บทที่ 3 เฉินผู้กว้างขวาง
ม่อชิงฉือพยายามไม่คิดเรื่องของหมออู๋หยาง ทว่าพอไปถึงสำนักมือปราบเขากลับได้ยินแต่เรื่องของเจ้าหมอบ้าผู้นั้น
“มือปราบม่อ ท่านรู้ข่าวหรือยังขอรับ? เมื่อคืนคฤหาสน์สกุลอู๋มีโจรลอบเข้าไปขโมยของ เห็นว่าของมีค่าที่ได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนหายไปหลายชิ้นเชียว”
“ผู้ใดเป็นคนไปตรวจสถานที่?”
“ก็ต้องคู่รักมือปราบอยู่แล้วสิขอรับ นี่ข้าก็เพิ่งรู้นะว่าหัวหน้ากู้เป็นสหายสนิทกับคุณชายรองอู๋ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันสักครา”
มือปราบเฉินเพิ่งเข้ามาทำงานพร้อมกันกับหวังฮั่นว่าที่ภรรยาของหัวหน้ากู้ เฉินซื่อฝานถูกจับคู่ให้ลาดตระเวนกับม่อชิงฉืออยากจะนินทาเรื่องของหัวหน้ากู้กับหวังฮั่นสุดชีวิต
“เจ้าก็รู้ว่าหมออู๋หยางเป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองหลวง แม้จะประกาศว่าเป็นต้วนซิ่วแต่สตรีทั้งหลายก็ยังพยายามจะทอดสะพานอยู่ไม่เว้นวาย ข้าอิจฉาเสียจริง เป็นข้าหน่อยไม่ได้”
เฉินซื่อฟานหัวเราะหึๆ หันกลับไปดูคนที่สอดหน้าเข้ามาร่วมนินทา
“มือปราบฟู หน้าอย่างเจ้า จะไปเทียบกับคุณชายรองอู๋ได้อย่างไร? สกุลอู๋ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ในเมืองหลวง อู๋หยางเองก็รูปงามราวกับเทพเซียน ต่อให้เป็นเพียงหมอธรรมดาก็ต้องมีสตรีและบุรุษเข้าแถวขอเป็นภรรยากันยาวไปถึงประตูเมือง”
ม่อชิงฉือเห็นว่าสองสหายกำลังจะทะเลาะก็เลยรีบยกมือห้าม
“พอๆ พวกเจ้าอย่าทะเลาะกัน และก็เลิกนินทาเรื่องผู้อื่น ตกลงว่าวันนี้พวกเราไม่ต้องตามไปดูสถานที่เกิดเหตุใช่หรือไม่?”
“มีคนตามหัวหน้ากู้ไปเยอะแล้ว พวกเราออกไปลาดตระเวนที่ตลาดกันเถอะ ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงวันแล้ว”
ม่อชิงฉือโล่งอกคิดว่าตนเองจะหลบพ้นเรื่องของอู๋หยางเสียที แต่พอไปถึงตลาดเขากลับได้ยินคนพูดชื่อของหมอตัวร้ายผู้นั้น
“ข่าวใหญ่ๆ ข่าวเรื่องคฤหาสน์สกุลอู๋และยังมีเรื่องของคุณชายรองอู๋ด้วย” ชายหนุ่มที่เฝ้าแผงหนังสือร้องเรียกให้ทุกคนเข้ามารุมซื้อจดหมายข่าวสำนักข่าวนกกระจิบฉบับที่เพิ่งออกใหม่
มือปราบหนุ่มถึงกับส่ายหน้า เขาไม่อยากรู้เรื่องของอู๋หยางเลยสักนิด เฉินซื่อฝานที่เดินอยู่ข้างๆ รีบควักเงินออกมาแล้วซื้อจดหมายข่าวมาหนึ่งฉบับ
“ชิงฉือเราไปนั่งที่โรงน้ำชาข้างหน้าสักครู่เถิด ข้าอยากจะอ่านข่าวอู๋หยางสักหน่อย”
“เสี่ยวเฉิน เจ้านี่มัน....”
“สู่รู้ อย่างข้าเรียกว่าสู่รู้ขอรับ”
ม่อชิงฉือส่ายหน้ามองมือปราบรุ่นน้องด้วยความเหนื่อยหน่าย เฉินซื่อฝานไม่ยอมอ่านในใจเพราะอยากให้มือปราบม่อร่วมวิจารณ์ด้วย
“ท่านดูๆ ในนี้เขียนเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับอู๋หยางเอาไว้ด้วย” เฉินซื่อฝานก้มหน้าลงไปอ่าน “สกุลอู๋ประกาศให้แม่สื่อนำเสนอบุรุษที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อจะได้เป็นฮูหยินของคุณชายรองอู๋ สินสอดเต็มที่ และพร้อมจัดงานแต่งอย่างยิ่งใหญ่”
“อืม...ถึงขนาดประกาศอย่างนี้ เห็นที่คหบดีอู๋คงอยากจะให้อู๋หยางแต่งงานเสียทีแล้ว”
“เจ้าหมอบ้าผู้นั้นไม่เห็นจะทำงานทำการอันใดสักหน่อย แต่ละวันก็อยู่แต่ในเรือนใกล้สวนบึงหงส์”
“เอ๋? มือปราบม่อ ท่านรู้เรื่องคุณชายรองอู๋ละเอียดอย่างนี้เชียวหรือขอรับ?”
ม่อชิงฉือทำหน้าเจื่อน ที่เขารู้เพราะเคยแอบไปดูที่เรือนหลังนั้นและยังได้ยินสิ่งที่กู้เจิ้งจีเล่าให้ฟัง หลังจากหัวหน้ากู้รู้ว่าม่อชิงฉือตามเข้าไปในเรือนปรุงยาของอู๋หยางก็มิได้ปิดบังเรื่องสหายของตน มือปราบหนุ่มจึงได้รู้เรื่องของท่านหมออู๋ผู้ลึกลับในเชิงลึก
อู๋หยางได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์จากท่านปู่ ส่วนบิดาของเขาแม้จะมีวิชาแพทย์อยู่บ้างแต่ชอบการค้าขายมากกว่า คหบดีอู๋จึงเน้นการเปิดร้านขายยาสมุนไพรหลายสาขารอบเมืองหลวง รวมถึงกระจายไปยังหัวเมืองต่างๆ กิจการของสกุลอู๋จึงเป็นที่รู้จักของคนในแคว้นหมิง
“ข้าก็ไม่ได้อยากรู้เสียหน่อย เป็นเพราะหัวหน้ากู้เล่ากรอกหูข้าต่างหาก”
“มือปราบม่อ ถ้าท่านรู้เรื่องอู๋หยางเยอะเช่นนี้ก็เล่าให้ข้าฟังหน่อยเถิด”
“เจ้าอยากรู้ไปทำไม?”
“เรื่องชาวบ้านเป็นงานของข้านะขอรับ ข้าเป็นผู้กว้างขวาง”
“กว้างขวางหรือสู่รู้”
“ความจริงก็คล้ายๆ กันนั่นแหละขอรับ”
ม่อชิงฉือเอาแต่ส่ายหน้า ตัวเขาในยามนี้แม้แต่ชื่อของคนผู้นั้นก็ไม่อยากจะเอ่ยถึง
งานแต่งของกู้เจิ้งจีกับหวังฮั่นเป็นการจัดงานภายใน เรือนสกุลกู้เต็มไปด้วยของขวัญจากสหายในสำนักมือปราบ แม้การแต่งงานระหว่างบุรุษในแคว้นหมิงจะได้รับการยอมรับแล้วแต่หวังฮั่นซึ่งมีอดีตเป็นนักฆ่าก็ไม่อยากจะจัดงานเอิกเกริก
ม่อชิงฉือเตรียมเงินใส่ซองมาให้คู่บ่าวสาวอย่างสมน้ำสมเนื้อ ในแต่ละเดือนเขาแบ่งเก็บเบี้ยหวัดไว้ส่วนหนึ่งเผื่อใช้ในยามฉุกเฉิน และงานแต่งงานของหัวหน้ากู้ก็จัดอย่างรวดเร็วจนทุกคนตั้งตัวแทบไม่ทัน
“มือปราบม่อ อย่ามัวเหม่อมองคู่บ่าวสาวเลยขอรับ มาดื่มสุรากับพวกเราทางนี้เถอะ” เฉินซื่อฝานโบกมือร้องเรียก
ม่อชิงฉือกวาดตามองไปรอบๆ เขากลัวจะได้พบกับอู๋หยาง เพราะรู้ว่าคนผู้นั้นต้องมาร่วมงานนี้แน่ พอเห็นว่ากลุ่มสหายมือปราบหน่วยที่สามของเขานั่งอยู่โต๊ะริมสุดก็พยักหน้าพอใจ
“ไปๆ วันนี้ไม่เมาไม่เลิกรา”
ท่านหมออู๋รูปงามเดินเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยเสื้อผ้าและกว้านบนศีรษะหรูหรา ใบหน้าผุดผ่องงดงามราวเทพเซียนของเขาปรากฎขึ้นก็ทำให้คนทั้งงานแทบจะลุกขึ้นมอง
“คุณชายรองอู๋รูปงามสมคำร่ำลือ พวกเจ้าดูสิ สตรีทั้งงานแทบจะไม่เป็นอันรับประทานอาหารแล้ว” เฉินซื่อฝานมองไปยังอู๋หยางด้วยชื่นชมแกมอิจฉา “คนบางคนก็ช่างมีวาสนาสูงส่ง”
“ถ้าอยากเป็นเหมือนท่านหมออู๋ก็คงต้องไปเกิดใหม่แล้วล่ะ” สหายร่วมโต๊ะเย้า
“ไม่ไหวๆ ไม่รู้ว่าชาติหน้าข้าจะได้เกิดหรือไม่? เอาเป็นว่าเกิดมาแล้วก็ทำชาตินี้ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน”
“ได้ยินว่าวิชาหมอของอู๋หยางล้ำเลิศแต่กลับไม่ยอมรักษาคน เอาแต่คิดค้นปรุงยาอยู่เรือนลับ ช่างน่าแปลกเสียจริง”
มือปราบซ่งเห็นม่อชิงฉือเอาแต่รินสุราดื่มเอาๆ ก็ใช้ศอกสะกิด
“ชิงฉือ เจ้าว่าท่านหมออู่ผู้นี้ใช่เทพเซียนแปลงกายมาหรือไม่?”
“ไม่! นั่นเป็นปีศาจจำแลงต่างหาก”
“เอ๋? เจ้าแค้นบุรุษรูปงามถึงเพียงนี้เชียว”
“หึ! อย่าพูดเขาเลยดีกว่า พวกเรามางานแต่งงานของหัวหน้ากู้นะ ดื่มๆ”
“จริงด้วย มาดื่มกันดีกว่า”
มือปราบทั้งกลุ่มพลันเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะเห็นม่อชิงฉือดูท่าจะไม่ชอบหน้าคุณชายรองอู๋
กู้เจิ้งจีผู้เป็นเจ้าบ่าวแอบสังเกตมาหลายคราวว่ารองหัวหน้ามือปราบของตนดูเหมือนจะแค้นเคืองสหายหมอจึงได้ดึงมือของอู๋หยางไปหลบมุมสอบถาม
“เจ้าไปสร้างแค้นใดให้กับม่อชิงฉือ? ข้าสังเกตว่ายามที่คนพูดถึงชื่อเจ้า เขาสีหน้าไม่ค่อยดี หลังๆ ชักจะกลายเป็นแค้นๆ”
ท่านหมอหนุ่มยกยิ้มมุมปาก “ข้าน่ะหรือ? ก็แค่จับเขามาลองยา”
“ลองยา? เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”
“ก็เขาอยากบุกรุกเรือนของข้าโดยพลการนี่ ข้าก็สมควรจะลงโทษ แค่ให้กินยาเกิดผดผื่น จากนั้นก็ให้กินยาแก้ผดผื่น ทดลองยาครึ่งชั่วยามก็เสร็จแล้ว”
กู้เจิ้งจีหรี่ตามองสหาย “ข้าไม่เชื่อว่าจะมีแค่นั้น ม่อชิงฉือแม้จะดูบุ่มบ่ามแต่ก็เป็นคนนิสัยดี ไม่ค่อยโมโหผู้อื่น ข้าเพิ่งเห็นเขาโกรธคนมากสุดก็ครั้งนี้”
“ข้าพูดความจริงก็ได้ ข้าจูบเขาไปทีหนึ่ง”
“จูบ! นี่เจ้าจูบเขาหรือ? ทำเช่นนี้ เขาคงแค้นเจ้าไปทั้งชาติ” กู้เจิ้งจีตื่นตระหนกเขารู้ว่าอู๋หยางไม่สัมผัสร่างกายผู้อื่นง่ายๆ และยิ่งเป็นการจูบก็ยิ่งยาก ม่อชิงฉือเองก็มิใช่ต้วนซิ่ว ถูกกระทำเช่นนั้นก็ย่อมจะเกิดโทสะ
“เรื่องแค้นก็ส่วนหนึ่ง แต่ข้าว่าที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้อาจจะเป็นการคิดถึงข้าจนวางไม่ลง”
กู้เจิ้งจีขมวดคิ้ว “เจ้ามั่นใจหรือ?”
“ข้าไม่มั่นใจ แต่ข้าชอบเขา ข้าจะทำให้เขายอมเป็นคนของข้าให้ได้”
หัวหน้ามือปราบหนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวในงานนี้ถึงกับขนคออ่อนลุก เขารู้ว่าอู๋หยางเป็นคนพูดจริงทำจริง และยังเป็นประเภทไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล
...ม่อชิงฉือ ข้าขอโทษจริงๆ ที่ไม่อาจจะปกป้องเจ้าได้แล้ว....
************************
