บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 แรกพบ (2)

เรื่องนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่าปวดหมองเสียจริง

นางไม่เคยคิดที่จะแต่งงานเหมือนสตรีอื่นในหมู่บ้านหุบเขาวงจันทรา นางมองว่าการแต่งงานเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย สตรีที่ออกเรือนล้วนต้องเชื่อฟังสามี คอยดูแลเรื่องงานบ้าน คอยปรนนิบัติสามี ให้กำเนิดลูก และเลี้ยงดูลูกน้อย แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องน่าเบื่อที่นางไม่พึงปรารถนา

นางไม่รู้ว่าชายที่ท่านพ่อหมั้นหมายไว้ให้นั้นเป็นคนแบบไหน นางไม่เคยพบหน้าเขาสักครั้ง อย่าว่าแต่พบหน้าเลย แม้แต่ชื่อแซ่ก็ไม่เคยรู้จัก แบบนี้จะให้แต่งงานได้อย่างไร อีกสิ่งนางป่วยเป็นโรคประหลาด ซึ่งโรคนี้ถ่ายทอดผ่านทางสายเลือด

ท่านพ่อบอกว่าท่านแม่ของนางก็ป่วยเป็นโรคประหลาดนี้ นั่นคือหากหลับลึกเมื่อไหร่ก็จะหยุดหายใจดื้อ ๆ ซึ่งตัวนางเองในตอนเด็กต้องเผชิญหน้ากับโรคร้ายอยู่หลายปี แต่โชคดีที่ได้สหายรักของท่านพ่อซึ่งเป็นท่านหมอเทวดาช่วยรักษา โรคร้ายจึงไม่กำเริบอีก

นั่นล่ะ ถึงโรคนี้จะไม่กำเริบมาหลายปีแล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางหายขาดจากโรคร้ายนี้แล้ว

ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่อยากออกเรือน มีลูก มีหลาน นางไม่ต้องการให้สายเลือดของนางต้องมาทุกข์ทรมานกับโรคร้ายนี้อีก แต่นางก็ไม่อาจทัดทานท่านพ่อได้ เพราะท่านพ่อของนางเป็นผู้ถือสัจจะยิ่งกว่าชีวิต

ในเมื่อปฏิเสธเรื่องการแต่งงานไม่ได้ นางก็จะหาวิธีทำให้คนผู้นั้นเป็นฝ่ายเปลี่ยนใจไปจากนางเสียเอง!

เยว่ชิงอมยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อคิดถึงเรื่องสนุก ๆ นางไม่รู้หรอกว่าเขาคนนั้นหน้าตาเป็นเช่นไร นางรู้แค่ว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เขาเปลี่ยนใจไม่แต่งงานกับนางให้จงได้!

หญิงสาวเดินเตร็ดเตร่จนทั่วตลาดรวมทั้งแวะซื้อของกินที่ขายอยู่สองข้างทาง แม้เทียนโจวจะเป็นเมืองที่เจริญ มีผู้คนหลั่งไหลมาเยือนเพื่อทำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้า แต่ในความเจริญรุ่งเรืองนั้นก็ยังมีผู้ยากไร้และขอทานอาศัยอยู่

ตอนที่นางซื้อพุทราเชื่อมก็เหลือบตาไปเห็นเด็กน้อยเนื้อตัวมอมแมมนั่งจ้องมองตาแป๋ว พอนางแบ่งพุทราเชื่อมให้เด็กที่จ้องมองนางและกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อก ๆ เด็กน้อยคนอื่นซึ่งมีสภาพไม่ต่างกันก็รีบกรูเข้ามาหานาง

“พี่สาว ข้าก็อยากกินพุทราเชื่อมเหมือนกัน”

“พี่สาว ข้าไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว”

“พี่สาว เจ้าหนอนตะกละในท้องข้ากำลังกัดแทะกระเพาะของข้าจนแสบไปหมดแล้ว”

เยว่ชิงมองเด็กแต่ละคนก็รู้สึกสงสารจับใจ เห็นเด็กพวกนี้นางก็อดคิดถึงเด็ก ๆ ที่หมู่บ้านหุบเขาวงจันทราไม่ได้ เพราะหมู่บ้านของนางนั้นมีเด็กกำพร้าที่ท่านพี่บุญธรรมรับเลี้ยงเอาไว้จำนวนมาก พวกเขาล้วนหิวโหย ไร้บ้าน และไร้ผู้ปกครอง อีกทั้งตัวนางเองก็กำพร้าแม่ นางจึงเข้าใจความรู้สึกของเด็กเหล่านี้ได้ดี

“เอาล่ะ ๆ พวกเจ้าเลิกทำเสียงดังเสียที ข้าจะให้พุทราเชื่อมกับพวกเจ้าทุกคน” ว่าแล้วเยว่ชิงก็หยิบพุทราเชื่อมที่เสียบอยู่ในไม้ไผ่หุ้มฟางมาแจกจ่ายเด็ก ๆ คนละไม้

ได้เห็นรอยยิ้ม แววตาใสซื่อบริสุทธิ์ และได้เห็นเด็กน้อยกินพุทราเชื่อมก็พลอยให้นางมีความสุขไปด้วย

พอพุทราเชื่อมถูกดึงออกไปจากไม้ไผ่หุ้มฟางนางก็หยิบกระเป๋าใบเล็กที่ใส่เงินเพื่อจ่ายให้พ่อค้า ทว่าเยว่ชิงก็ชะงักไปเล็กน้อยเพราะที่เอวของนางกลับว่างเปล่า

“ถุงเหอเปาของข้าหายไปไหนแล้ว?!” หญิงสาวพึมพำอย่างตกใจ เพราะนางสวมหมวกปีกกว้าง มีผ้าสีขาวอำพรางใบหน้าไว้ คนขายจึงไม่เห็นสีหน้าที่ซีดเผือดเป็นไก่ต้ม

เป็นไปได้ว่านางอาจทำตกหาย หรือไม่ก็ถูกมือดีลักขโมยถุงใส่เงินไปตอนที่นางไม่ทันระวังตัว

“แม่นางจ่ายค่าพุทราเชื่อมด้วย ทั้งหมดเป็นเงินสิบตำลึง”

“สิบตำลึงเชียวหรือ!” ทั้งเนื้อทั้งตัวนางไม่มีเงินสักกะอีแปะ ไม่คิดว่าข้าวของเมืองเทียนโจวจะแพงหูฉี่ถึงเพียงนี้

“นี่เป็นพุทราอย่างดี ผลโต หวานอร่อย และเป็นของหายาก ราคาย่อมต้องสูงเป็นธรรมดา ไปซื้อที่อื่นก็ราคานี้” พ่อค้าอธิบาย ทั้งที่กระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อได้ขูดเลือดขูดเนื้อโก่งราคากับลูกค้าต่างถิ่นหน้าโง่

“แพงหูฉี่ขนาดนี้ ถ้าเป็นหมู่บ้านของข้าคงซื้อพุทราได้เป็นกระสอบ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel