยนถูกโบยถูกตบตี หรือกระทั่งถูกสั่งขังในตำหนักด้วยสภาพร่างกายมีแต่บาดแผล ให้อดน้ำอดอาหารอยู่หลายวัน ถ้าไม่ได้อ้ายชิงนางกำนัลพี่เลี้ยงคอยแอบส่งยาส่งอาหารให้จากภายนอก โจวซูฮวาก็คงสิ้นชีวิตไปนานแล้วล่ะ

“แต่ฝ่าบาท…”

“หากท่านไม่คิดจะแต่งข้าเข้าจวนก็ช่วยนั่งอยู่เงียบๆ สิ่งที่ข้าทำมันเป็นเรื่องร้ายแรง อย่างไรเสียก็ต้องมีบทลงโทษ”

คนถูกกระทำกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ไม่มีสักคำที่โจวซูฮวาจะร้องขอความเมตตาจากพระบิดา ราวกับว่านางยอมรับในชะตากรรมที่ได้รับ เป็นภาพที่ดูหดหู่มากในสายตาเฉินตงหยาง โจวจางเหว่ยทำร้ายโจวซูฮวาเยี่ยงทาส ดั่งนางไม่ใช่พระราชธิดาของตน

“ท่านกลับไปซะอ๋องเฉิน!”

โจวจางเหว่ยรู้สึกไม่สะดวกใจเท่าไหร่ หากลงไม้ลงมือหนักหน่วงกับโจวซูฮวาในขณะที่มีคนนอกอยู่ด้วย จึงหันไปออกปากไล่เฉินตงหยาง

“แต่…”

“กล้าขัดคำสั่งข้างั้นรึ? ออกไป!!”

ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นยืนทำความเคารพฮ่องเต้แคว้นฟู่ ก่อนตัดใจเดินจากมาอย่างจำยอม ถึงในใจจะอยากช่วยเหลือโจวซูฮวา ทว่ามันเป็นเรื่องในครอบครัวที่เฉินตงหยางมิอาจยื่นมือเข้าไปก้าวก่ายได้

แม้จะรู้สึกสงสารและอยากช่วยเหลือ แต่จะให้เขายอมตกลงรับนางเป็นชายา และดึงโจวซูฮวาเข้ามาในสงครามการเมืองก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ถึงอย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็นลูก คนเป็นพ่อคงไม่ลงมือทำร้ายอะไรนางหนักมากมายหรอกกระมัง

เมื่อภายในตำหนักเหลือเพียงแค่ผู้เป็นบิดาและลูกสาวตัวดีที่เอาแต่นั่งนิ่ง ราวกับไม่สะทกสะท้านอะไรกับแรงที่กระหน่ำใส่ร่างกายตน โจวจางเหว่ยจึงเริ่มบันดาลโทสะต่ออีกครั้ง

“นังเด็กไร้ค่า!! ทำชื่อเสียงวงศ์ตระกูลแปดเปื้อนราคี เจ้าไม่น่าเกิดขึ้นมาในราชวงศ์ของข้า!!”

“…”

“คนเยี่ยงเจ้ามันสมควรถูกโบยจนตาย ข้าไม่น่าเลี้ยงตัวกาลกิณีให้โตขึ้นมาเลย!!”

ปากก็พร่ำด่าสองมือก็กระหน่ำทุบตีไม่ยั้งแรง ใบหน้าสวยสดเริ่มปรากฏรอยช้ำ โลหิตไหลซึมออกจากมุมปากอิ่ม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรง บางส่วนหลุดติดอุ้งมือโจวจางเหว่ยและร่วงหล่นบนพื้นตำหนัก

คนถูกกระทำนิ่งเฉยไร้เสียงร้องขอความเมตตา ขณะคนกระทำเริ่มหอบเหนื่อยจากการออกแรงทุบตีไม่ยั้งมือ โจวจางเหว่ยจึงปล่อยมือออกจากร่างโจวซูฮวา และหันไปประกาศคำสั่งประกาศิตเสียงดังกึกก้อง

“ทหาร!! เอาตัวนังลูกสารเลวของข้าคนนี้ไปขังคุก!!!”

เพียงชั่วพริบตาทหารจำนวนหนึ่งก็กรูกันเข้ามาคว้าท่อนแขนเล็กฉุดให้ลุกขึ้นลอยจากพื้น พาโจวซูฮวาเดินออกจากตำหนักใหญ่อย่างรวดเร็ว ไร้การขัดขืนใดๆ จากร่างเล็ก นางเดินตามอย่างว่าง่าย ดวงหน้าสวยเศร้าสร้อยอย่างชัดเจน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel