บท
ตั้งค่า

ตอนที่27.ไม่ส่งตัวนางให้องครักษ์ตามที่ร้องขอ

“ท่านอ๋อง” เจิ้งไฉเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่กลับมาถึงตัวแม่นางผู้นี้ช้ากว่าผู้เป็นนาย

เดิมทีเขาส่งเจิ้งไฉคอยติดตามดูความเคลื่อนไหวของว่านหนิงเหมย คอยส่งข่าวรายงานเขาเป็นระยะๆ แต่วันนี้เขาเบื่อหน่ายที่ถูกฮองไทเฮารบเร้าเรื่องเลือกพระชายาจึงออกมานอกวัง ไม่คิดว่าจะได้เห็นนางเดินมาที่ตรอกแห่งนี้ และเกิดเหตุการณ์เมื่อครู่

“ให้ข้าอุ้มแม่นางว่านเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เจ้านายของเขาเป็นถึงชินอ๋อง เป็นองค์ชายเฟยเทียนผู้สูงศักดิ์ นางไม่มีค่าคู่ควรให้ท่านอ๋องต้องเสียมืออุ้มนางเลยสักนิด

บุรุษหนุ่มมองใบหน้าที่หลับใหลแล้วกระชับวงแขน ช้อนตัวนางลุกขึ้น ไม่ส่งตัวนางให้องครักษ์ตามที่ร้องขอ

“กลับตำหนักชินอ๋อง”

ด้วยวรยุทธ์อันสูงส่งขององค์ชายเฟยเทียน ใช้วิชาตัวเบาอุ้มร่างที่หมดสติกระโจนหายไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาเจิ้งไฉที่ไม่เคยเห็นท่านอ๋องใส่ใจหญิงใดถึงกับอ้าปากค้าง แต่ก็รีบติดตามไปในทันที

เห็นรากไม้กลายเป็นแส้ประหนึ่งมีชีวิตว่าประหลาดแล้ว แต่เห็นท่านอ๋องใส่ใจสตรีนางหนึ่ง นี่ต่างหากที่ประหลาดยิ่งกว่า!.

ซิ่นเจี่ยง กุนซือผู้ปราดเปรื่องนั่งพิศดูกิ่งไม้เล็กๆ ที่ดึงออกมาจากท่อนแขนขององค์ชายเฟยเทียน

เขาใช้มีดบางเหลากิ่งไม้ดู แต่เนื้อในของกิ่งไม้ที่ชิ้นไม่ใหญ่ไปกว่าตะเกียบอันนี้ก็เป็นเพียงกิ่งไม้ธรรมดา แล้วเหตุใด กิ่งไม้อันนี้จึงแทงทะลุผิวหนังดุจเหล็กกล้าขององค์ชายได้

แต่เรื่องที่ให้ประหลาดใจยิ่งกว่า คงเป็นองค์ชายเฟยเทียนอุ้มหญิงสาวนางหนึ่งกลับเข้ามาในตำหนัก ซ้ำยังเดือดร้อนให้เขาไปตามหมอมาดูแลรักษานางอีก เจิ้งหู่และเจิ้งไฉองครักษ์ที่ติดตามองค์ชายเฟยเทียนมาพอๆ กับเขาก็งุนงงไม่แพ้กัน

เพราะนานทีจึงจะกลับเมืองหลวง แม้มีตำหนักของตนเอง แต่แทบจะกลายเป็นตำหนักร้าง ยังดีที่ก่อนเดินทางมาเมืองหลวง ฮองไทเฮาสั่งให้คนสนิทมาดูแลทำความสะอาดไว้แล้ว รวมทั้งจัดการหาบ่าวไพร่ให้ แต่กระนั้นพวกนางกำนัลหรือหญิงรับใช้ก็ยังหวาดกลัวที่จะเข้าใกล้องค์ชายผู้นี้

ร่างสูงตวัดชายเสื้อลงนั่งที่เก้าอี้กลม วางแขนลงบนโต๊ะด้วยความเคยชิน แม้สีหน้าเรียบเฉยแต่ในใจกระวนกระวายด้วยความอยากรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องจะเป็นเช่นไร ซิ่นเจี่ยงที่จับมีดบางเล่นอยู่เห็นอีกฝ่ายเผลอจึงง้างมือหมายปักมีดเล่มเล็กลงที่ท่อนแขนขององค์ชายเฟยเทียน เจิ้งไฉและเจิ้งหู่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทะลึ่งกายจะเข้าขวาง แต่ยังช้าไป มีดบางเล่มนั้นกระทบท่อนแขนซ้ายขององค์ชาย ทว่ามันกลับไม่สามารถทำอะไรได้เลย ราวกับเอามีดไปกระแทกบนก้อนศิลา

ดวงตาคมกระตุกเล็กน้อย ย้ายสายตามองหน้าคนสนิท

“เล่นอะไรของเจ้า ซิ่นเจี่ยง”

“กระหม่อมแค่ลองทดสอบดูพ่ะย่ะค่ะ”

ด้วยความสนิทสนมทำให้ซิ่นเจี่ยงแค่ไหวไหล่เล็กน้อย ดูมีดบางที่ก่อนหน้านี้ใช้เหลากิ่งไม้ที่แทงเข้าเนื้อองค์ชายได้ แต่ตอนนี้มีดแหลมคมเล่มนี้กลับทำอะไรองค์ชายไม่ได้ ซ้ำยังเป็นเขาที่รู้สึกว่าแรงสะท้อนนั้นทำให้ปวดอุ้งมือไปอีก

“กิ่งไม้นี่ กระหม่อมทั้งเหลาทั้งลองหักดู ข้างในก็ไม่ได้มีอะไรซ่อนอยู่ กลับทิ่มแทงทะลุผิวของท่านอ๋องได้ แต่พอมีดบางเล่มนี้กลับทำอะไรท่านอ๋องไม่ได้ เอ๊ะ! นี่รอยช้ำอะไรพ่ะย่ะค่ะ”

ซิ่นเจี่ยงถาม เพิ่งสังเกตเห็นรอยช้ำทับรอยมังกรเพลิงที่พันรอบท่อนแขนซ้าย

องค์ชายเฟยเทียนปรายตามองด้วยความประหลาดใจ แขนซ้ายที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีสิ่งใดทำอันตรายก่อเกิดบาดแผลได้เลยสักคราเดียว ทว่าเป็นเช่นนี้มาสองครั้งแล้ว และเกิดขึ้นเมื่อพบหน้าหญิงสาวผู้นั้น

“รากไม้นั้นราวกับมีชีวิต มันปกป้องแม่นางว่าน” เจิ้งไฉย้ำเรื่องราวที่ตนเองเห็นมาอีกครั้ง เล่าให้เจิ้งหู่และซิ่นเจี่ยงฟังมาแล้ว ถ้าไม่เคยคิดตามองค์ชายเฟยเทียนออกรบมานับครั้งไม่ถ้วน เขาอาจตื่นตระหนกมากกว่านี้ก็เป็นได้

“ฮองไทเฮาทรงตรัสว่านางมีพรสวรรค์ ราวกับปลุกชีพต้นไม้ดอกไม้ในวังหลวงได้ โดยเฉพาะสวนสี่ฤดู” ซิ่นเจี่ยงทบทวนเรื่องราวทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องดีนัก หากจะมีสิ่งใดที่มาปองร้ายองค์ชายเฟยเทียน “อาจไม่ใช่พรสวรรค์ก็เป็นได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel