บทที่ 8 อยากได้อ่าง
ม่อเหอตี้นำเอากระเป๋าใส่ตำราใบใหม่ออกมาให้พี่ชายดู ม่อชิงฉือดีใจไปกับน้องชายด้วย เขารู้ว่าน้องชายขยันร่ำเรียนและท่องตำราทุกวัน
“ดีแล้วๆ เจ้าได้ทั้งกระเป๋าใหม่และยังได้ตำราที่ต้องการอีก หลงจู๊ร้านเสี่ยวถงใจดีจริง หากรายได้พิเศษให้”
ม่อเสี่ยวถงพยักหน้าหงึกหงัก “ใช่เจ้าค่ะ ใจดีมากจริงๆ”
“นี่แน่ะ พี่ชิงฉือ ข้าได้ยินมาว่าที่คฤหาสน์สกุลอู๋รับสมัครองครักษ์เพื่อให้ไปดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่ม ให้ค่าจ้างแพงมากทีเดียวเจ้าค่ะ”
ได้ยินคำว่าสกุลอู๋ ม่อชิงฉือก็หน้าเสีย วันนี้เขาเอาแต่คิดวนเวียนเรื่องของเจ้าหมอโฉดผู้นั้น จูบที่ถูกปล้นไปถึงสองคราวทำเอาเขารู้สึกสับสนจนคิดจะไปหาสหายเก่าผู้หนึ่ง
“ต่อให้เขาจ้างแพงแต่ข้าก็ไปไม่ได้หรอก ข้าเป็นมือปราบรับเบี้ยหวัดจากทางการไปแล้วจะไปเป็นองครักษ์สกุลอู๋ได้อย่างไร?”
“ข้าได้ยินมาว่า พ่อบ้านสกุลอู๋อยากรับพวกมือปราบไปดูแลเรือนของเจ้านายด้านในเฉพาะยามค่ำด้วยนะเจ้าคะ”
พอเห็นพี่ชายนั่งหลับตาปริบๆ เหมือนยังไม่เข้าใจสิ่งที่นางพยายามจะสื่อ ม่อเสี่ยวถงจึงบ่นเรื่องหลังคาบ้านที่ถูกลมแรงพัดปลิวไปเมื่อหลายวันก่อน
“ท่านแม่กังวลมากเลยเจ้าค่ะ กลัวว่าหากฝนมาอีกทีในครัวก็คงจะเละแน่ เออ...อีกอย่าง ข้าเห็นยาบำรุงร่างกายของท่านแม่ใกล้จะหมดแล้วด้วย เราต้องใช้เงินซื้อหามาตุนเอาไว้นะเจ้าคะ”
ม่อชิงฉือขมวดคิ้วมุ่น หลังจากมารดาหายจากการป่วยหนักก็ต้องดื่มยาต้มเพื่อบำรุงร่างกายทุกวัน และเพื่อให้ประหยัดเขาจำต้องควักเงินไปซื้อทีละหลายตำลึงเพราะซื้อทีละนิดไม่อาจต่อรองราคาได้
“เจ้าพูดเช่นนี้ อยากให้ข้าไปรับงานในสกุลอู๋หรือ?”
“มิได้เจ้าค่ะ ข้าแค่เล่าให้ท่านพี่ฟังเฉยๆ” ม่อเสี่ยวถงเห็นพี่ชายสีหน้าตึงๆ ก็ยิ้มน้อยๆ “เอ๊ะ! หรือว่า? พี่ชิงฉือไม่ชอบหน้าท่านหมออู๋?”
“หึ! เจ้าคนฉวยโอกาสเช่นนั้น ข้าจะชอบได้อย่างไร?”
“ท่านหมออู๋ฉวยโอกาสอันใดหรือท่านพี่?”
ม่อชิงฉือที่เผลอพูดความในใจออกไปรีบบ่ายเบี่ยง
“ก็แค่...แค่ฉวยโอกาสตีสนิทกับข้าน่ะ ข้าไม่ชอบ ข้าไม่พูดกับเจ้าแล้ว รีบเข้านอนดีกว่า พรุ่งนี้ยังต้องตื่นแต่เช้า”
ม่อเสี่ยวถงยิ้มกว้างตามแผ่นหลังของพี่ชายไป
‘จริงอย่างที่ท่านหมออู๋พูด พี่ชิงฉือวนเวียนคิดเรื่องของเขาอยู่’
พอไปถึงสำนักมือปราบในเช้าวันถัดมา กู้เจิ้งจีก็เรียกให้ม่อชิงฉือเข้าไปในพบในห้องทำงาน
“ชิงฉือ ได้ยินว่าเจ้ากำลังเก็บเงินซ่อมหลังคาบ้านใช่หรือไม่?”
“ขอรับ เมื่อตอนต้นเดือนที่ลมแรง หลังคาห้องครัวบ้านข้าถูกลมพัดกระเบื้องหายไปเยอะเชียว ตอนนี้เกรงว่าหากมีฝนตกลงมาอีก ท่านแม่จะทำอาหารไม่ได้”
“เจ้าสนใจจะรับงานเพิ่มตอนค่ำหรือไม่เล่า? รายได้ดีทีเดียวล่ะ”
“มีด้วยหรือขอรับ? หากท่านว่าเงินดี ข้าก็สนใจ”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็รับไปเลยแล้วกัน ไปเฝ้าเฉพาะตอนค่ำ จากวันนี้ถึงสิ้นเดือนเจ้าก็จะได้เงินเป็นเท่าตัวของเบี้ยหวัด”
“เอ๋? ผู้ใดกันว่าจ้างแพงถึงเพียงนี้ แค่ยี่สิบวันเองนะขอรับ”
“สกุลอู๋น่ะสิ เจ้าจำไม่ได้หรือว่าคราวก่อนมีคนร้ายเข้าไปขโมยของ พวกเขายังจับหัวขโมยไม่ได้จึงต้องการมือปราบฝีมือดีสักคนไปช่วย”
ม่อชิงฉือตกตะลึงคิดจะปฏิเสธก็ไม่ทันแล้ว กู้เจิ้งจีเป็นหัวหน้าหน่วยมือปราบของเขา ในเมื่อหัวหน้าไหว้วานก็สมควรจะทำให้สำเร็จ อีกอย่างเงินค่าจ้างเท่าจำนวนเบี้ยหวัดมากพอที่จะซ่อมแซมหลังคาและยังเหลือเงินซื้อเตียงให้กับน้องสาวได้ด้วย ม่อเสี่ยวถงบ่นอยู่บ่อยๆ ว่าอยากจะซื้อเตียงนอนใหม่จะได้ไม่ต้องเบียดกับมารดา อีกอย่างยาบำรุงของท่านแม่ของเขาก็ใกล้จะหมดแล้ว ถึงเวลาต้องซื้อตุนเอาไว้ นั่นหมายถึงเงินอีกหลายตำลึง
“เจ้าไม่ต้องห่วง ส่วนที่จะให้เจ้าไปเฝ้าน่ะอยู่ที่เรือนใหญ่ ไม่ใช่เรือนต้องสวนบึงหงส์หรอก เดี๋ยวข้าพาเจ้าไปพบคหบดีอู๋บ่ายนี้เลย”
ม่อชิงฉือหน้าเจื่อน เรือนด้านหลังสวนบึงหงส์ของเจ้าหมอโฉดนั่น เป็นสถานที่ที่เขาพลาดพลั้งถูกล่วงล้ำก้ำเกิน ซ้ำยังถูกเอาตัวไปทดลองยา น่าโมโหเป็นที่สุด
“ข้าต้องดูแลเรือนคหบดีอู๋หรือขอรับ?”
“น่าจะเป็นเช่นนั้น”
ม่อชิงฉือถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาได้ยินมาว่าอู๋หยางไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเรือนใหญ่ เรือนด้านหลังสวนบึงหงส์มีถึงสองหลัง ที่นั่นเป็นอาณาเขตส่วนตัวของท่านหมออู๋ผู้ชอบคิดค้นและปรุงยา
‘หากว่าไปเฝ้าในคฤหาสน์ ไม่เกี่ยวข้องกับอู๋หยางก็นับว่าโชคดี’
คหบดีวัยเกือบหกสิบมองดูมือปราบหนุ่มที่ถูกแนะนำตัวด้วยความสนใจจนม่อชิงฉือรู้สึกประหม่า
“เจ้าเองหรือ? ได้ยินชื่อหลายคราแล้ว ผอมไปหน่อย เห็นหัวหน้ากู้บอกว่าเจ้าเป็นคนซื่อและขยันขันแข็ง ถ้าเช่นนั้นก็ช่วยมาเฝ้าเรือนให้ข้าหน่อยก็แล้วกัน เรือนด้านในไม่ค่อยมีคนอยู่ ข้าวของมีค่าก็เยอะแยะ”
“ขอรับ”
ชายสูงวัยหันไปหาพ่อบ้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แล้วสั่งให้พามือปราบหนุ่มไปรับประทานอาหาร เปลี่ยนเสื้อผ้าและไปส่งยังเรือนที่จะให้เฝ้า
คหบดีอู๋พูดกับมือปราบม่อเพียงเท่านั้นก็หันไปหากู้เจิ้งจีแล้วหารือเรื่องหัวขโมยต่อ ม่อชิงฉือได้ยินว่ายังจับตัวคนร้ายไม่ได้
พ่อบ้านฝูผายมือเชิญให้คนมาใหม่ตามตนไปยังเรือนด้านหลัง ม่อชิงฉือมองซ้ายมองขวาด้วยความตื่นตาตื่นใจ สกุลอู๋ร่ำรวยมากจริงๆ เรือนแต่ละหลังโอ่อ่าและงดงาม สวนได้รับการเอาใจใส่และดูแลจากบ่าวรับใช้มากหน้าหลายตา ดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่ง
‘สมแล้วที่เป็นบ้านเศรษฐี ช่างน่าอยู่เสียจริง บ้านข้าก็ยังเล็กกว่าห้องครัวบ้านพวกเขา’
“นี่ขอรับ ห้องนอนของท่าน?”
“เอ๋? พ่อบ้านฝู งานของข้าคือการเฝ้าระวังขโมยมิใช่หรือ? เหตุใดต้องมีห้องนอนด้วยเล่า?”
พ่อบ้านวัยกลางคนยิ้มน้อยๆ “หลังเลิกงานจากสำนักมือปราบท่านมาที่นี่ได้เลย ท่านสามารถไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำด้านในเรือนนี้ได้ ชุดของท่านสำหรับใส่ที่นี่ข้าให้คนซักรีดเอาไว้แล้ว ล้วนเป็นเสื้อผ้าใหม่ที่นายท่านให้จัดหามา ท่านไปดูเองเถิดอยู่ในตู้เสื้อผ้านั่น เสื้อผ้าพวกนี้นายท่านยกให้เลยนะ หลังเสร็จงานนี้ท่านก็รับไปได้เลย ส่วนอาหารมื้อค่ำจะมีคนใส่ปิ่นโตเอามาส่งให้ช่วงยามซวี”
ม่อชิงฉือตกตะลึง การมาทำงานในจวนใหญ่ช่างดีเสียจริง นอกจากค่าจ้างจะมากแล้ว ยังมีเสื้อผ้าและอาหารแถมให้อีก
“ข้าคงต้องไปขอบคุณคหบดีอู๋แล้ว”
พ่อบ้านฝูหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องหรอกมือปราบม่อ ท่านแค่ทำหน้าที่ให้ดีก็พอแล้ว นายท่านบอกว่าขอเพียงท่านดูแลเรือนให้เต็มที่ก็พอแล้ว”
“ได้ๆ ขอรับ ข้าต้องดูแลเรือนนี้อย่างดีแน่”
“ท่านเริ่มงานหลังยามซวี เข้านอนหลังยามอู่ ท่านไหวหรือไม่?”
“ไหวขอรับ”
“ถ้าเช่นนั้นตอนนี้ก็รีบไปอาบน้ำเถิด”
ม่อชิงฉือกล่าวขอบคุณท่านพ่อบ้านซ้ำๆ ด้วยความดีใจ แล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ทุกตัวล้วนแต่ใช้ผ้าเนื้อดีตัดเย็บประณีต ชายหนุ่มประเมินราคาในใจแล้วก็ได้แต่ร้องเอ็ดอึง ชุดพวกนี้นานทีเขาจึงจะซื้อได้สักชุดหนึ่ง ชุดล่าสุดที่ซื้อสวมใส่ก็ตอนตรุษจีนเมื่อสามปีก่อน แต่นี่คหบดีอู๋เตรียมให้เขาถึงห้าชุด
ชายหนุ่มมองเห็นอ่างอาบน้ำใหญ่ก็ยิ้มกริ่ม เขานึกว่าตนเองจะได้ไปห้องอาบน้ำรวมของบรรดาบ่าวรับใช้เหมือนอย่างห้องอาบน้ำที่สำนักมือปราบ แต่กลับถูกพามายังห้องอาบน้ำในเรือน อ่างไม้ใหญ่ตรงหน้าสามารถลงแช่ได้ทีละสองคนด้วยซ้ำ น้ำอุ่นถูกผสมเอาไว้แล้ว เมื่อครู่เขาเห็นบ่าวรับใช้สองคนเพิ่งเดินออกไป
ม่อชิงฉือกวักน้ำที่มีกลีบดอกกุหลาบขึ้นมาดม กลิ่นหอมกรุ่นสดชื่น
‘นี่มัน...ผสมน้ำอบดอกไม้เสียด้วย กลิ่นเช่นนี้คงแพงมากทีเดียว ข้าก็แค่มือปราบที่จ้างมาทำงานชั่วคราว เหตุใดจึงเอาใจข้าเช่นนี้? คนทำงานที่คฤหาสน์นี่ช่างน่าอิจฉาเสียจริง’
ชายหนุ่มรีบถอดเสื้อผ้าลงแช่อย่างสบายใจ ที่บ้านของเขาใช้เพียงอ่างไม้ตั้งบนเก้าอี้แล้วผสมน้ำใช้กระบวยไม้ตักอาบ ยังไม่มีเงินมากพอจะซื้ออ่างอาบน้ำเลย ม่อชิงฉือนอนแช่แล้วลูบไล้เนื้อตัวใต้น้ำไปมา
....ในใจก็คิดว่าเงินค่าจ้างครั้งนี้คงต้องเจียดไปซื้ออ่างอาบน้ำสักอันแล้ว
ชายหนุ่มหยิบเอาผ้ามาถูตัวอย่างมีความสุข เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการได้แช่น้ำอุ่นผสมน้ำอบหอมกรุ่นจะสบายและผ่อนคลายนัก ทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อย เขาก็เอนตัวพิงขอบอ่างแหงนหน้าหลับตาพริ้ม
**************
