บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 แรกพบ (4)

เขาเห็นลูกค้าต่างถิ่นถูกพ่อค้าหน้าเลือดรายนี้เอาเปรียบมาโดยตลอด แต่ที่ไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวแต่แรกเพราะเห็นว่าลูกค้าเหล่านั้นซื้อเพียงแค่ไม้เดียว หรือไม่ก็ปฏิเสธไม่ซื้อเลย

แต่เพราะแม่นางผู้นี้คิดดีทำดี นางไม่ได้ซื้อพุทราเชื่อมเพื่อกินคนเดียว แต่นางซื้อเพื่อแจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ ยากไร้ที่เร่ร่อนขอทานอยู่ริมถนนเขาถึงอดยื่นมือเข้ามาสอดไม่ได้

“ข้าพูดผิดไป ข้าหมายถึงข้าขาดทุนย่อยยับต่างหาก ให้ลดราคาอีกคงไม่ได้”

หยวนซือหรี่ตา “ข้ามีติดตัวอยู่แค่สองตำลึงเท่านั้น”

“สองตำลึง! แบบนี้ข้าก็ขาดทุนย่อยยับสิคุณชาย” พ่อค้าหน้าเลือดถึงกับเหงื่อตก

“หรือเจ้าจะไม่เอา?”

“ข้าจะไปแจ้งทางการว่าพวกท่านกินแล้วไม่จ่าย”

หยวนซือยิ้มมุมปาก เขาไม่ได้กลัวคำขู่จากพ่อค้าเจ้าเล่ห์แม้แต่น้อย

ช่างน่าขัน ท่านเจ้าเมืองเป็นสหายสนิทของท่านพ่อของเขามีหรือเกิดเรื่องขึ้นท่านเจ้าเมืองจะไม่อยู่ข้างเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากพึ่งอำนาจของคนอื่น

“ก็ได้ ๆ ข้าจ่ายให้เจ้าก็ได้ ข้าพอมีทรัพย์สินอย่างอื่นที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ใช้ความว่องไวรูดเอากำไลหยกเนื้อดีจากข้อมือหญิงสาวมายื่นให้พ่อค้า “กำไลหยกชิ้นนี้เป็นของที่ได้รับพระราชทาน ข้าจ่ายด้วยกำไลหยกวงนี้ให้เจ้าก็แล้วกัน”

เห็นกำไลน้ำนมเนื้อดี พ่อค้าหน้าเลือดก็รีบคว้ามาชม ขัดถูสองสามทีก็รีบเหน็บไว้กับเอวทันที ทว่าเจ้าของกำไลถึงกับตา ลุกวาว

“เฮ้ย! ไม่ได้นะ นั่นเป็นกำไลของท่านแม่ข้า” เยว่ชิงโวยวาย แต่ผู้ที่ยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของนางขยิบตาให้

“เอาน่าอย่าเพิ่งโวยวายไป แค่มัดจำไว้ชั่วคราว เดี๋ยวข้าแวะร้านสุราข้างหน้าแล้วจะเอาเงินมาไถ่คืนให้เจ้า เราไปกันเถอะ” ว่าแล้วหยวนซือก็คว้าข้อมือหญิงสาวให้เดินไปจากพ่อค้าหน้าเลือด แต่เยว่ชิงก็ไม่ยอม

“ไม่ได้! กำไลวงนั้นเป็นของสำคัญสำหรับข้า”

“ชูว์... อย่าเสียงดังไปสิ ของสำคัญของเจ้าก็ต้องอยู่กับเจ้า ข้าจะใจดำเอาไปให้คนแบบนั้นได้อย่างไร” ชายหนุ่มขยิบตา แล้วชูกำไลหยกขึ้นมาให้ดู

เยว่ชิงถึงกับตกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะชิงกำไลหยกจากพ่อค้าหน้าเลือดมาได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้

“ท่าน! ท่านทำได้อย่างไร?”

“ข้ามีวิธีของข้า เจ้าหมอนั่นจงใจต้มตุ๋นเจ้าแต่แรก ต้องสั่งสอนเสียบ้าง เรารีบไปเถอะ”

เยว่ชิงทำตามคำแนะนำโดยดี ทว่าพ่อค้าหน้าเลือดก็รู้ตัวเข้าเสียก่อน

“นั่นกำไลของข้านี่! เอากำไลข้าคืนมานะ”

“ซวยละ หนีเร็ว!” หยวนซือรีบจูงมือหญิงสาวแทรกตัวผ่านผู้คนวิ่งหนีพ่อค้าหน้าเลือดทันที

ไม่ว่าเขาจะวิ่งหนีไปที่ตรอกไหน พ่อค้าหน้าเลือดก็ตามไม่หยุด ราวกับว่าเขาไปสังหารบิดาของคนผู้นี้ตาย พอเจอทางตันหยวนซือก็หันมามองสตรีที่เขาพาวิ่งมาด้วย ก็เห็นว่านางหอบหายใจแรง

“ทางตันแล้วคุณชาย เราจะทำอย่างไรดี?”

“ยังมีทางไป เกาะข้าให้แน่น ๆ” กล่าวแค่นั้นเขาก็รวบเอวบางแล้วใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นหลังคาที่สูงถึงสี่ชั้นในทันที

“ว้าย!” เยว่ชิงหวีดร้องด้วยความตกใจ เพราะไม่ทันตั้งตัว ทุกสิ่งเกิดขึ้นในพริบตาเดียว พอขึ้นมาอยู่บนหลังคาได้หมวกของนางก็หลุดออกจากศีรษะลอยไปกับลม

“หมวกข้า” นางพยายามจะเอื้อมคว้ากลับมาแต่ก็ไม่ทัน สิ่งที่ทำได้คือมองหมวกที่ลอยไปตกที่ระเบียงของโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งเท่านั้น ครั้นจะตามไปเก็บพ่อค้าหน้าเลือดก็วิ่งผ่านมาทางนี้พอดี

“แย่จริง หมวกข้าถูกลมขโมยไปแล้ว” นางพึมพำ

ก็เห็นคนที่ยื่นมือช่วยเหลือนางเอาแต่จ้องมองนางตาไม่กะพริบ ซ้ำเขายังส่งรอยยิ้มมาให้ ซึ่งรอยยิ้มของเขาพาให้หัวใจของนางอ่อนระทวยซ้ำเต้นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง ยิ่งเผลอสบตาเขา ผิวแก้มของนางก็เห่อร้อนขึ้นมา

“มีอะไรหรือ?”

“ไม่มี” เจ้าช่างงดงามยิ่งนัก... หยวนซือหยุดคำพูดแค่นั้นแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง “ข้าต้องขออภัยที่ล่วงเกิน”

“ข้าสิที่ต้องขอบคุณคุณชาย หากไม่ได้ท่านช่วยเหลือ ข้าคงแย่” เยว่ชิงกล่าวอย่างเขิน ๆ พลางเอาเส้นผมที่ปลิวทัดหู นางไม่รู้ว่าเป็นอะไร ได้สบตาเขาทีไรรู้สึกกระดากอายขึ้นมาดื้อ ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel