บทที่ 1 แรกพบ (3)
“พูดแบบนี้หมายความว่าอะไร หรือเจ้าคิดจะโกง?” พ่อค้ากอดอกชักสีหน้าไม่พอใจ ซ้ำยังหรี่ตาลง
“ข้าไม่คิดโกงท่านหรอกนะ แต่ตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าถุงเหอเปาของข้าหายไปไหนแล้ว” เยว่ชิงบอกเสียงแผ่ว นางได้แยกจากท่านพ่อด้วยจึงไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าพุทรา
“อุบายตื้น ๆ คิดจะเบี้ยวไม่จ่ายหรือไง?” พ่อค้าหน้าเลือดหักนิ้วเสียงดังก๊อบซ้ำยังทำหน้าดุกว่าเก่า
“ไม่ใช่ซะหน่อย!”
“ถ้าไม่จ่ายเงินก็เอาของคืนมา!” ว่าแล้วพ่อค้าหน้าเลือดก็แย่งพุทราเชื่อมไปจากมือเด็กน้อยหน้าตาเฉย พอเด็กไม่ยอม คนผู้นี้ก็ผลักเด็กน้อยจนกระเด็น
เห็นแบบนั้นเยว่ชิงก็หน้าตึง ความโกรธพุ่งขึ้นมาจนหน้าแดง
“มันจะมากไปแล้วนะ!! เจ้าเป็นผู้ชายอกสามศอกเสียเปล่า แต่กลับรังแกเด็กน้อยที่ไม่มีทางสู้” หญิงสาวโวยวายพลางผลักอกพ่อค้าพุทราเชื่อมจนคนผู้นั้นเซเล็กน้อย แต่พ่อค้าก็ไม่ยอมถอยซ้ำยังผลักไหล่ของนางคืนจนเป็นเหตุให้นางล้มลงก้นกระแทกพื้น
แน่นอนว่าแรงบุรุษกับสตรีย่อมต่างกัน พอนางล้มลงพ่อค้าหน้าเลือดก็เอาเท้าเหยียบบนเก้าอี้แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มที่น่าขยะแขยง
“ไหน ขอข้าดูโฉมหน้าคนที่คิดเบี้ยวกินแล้วไม่จ่ายหน่อย” พอยื่นมือหมายถอดหมวกปีกกว้างออก ก็มีใครบางคนเข้ามาสะกิดไหล่เขาก่อน
“เฮ ค่าพุทราเชื่อมเท่าไหร่หรือพี่ชาย?”
พ่อค้าหน้าเลือดละความสนใจกับหญิงสาวต่างถิ่นชั่วคราวแล้วหันมามองผู้ที่ยื่นมือเข้ามาสอดเรื่องนี้ พอพบว่าเป็นคุณชายบ้านสกุลหวงเขาก็สงบท่าที “คุณชายหวงนั่นเอง”
“เจ้ารู้จักข้าด้วยหรือ?”
“ทั่วเทียนโจวมีใครบ้างที่ไม่รู้จักคุณชายผู้ผดุงความยุติธรรม”
“คนพวกนั้นก็พูดกันเกินไป ว่าแต่มีเรื่องอะไรกันหรือ?” ชายหนุ่มเอามือไพล่หลังถามเสียงเรียบ กระนั้นสายตาคมเฉี่ยวกลับกวาดมองดูคู่กรณีของพ่อค้าหน้าเลือดอย่างให้ความสนใจ แต่เขาก็ไม่เห็นโฉมหน้าของนาง ทั้งนี้เพราะนางสวมหมวกปีกกว้างและมีผ้าผืนบางปิดบังเอาไว้
ดูจากการแต่งกายแล้วนางคงไม่ใช่คนเมืองนี้
“พอดีมีเรื่องกินแล้วไม่จ่าย ว่าแต่คุณชายรู้จักกับแม่นางผู้นี้ด้วยหรือ?”
“นางเป็นญาติผู้น้องของข้าเอง” บอกกับพ่อค้าไปแบบนั้น ‘หวง หยวนซือ’ ก็เดินมาหยุดตรงหน้าหญิงสาวพร้อมนั่งชันเข่ากับพื้น
“จะมาหาพี่ชายทั้งทีทำไมถึงไม่บอกล่วงหน้า แล้วนั่งกับพื้นทำไม รีบลุกขึ้นสิ” เขากล่าวพร้อมขยิบตาให้หญิงสาว จากนั้นก็รีบฉุดให้นางลุกขึ้นยืน “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
แม้คนผู้นี้จะปล่อยมือนางแล้ว แต่ความรู้สึกยังหลงเหลืออยู่จนนางเผลอกำมือเข้าหากัน
เยว่ชิงได้แต่มองจ้องบุรุษรูปงามตรงหน้าตาไม่กะพริบ นางทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ รู้แค่ว่าเหมือนภาพของเขาหยุดนิ่ง ที่สำคัญพอได้เห็นหน้าเขาคนนี้ก็พาให้หัวใจของนางกระตุกวูบเต้นระรัว ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด
นางเคยคิดว่าพี่ชายบุญธรรมเป็นบุรุษรูปงามที่สุดในใต้หล้าแล้ว แต่พอได้พบกับคนผู้นี้ ความคิดนี้ก็เปลี่ยนไปทันที นางรู้สึกว่าคุณชายตรงหน้าเป็นบุรุษที่น่าหลงใหลเสียเหลือเกิน เขางามปานรูปปั้นแกละสลักที่ถูกสร้างจากช่างฝีมือดีแห่งยุค แค่เห็นเขาก็ทำให้หวั่นไหวจิตใจของนางไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านางจ้องเขานานแค่ไหน จนพ่อค้าทำเสียงกระแอมไอนางถึงหลุดจากอาการตกตะลึง
“เอาล่ะ ๆ เรื่องพี่น้องค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้ช่วยจ่ายค่าพุทราเชื่อมให้ข้าก่อนเถิดคุณชาย”
“เท่าไหร่?” หยวนซือเอ่ยถาม
“ทั้งหมดสิบตำลึงขอรับ” พ่อค้าหน้าเลือดบอกพลางถูฝ่ามือไปมา
“พุทราเชื่อมกี่ไม้กันเชียว ถึงขายตั้งสิบตำลึง”
“ก็หมดทั้งร้าน แม่นางผู้นี้เหมาแจกเด็ก ๆ”
“เจ้าไม่ขายแพงไปหน่อยหรือ” ไม่เพียงพูดตรง ๆ หยวนซือยังโอบไหล่พ่อค้าเอาไว้ “ข้าพูดตามตรงนะ ลดเหลือสักสองตำลึงได้ไหม เราคนเมืองเทียนโจวเหมือนกัน”
“คุณชายท่านต่อราคาข้าขนาดนี้ ข้าแทบจะขาดทุนเข้าเนื้อเลยนะ”
“แทบจะขาดทุน แสดงว่าเจ้ายังมีกำไรอยู่สินะ” หยวนซือรีบดักคอ
