ตอนที่22.เป็นอย่างไรบ้าง
“หนิงเหมย กลับมาแล้วรีบไปที่ห้องของเจ้าเสีย อย่ามายืนเกะกะหน้าบ้านเช่นนี้”
ว่านหนิงเหมยหันไปตามเสียงที่ได้ยิน เป็นมารดาของนางเดิน
เข้ามาพร้อมสาวใช้วัยกลางคน นางจึงยอมลดอารมณ์ ไม่ปะทะกับว่านซือสือ ตั้งแต่เด็กนางมักถูกผู้อื่นรังแกเสมอ แม้แต่มารดาก็ไม่เคยปกป้อง หลังจากที่นางได้เข้าวังรับใช้ฮองไทเฮา พอได้หยิบยกเอาเรื่องนี้ไว้เป็นเกราะป้องกันไม่ให้ผู้อื่นกล้ารังแกนางได้อีก แม้ความจริงยามอยู่ในวังหลวงก็ไม่มีตัวตนสลักสำคัญอันใดนัก
“ท่านแม่ ของในห่อนี้ฮองไทเฮาประทานให้ รบกวนท่านแม่ด้วย”
นางยื่นห่อผ้าที่ได้มาส่งให้หญิงรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างมารดา ตั้งแต่มีโอกาสได้รับใช้ฮองไทเฮา ไม่ว่านางได้รับสิ่งใดจะมอบให้มารดาเสมอ ส่วนมารดาเก็บไว้ให้นางหรือนำไปทำอะไร ก็สุดแท้แต่ความประสงค์ของมารดา มีเพียงสายตาเศร้าสร้อยฉาบที่แววตาของนางเพียงครู่เดียว หญิงสาวผงกศีรษะให้มารดาเล็กน้อย หมุนตัวเดินไปที่ห้องพักของตัวเอง
เด็กชายตัวเล็กพอรู้ว่านางกลับมา รีบวิ่งกระหืดกระหอบมาต้อนรับ ว่านหนิงเหมยยิ้มให้จ้าวต้า มีเพียงแค่เด็กคนนี้กระมังที่รอคอยนางกลับมาด้วยสายตายินดีเช่นนี้
“เป็นอย่างไรบ้าง ข้าไม่อยู่บ้านสองสามวัน มีใครรังแกเจ้าหรือไม่” ว่านหนิงเหมยยื่นมือไปลูบผมของเขาเบาๆ
“ไม่มีขอรับ” เด็กชายยืดอกพูด เขาไม่พูดความจริงเพราะเกรงทำให้คุณหนูเป็นกังวล เขาจะอดทน ไม่ว่าคุณชายทั้งสองจะกลั่นแกล้งอย่างไรก็ตาม
“ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย เจ้าไปบอกป้าฮุยเหอว่าข้าไม่ค่อยสบายช่วยต้มโจ๊กร้อนๆ ให้ข้าสักชามเถิดนะ”
“คุณหนูไม่สบายหรือ? ให้ตามหมอไหมขอรับ”
“ไม่ต้องหรอก พักผ่อนเสียหน่อยคงดีขึ้น เจ้าไปเอาน้ำอุ่นให้ข้าสักอ่างก็แล้วกัน ข้ารู้สึกมีไข้”
“ขอรับคุณหนู”
ว่านหนิงเหมยมองร่างเล็กรีบวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว นางยิ้มให้กับความรีบร้อนของจ้าวต้า เมื่อเดินไปถึงห้องนอนของตนเอง นางผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเอนหลังลงนอนพักผ่อน เพิ่งหย่อนตัวลงนั่งจ้าวต้าเดินเร็วๆ เข้ามาพร้อมอ่างใส่น้ำอุ่น เขาวางอ่างใบนั้นลงบนโต๊ะหยิบผ้าที่พาดบ่าลงชุบน้ำบิดหมาดๆ เดินมาทางนางหมายจะเช็ดหน้าให้ แต่ท่าทางเงอะงะขัดเขินของเขานั้น สร้างรอยยิ้มให้กับว่านหนิงเหมยจนเด็กชายเขินอายเสียเอง
“ข้าทำเองได้” นางยื่นมือไปรับผ้ามาเช็ดหน้า “ขอน้ำชาข้าหน่อยสิ”
“ขอรับ” จ้าวต้ารีบรินน้ำชาให้นาง ครู่ต่อมาป้าฮุยเหอพาร่างอวบอ้วนเข้ามาพร้อมชามโจ๊กหอมกรุ่น
“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”
“แค่เป็นไข้นิดหน่อย” ว่านหนิงเหมยหัวเราะน้อยๆ จากที่รู้สึกโดดเดี่ยว ตอนนี้นางกลับรู้สึกว่ามีคนรักและเป็นห่วงนางอย่างจริงใจถึงสองคน
“ไฉนฮองไทเฮาใช้งานคุณหนูของป้าจนไม่สบายเช่นนี้” ปกติคุณหนูของนางแข็งแรง ปีทั้งปีแทบไม่เคยเห็นเจ็บป่วยอะไรเลย
“อย่าพูดเช่นนั้นเชียว ข้าแค่ตกน้ำก็เลยไม่สบายเอาน่ะ”
นางนึกขึ้นได้ รีบยกข้อมือขึ้นถอดกำไลหยกออกจากข้อมือส่งให้ป้าฮุยเหอ
“ฝากเก็บไว้ด้วย ถ้าเอาไว้กับข้ามีหวังโดนค้นห้องเอาไปแน่” นางยิ้มเหมือนเป็นเรื่องปกติ ของกำนัลที่ฮองไทเฮาพระราชทานให้ ส่วนใหญ่นางให้มารดาเก็บไว้ทั้งหมด มีบางชิ้นที่ชิ้นเล็กไม่สะดุดตา นางแอบเก็บไว้เอง
“เก็บให้จ้าวต้าไว้เรียนหนังสือ รอเสร็จเรื่องยุ่งก่อน ข้าจะพาเจ้าไปสำนักศึกษา”
“คุณหนู” จ้าวต้าทำตาโต ทั้งตื่นเต้นดีใจและกังวลใจไปพร้อมกัน
“จะดีหรือเจ้าคะ จ้าวต้าเป็นแค่เด็กรับใช้ คุณหนูเสียสละเวลาสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ก็มากเกินไปแล้ว” ป้าฮุยเหอกลัวว่าคุณหนูของนางจะเดือดร้อน คนที่เรือนใหญ่มักหาเรื่องรังแกอยู่เสมอ
“ดีสิ จ้าวต้าจะได้มีความรู้ และใช้ความรู้นั้นไปช่วยเหลือผู้อื่น” นางยื่นมือไปลูบศีรษะเด็กน้อย “ข้าไม่ได้เรียนหนังสือ ข้าก็อยากให้เจ้าได้เรียน เจ้าล่ะอยากเรียนหรือไม่”
“อยากเรียนขอรับคุณหนู” เขาพยักหน้าแรงๆ
“คุณหนูสนับสนุนเจ้าเช่นนี้แล้ว อย่าลืมบุญคุณของคุณหนูล่ะ” ป้าฮุยเหอแม้เป็นคนดุแต่จริงใจ นางดูออกว่าเด็กคนนี้เป็นคนกตัญญู วันข้างหน้า เขาคงดูแลคุณหนูของนางได้
“แล้วคุณหนูตกน้ำได้อย่างไรเจ้าคะ คุณหนูว่ายน้ำไม่เป็นไยไม่ระวังตัวให้มากกว่านี้” ป้าฮุยเหอรีบวางชามโจ๊ก แล้วนางปรี่เข้ามาดูเนื้อดูตัวคุณหนูมีที่ใดบาดเจ็บบ้าง
