ท่านพี่เข้าหอกับข้าซะที

69.0K · จบแล้ว
อาคาเซีย/แวววิวาห์/สลิลโรส/ผิงอัง
64
บท
9.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

‘ปิง เยว่ชิง’ จอมพยศไม่เห็นด้วยที่จะแต่งงานกับคนที่บิดาเลือกหาให้ นางไม่รู้จักเขา ไม่แม้แต่จะเห็นหน้าหรือรู้จักชื่อแซ่ ครั้นนางจะปฏิเสธงานแต่งงานก็ดูเหมือนเป็นลูกอกัตญญู ดังนั้นนางจึงจำหาวิธีทำให้ ‘คุณชายหวง หยวนซือ’ เปลี่ยนใจไม่แต่งกับนางเองแต่สวรรค์ช่างใจร้าย! ชายที่นางพยายามปฏิเสธความสัมพันธ์ ดันเป็นชายที่นางมีใจให้ตั้งแต่แรกพบหน้า!!งานนี้นางถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว นอกจากต้องทำทุกวิถีทางเพื่อมัดใจเขาทว่าเรื่องกลับไม่ง่ายเช่นนั้น ไม่ว่านางจะทอดสะพานให้เขามากแค่ไหน งัดจริตมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนมาใช้ อ่อยเขาทุกวิถีทาง คนใจร้ายก็ยังแกล้งหูหนวกตาบอดไม่ใส่ใจ!!เฮ้อ... ท่านพี่เข้าหอกับข้าซะที- - - - -“ท่านพี่ไม่อยากแต่งงานกับข้าหรอกหรือ” นานเป็นอึดใจกว่าเยว่ชิงถึงพูดออกมาได้ แม้ใบหน้าของนางจะไม่มีหยาดน้ำตา แต่หัวใจของนางกลับเจ็บหนึบราวกับถูกใครเชือดเฉือนเนื้อใจ“ไม่แม้แต่จะคิด”หญิงสาวเซเล็กน้อย กระบอกตาร้อนผ่าว “แล้วที่ท่านทำดีกับข้าเล่า ทั้งขนม ทั้งเครื่องประดับ ที่ท่านพี่มอบให้ข้า” พูดออกมาแล้วนางยิ่งรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม ภาพของเขาเริ่มพร่าเรือนเมื่อหยาดน้ำตาไหลมาคลอ“ข้าไม่เคยใส่ใจเรื่องนั้น” หยวนซือกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็หยิบม้วนกระดาษออกมาจากเสื้อ “นี่คือหนังสือหย่า ข้าเขียนชื่อประทับตราลงไปแล้ว แค่เจ้าลงชื่อเท่านั้นความเป็นสามีภรรยาของเราก็จะจบสิ้นลง”นี่มันคืนวิวาห์นะ เขาทำกับนางเช่นนี้ได้อย่างไร!!!“เหตุใดท่านพี่ถึงใจร้ายกับข้านัก” นางถามทั้งน้ำตา“เพราะข้ามีสตรีที่ข้ารักแล้วน่ะสิ อีกอย่างข้าไม่ต้องการมีเมียหน้าเหมือนม้า!”

นิยายจีนโบราณคนต่ำต้อยแต่งงานสายฟ้าแลบนางเอกเก่งรักหวานๆนักวรยุทธจีนโบราณโรแมนติกพระเอกเก่ง

บทที่ 1 แรกพบ (1)

ตลาดในเมืองเทียนโจวมีผู้คนจากต่างถิ่นแวะเวียนเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าอย่างคับคั่ง ภาพอันเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองคือสองข้างทางมีร้านค้ายาวเหยียด มีสินค้ามากมายทั้งของกิน ของใช้ ของที่ระลึก และรวมไปถึงร้านขายอาวุธ

แม้จะสายมากแล้วแต่ผู้คนก็ยังออกมาเดินเที่ยวตลาด ยิ่งพรุ่งนี้เป็นวันตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่บ้านเรือนทุกหลังต่างพร้อมใจประดับโคมสีแดง สีแห่งความเป็นมงคล ซึ่งบางบ้านมีตัวอักษรสีทองเขียนไว้ที่โคมเหล่านี้ด้วย

สำหรับ ‘ปิง เยว่ชิง’ ที่เพิ่งมาเหยียบเมืองเทียนโจวเป็นครั้งแรกก็รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นไม่น้อย

ปกตินางจะใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านในหุบเขาวงจันทราเป็นส่วนใหญ่ แม้บางครั้งบางคราวนางได้ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปทำธุระ หรือเพื่อผจญภัยเก็บเกี่ยวประสบการณ์

แต่นางก็ยังไม่เคยได้มาเยือนเมืองใหญ่และเจริญรุ่งเรืองแบบเมืองเทียนโจวเลยสักครั้ง เห็นผู้คนมากหน้าและรวมไปถึงสินค้าที่วางขาย ก็ดึงดูดความสนใจให้นางเป็นอย่างดี

นางเกิดและเติบโตในหมู่บ้านกลางหุบเขาวงจันทรา แม้ที่นั่นจะเป็นสถานที่สุดวิเศษที่หลีกเร้นความวุ่นวายจากโลกภายนอก อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม และเป็นสถานที่ที่คนภายนอกปรารถนาจะไปอยู่ แต่เมื่ออยู่นานเข้านางก็เบื่อหน่ายความซ้ำซากจำเจเช่นกัน

นางเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ ‘ปิง เหลียงคุน’ อดีตชาวยุทธผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านผดุงความยุติธรรม

นอกจากนี้ในอดีตบิดาของนางยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านและควบตำแหน่งท่านประมุขแห่งหุบเขาวงจันทราด้วย ซึ่งตอนนี้ท่านพ่อของนางอายุมากแล้ว เขาจึงได้ปลดระวางหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ลง

โดยบิดาของนางได้แต่งตั้ง ‘เหอ เจี้ยนเฟิง’ ให้เป็นท่านประมุขคนใหม่ของหุบเขาวงจันทราซึ่งผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งคนผู้นี้นั้นหาใช่คนธรรมดา แต่เขาคือสายเลือดมังกร ซ้ำยังดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท!

แต่เพราะองค์ชายรัชทายาทรักความสุขสงบ เป็นคนสมถะ ชอบความเรียบง่าย เขาจึงหลีกเร้นความวุ่นวายมาใช้ชีวิตอยู่ที่หุบเขาวงจันทรา ท่านพ่อของนางเห็นแววในตัวเขาจึงได้รับเขาเป็นศิษย์ ไม่เพียงแค่ถ่ายทอดวรยุทธขั้นสูงให้เท่านั้น บิดาของนางยังรักองค์ชายรัชทายาทประหนึ่งลูกในอุทร

เพราะความสนิทสนมกันนางจึงได้รับความเมตตาจากองค์ชายไปด้วย เขาให้ความรักความเอ็นดูนางประหนึ่งนางคือพี่น้องเชื้อสายเดียวกัน ขอเพียงนางปรารถนาสิ่งใดคนผู้นี้ก็จะเสาะแสวงหามาให้ นอกจากนี้เขายังรับนางไว้เป็นน้องสาวบุญธรรม

แม้ตัวนางจะไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ มิได้ดำรงตำแหน่งองค์หญิง แต่การที่มีพี่ชายบุญธรรมเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทก็เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจไม่น้อย

ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่เคยโอ้อวดตนกับใคร หรือนำชื่อพี่ชายบุญธรรมไปแอบอ้างกับใครทั้งนั้น เพราะท่านพ่อของนางได้สอนเอาไว้

ยิ่งโอ้อวดตน ก็ยิ่งทำให้ผู้คนรังเกียจ การอยู่อย่างเรียบง่าย มีน้ำใจเกื้อกูลกันจะเป็นที่รักของผู้คนได้มากกว่า นางจึงจดจำคำสอนนี้ไว้ขึ้นใจ

เยว่ชิงมองบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างที่มีรูปทรงแตกต่างจากบ้านในหมู่บ้านหุบเขาวงจันทราอย่างสนใจ รูปทรงบ้านเรือนดูแตกต่างจากบ้านเรือนในหมู่บ้านที่สร้างจากฟางแห้งเสียเป็นส่วนใหญ่ ทุกอย่างดูงดงามในสายตาของนาง นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้มาเหยียบเมืองทางตอนใต้

อันที่จริงนางไม่ได้อยากมาที่นี่นักหรอก แต่ที่ต้องมาเป็นเพราะท่านพ่อต้องการให้นางได้ออกมาเปิดหูเปิดตา รวมทั้งได้พบกับ ‘คู่หมั้น’ ที่ท่านพ่อได้หมั้นหมายไว้ให้

เฮ้อ... แค่คิดก็น่าหนักใจ

หากออกมาเที่ยวเตร็ดเตร่เพื่อเปิดหูเปิดตา เรียนรู้โลกภายนอกเพื่อรู้จักผู้คนยังพอทำเนา แต่เรื่องพบหน้า ‘คู่หมั้น’ นี่สิที่ทำให้นางปวดหัว นางเพิ่งรู้ว่าตนเองมีคู่หมั้นก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากหมู่บ้านเพียงสามวันเท่านั้น!