ท่านหมออู๋ตัวร้าย (BL)

63.0K · จบแล้ว
ซีฟางกั๋วเจีย/เอสเต้
31
บท
2.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ท่านหมออู๋หยาง เป็นคุณชายรูปงามราวกับเทพเซียน เกิดในสกุลร่ำรวยและมีวิชาแพทย์เลิศล้ำ เขาชอบการปรุงยาและคิดค้นยาใหม่ๆ คืนหนึ่งจับเอามือปราบหนุ่มหน้าตาคมคายที่ลอบเข้าเรือนมาทดลองยา และเผลอหยอกเย้าด้วยการจูบ มือปราบม่อรู้สึกโกรธแค้นอู๋หยางแต่กลับถูกคนผู้นี้ปั่นหัวและวางแผนที่จะทำให้เขาให้กลายภรรยา

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายสืบสวนสอบสวนนิยายYaoiนิยายรักนิยายกำลังภายในนิยายย้อนยุค

บทที่ 1 ระยะดวงซวย

“ข้าอยากไปไหว้เจ้าขอรับท่านแม่”

“แปลกเสียจริง ปกติเจ้าไม่เคยเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปาฏิหาริย์นี่?”

สีหน้าของม่อชิงฉือดูกระอักกระอ่วน เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เขาไม่อาจจะเปิดปากบอกผู้ใดได้

“เอาเถิดๆ ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจก็ไปเสีย นี่ก็จวนจะค่ำแล้ว ประเดี๋ยวประตูศาลเจ้าจะปิดเสียก่อน”

“ขอรับ”

ม่อชิงฉือที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านได้ไม่ถึงสองเค่อ จู่ๆ ก็บอกมารดาว่าตนเองอยากจะไปไหว้เจ้า มารดากับน้องสาวที่กำลังเตรียมอาหารได้ยินเช่นนั้นก็ทักท้วงอยากให้เขาไปวันพรุ่งนี้ ทว่าเจ้าตัวไม่ยินยอม

คล้อยหลังพี่ชาย ม่อเสี่ยวถงรีบหันไปหามารดา

“ท่านแม่ ข้าดูท่าทางของท่านพี่แล้ว เหมือนเขากำลังมีเรื่องกลุ้มใจอย่างมากเลยเจ้าค่ะ แต่ละวันหน้าตาหมองคล้ำ”

“พี่เจ้าเป็นมาตั้งแต่เมื่อใด?” ม่อฮูหยินสีหน้าตระหนก

“เป็นมาตั้งแต่นับสิบวันแล้วเจ้าค่ะ”

มารดาถอนหายใจยาว “แม่ไม่อยากให้พี่ชายของเจ้าทำงานนี้เลยจริงๆ งานมือปราบเบี้ยหวัดน้อย ความเสี่ยงมาก แต่ละคดีก็ไม่ง่ายเลย นี่หากแม่มีเงินส่งเสียให้พวกเจ้าร่ำเรียนหนังสือก็คงจะดี ป่านนี้พี่ชายของเจ้าอาจจะกลายเป็นขุนนางตามที่ท่านพ่อเจ้าหวังเอาไว้”

ม่อเสี่ยวถงรีบกุมมือมารดา หากพูดเรื่องเงินขึ้นมาคราใด มารดาของนางจะต้องคิดมากและหวนรำลึกถึงการเจ็บป่วยครั้งนั้น

“ท่านแม่ ช่างเถิดเจ้าค่ะ ทุกวันนี้พวกเราก็มีความสุขกันดีแล้ว รอให้ข้าเก็บเงินอีกสักหน่อย ก็ไม่ต้องรบกวนท่านพี่ให้จ่ายค่าร่ำเรียนของเสี่ยวตี้ ท่านพี่จะได้เก็บเงินสำหรับตนเองเสียที”

“ปีนี้อายุของพี่ชายเจ้าก็ยี่สิบสี่เข้าไปแล้ว หากเขาไม่ต้องคอยดูแลพวกเราก็คงจะพอมีเงินเก็บไว้แต่งงาน แม่ผิดเอง ถ้าแม่ไม่ป่วยในปีนั้น พวกเจ้าคงไม่ลำบากกันเช่นนี้”

“ท่านแม่ อย่าพูดเลยเจ้าค่ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ข้ากับท่านพี่ก็มีงานทำพอมีรายได้ ครอบครัวเราก็ไม่ได้ลำบากอย่างแต่ก่อนแล้วนะเจ้าคะ”

“อืม...” ผู้เป็นมารดาถอนหายใจออกมา

หลังจากที่บิดาของม่อชิงฉือเสียชีวิตไปได้ทิ้งเงินทองเอาไว้มากพอสมควร ทว่าหลายปีก่อนเป็นนางที่ล้มป่วยจนต้องนำเงินออกมารักษาจำนวนมาก หลังจากหายป่วยก็เหลือเงินพอให้เลี้ยงดูบุตรไม่มากนัก ดีที่ม่อชิงฉือสอบเข้าเป็นมือปราบได้ตอนอายุสิบหก ทำให้มีเบี้ยหวัดมาจุนเจือครอบครัว

ตอนนี้บุตรสาวคนที่สองคือม่อเสี่ยวถงที่อายุได้สิบเจ็ดปีก็ไปเป็นลูกจ้างที่ร้านขายสมุนไพรพอมีรายได้ ยังเหลือเพียงม่อเหอตี้บุตรชายคนเล็กที่ยังร่ำเรียนอยู่ในสถาบันเค่อเฉิง ด้วยความเฉลียวฉลาดของเขา คนในครอบครัวจึงหวังว่าม่อเหอตี้จะสามารถสอบเป็นขุนนางได้

บุรุษรูปร่างสันทัด ใบหน้าคมคร้ามในชุดมือปราบสีแดงเลือดหมู เดินก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปในอารามใหญ่ เขาคุกเข่าลงหน้าเทพยี่ว์หวงต้าตี้ ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ ชายหนุ่มพนมมือนั่งพึมพำอยู่ครู่หนึ่ง ก็มีเสียงคนคุกเข่าลงที่เบาะด้านข้าง

“เจ้าคิดจะมาขอสิ่งใดหรือ?”

น้ำเสียงนั้นทำเอาม่อชิงฉือพลันสะดุ้ง เขาลืมตาแล้วหันขวับไปดูชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ ดวงตาของเขาเบิกขึ้นกว่าเดิม

คนผู้นั้นผิวพรรณขาวผุดผ่อง ใบหน้างดงามดุจเทพเซียน ดวงตาทอดมองมายังเขาคล้ายจะยิ้มล้อเลียนอยู่ในที

“ท่านมาได้อย่างไร?”

“ข้ารึ? ข้าอยากมาไหว้เจ้าก็เลยเข้ามาที่นี่”

“หึ! คนบาปก็อยากจะได้บุญ” ม่อชิงฉือหงุดหงิดเป็นกำลัง เขาอุตส่าห์มาขอพรให้ไม่พบเจอคนผู้นี้ แต่ยังไม่ทันอธิษฐานจบ คนต้นเหตุก็ปรากฎ

....นี่ดวงของเขาถึงคราวซวยซ้ำซวยซ้อนหรืออย่างไร?....

บุรุษรูปงามในแพรพรรณราคาแพงลุกขึ้น แต่ยังไม่วายยิ้มหวานให้กับ ม่อชิงฉือ มือปราบหนุ่มกำหมัดแน่น นึกถึงจูบแรกของตนที่ถูกคนผู้นี้ฉกฉวยไปในคืนนั้นแล้วก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมา

“ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว มือปราบม่อ เจ้าไปส่งข้าหน่อยได้หรือไม่?”

“เหตุใดข้าต้องไปส่งท่านด้วย?”

“เจ้าเป็นผู้รักษากฎหมายและดูแลความสงบบ้านเมือง ข้าเป็นเพียงราษฎรผู้อ่อนแอ เจ้าไม่คิดจะช่วยเหลือข้าเลยหรือ?”

“ไม่ ตอนนี้ข้าเลิกงานแล้ว ไม่มีกระบี่ติดมือมาด้วย บ่าวรับใช้ท่านมีมากมาย เหตุใดต้องรบกวนข้า?”

อู๋หยางยกยิ้มมุมปาก

“ม่อชิงฉือ เรื่องคืนนั้น เจ้าโกรธข้ามากหรือไร?”

มือปราบหนุ่มตาเหลือกรีบหันไปมองรอบกาย ครั้นไม่เห็นผู้ใดอยู่ใกล้ก็ขบกรามแน่น กัดฟันกรอดๆ

“ท่านจะพูดถึงอีกทำไม? ข้าบอกแล้วว่าให้เก็บเอาไว้เป็นความลับ ไม่เช่นนั้นข้าจะแทงท่านให้ตาย”

อู๋หยางถอยไปสองก้าว แสร้งยกมือกุมหน้าอก

“น่ากลัวเสียจริง เจ้าเป็นถึงรองหัวหน้าหน่วยมือปราบ จะทำร้ายร่างกายข้า ระวังเถิด โทษของเจ้าหน้าที่หนักเป็นสองเท่าเชียวนะ”

ม่อชิงฉือใบหน้าอึมครึมลงหลายส่วน เขายกนิ้วขึ้นชี้หน้าอู๋หยางด้วยความขัดเคือง...คนผู้นี้ช่างหน้าด้านเสียจริง เขาบอกแล้วว่าอย่าพูดถึงเรื่องคืนนั้น

“ท่านหมออู๋ ข้าเตือนท่านแล้วนะ”

“อืม...ข้าจำขึ้นใจแล้ว”

มือปราบหนุ่มฮึดฮัดสะบัดหน้าหนีออกมาจากอารามด้วยความหงุดหงิด เสียงฝีเท้าคนข้างหลังตามมาพร้อมด้วยเสียงหัวเราะพอใจ

‘เจ้าหมอบ้า! สมแล้วที่ไม่ออกมารักษาผู้อื่น แม้แต่ตัวเองก็ยังมีอาการโรคจิต อย่าได้คิดเลยว่าจะช่วยเหลือคนอื่นได้’

คืนนั้นม่อชิงฉือที่กลับมาจากศาลเจ้าก็หลับฝันย้อนกลับไป

ค่ำคืนหนึ่งม่อชิงฉือลอบตามกู้เจิ้งจีหัวหน้าหน่วยมือปราบของตนไปยังเรือนที่อยู่เลยสวนสาธารณะบึงหงส์ไป

เรือนแห่งนั้นคือเรือนอีกแห่งของสกุลอู๋ เจ้าของเรือนก็คือหมออู๋หยาง บุรุษหนุ่มผู้มีรูปงามดุจเทพเซียนแต่น้อยคนนักจะได้เห็นเขา ในเมืองหลวงมีข่าวซุบซิบกันว่าคุณชายรองอู๋ผู้นี้บุตรชายคนโปรดของบิดา

อู๋หยางปฏิเสธการแต่งงานกับสตรีที่บิดามารดาเลือกให้และยืนยันว่าจะแต่งกับบุรุษที่ตนพึงใจเท่านั้น เขานับว่าเป็นหนึ่งในคุณชายร่ำรวยแห่งเมืองหลวงที่กล้าประกาศตัวเป็นต้วนซิ่ว ข่าวคราวนั้นทำเอาสตรีน้อยใหญ่แทบจะร่ำไห้ไปตามๆ กัน แม้แต่ข่าวซุบซิบก็ปรากฏบนจดหมายข่าวของสำนักนกกระจิบอยู่นานนับเดือน

ตอนนั้น ม่อชิงฉือที่รออยู่ข้างนอกเรือนสกุลอู๋นานจนเริ่มร้อนใจ จึงได้ย่องเข้าไปในตอนดึกเพื่อตามหากู้เจิ้งจี ทว่าตื่นมาอีกครั้งเขากลับถูกมัดมือมัดเท้านอนอยู่บนเตียง

“ข้าเอง! ท่านหมออู๋ ข้าเป็นลูกน้องของหัวหน้ากู้ ท่านจำไม่ได้หรือ?”

บุรุษผู้นั้นแต่งกายด้วยชุดขาวปักลวดลายเถาวัลย์งดงาม แสร้งทำหน้าไขสือแล้วชะโงกมาจ้องตาเขาใกล้ๆ

“น่าเสียดาย ข้าความจำไม่ดี หากเจ้าอยากให้ข้าจำได้ก็ต้องช่วยข้าทำงานเสียก่อน ข้าก็จะปล่อยเจ้าเอง”

“ตกลง ข้าจะช่วย ว่าแต่งานที่ว่าคืออันใดหรือ?”

อู๋หยางไม่ตอบแต่กลับถอดเสื้อผ้าของม่อชิงฉือออก

“เหตุใดต้องถอดเสื้อผ้าของข้าด้วย?” ใบหน้าของมือปราบซีดเผือด

“ข้าไม่ได้คิดจะทำสิ่งที่เจ้าคิดแน่” หมอหนุ่มพับแขนเสื้อและขากางเกงให้กับมือปราบหนุ่ม “ข้ากำลังจะทดลองยาของข้า เจ้าอยู่นิ่งๆ เถิด เสร็จแล้วข้าปล่อยเจ้าไปแน่”

“ท่านคงไม่ได้คิดจะทำร้ายข้าหรอกนะ?”

“รับรองไม่อันตรายหรอก ข้ามิกล้าทำร้ายมือปราบอย่างเจ้า ขืนเจ้าตายไปข้าก็ต้องโทษประหารน่ะสิ”

ท่านหมอรูปงามหยิบเอายาเม็ดลูกกลอนจากกล่องเล็กๆ สีดำบนโต๊ะมาอมเอาไว้ แล้วก้มลงประกบริมฝีปากกับม่อชิงฉือ ใช้ลิ้นผลักเอายาเม็ดนั้นให้เขากลืนเข้าไปก่อนจะฉวยโอกาสจูบมือปราบม่อ

มือปราบหนุ่มนิ่งอึ้งด้วยความคาดไม่ถึง เขาได้แต่ร้องเอ็ดอึงในใจ

‘นี่มัน....จูบแรกของข้านะ’

มือปราบหนุ่มพยายามจะยกมือที่ถูกมัดเอาไว้ขึ้นมาดันให้หมอหนุ่มรูปงามถอยห่างจากตนเอง ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายใช้เพียงมือเดียวยึดเอาไว้ อู๋หยางถอนจูบออกมาแล้วยิ้มหวาน

“ท่าน! ท่านทำบ้าอันใดกับข้า?” มือปราบหนุ่มตะคอก

“ข้าก็แค่จูบ”

*********************

ไรเตอร์แนะนำ...นิยายเรื่องนี้ต่อมาจากเรื่อง "ข้าจะล่อลวงมือปราบ"​ นะคะ พระเอกของเรื่องนี้คือ "ม่อชิงฉือ" เป็นรองหัวหน้ามือปราบหน่วยที่ 3 เป็นลูกน้องของกู้เจิ้งจี พระเอกจากเรื่องข้าจะล่อลวงมือปราบค่ะ อีบุ๊กเรื่องนี้จะวางจำหน่ายทาง mebmarket ในปลายเดือนเมษายน 2566 นี้นะคะ