บท
ตั้งค่า

ตอนที่21. ไม่เคยมีสิ่งใดทำร้ายท่อนแขนมังกรข้างนี้ได้เลยสักครั้งเดียว!

แขนซ้ายที่ปีศาจมังกรเพลิงสิงสถิตอยู่ แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า คมกระบี่ใดๆ ก็มิเคยได้ระแคะระคายผิว เพียงรู้สึกว่ามีบางสิ่งพุ่งเข้าใส่ เขายกท่อนแขนซ้ายขึ้นป้องกันอย่างเคยชิน ทว่า...

ฉึก!!!

กิ่งไม้แหลมเล็กพุ่งเข้าใส่ปักท่อนแขนดุจลูกศรยิงจากธนู ดวงตาคมวาวจ้องมองด้วยความงุนงง ความเจ็บแปลบตอกย้ำว่านี่เป็นเรื่องจริง โลหิตสีเข้มไหลออกมา องค์ชายเฟยเทียนจึงขยับท่อนแขนพิศมองด้วยความประหลาดใจ

สิบปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีสิ่งใดทำร้ายท่อนแขนมังกรข้างนี้ได้เลยสักครั้งเดียว!

“ท่านอ๋อง” ว่านหนิงเหมยได้สติ ทรงตัวได้ก่อนจะล้มไปก้นกระแทกพื้น พอเห็นกิ่งไม้แหลมเล็กนั่นก็รู้ทันทีว่าเป็นเพราะนาง เมื่อหกปีก่อนก็เป็นเช่นนี้ เพราะนางตกใจและหวาดกลัวผสมกับรู้สึกถูกคุกคาม ต้นไม้จึงปกป้องโดยที่นางเองไม่ได้สั่งให้ทำร้ายใคร

“ท่านอ๋อง”

เป็นเสียงขององครักษ์ที่เฝ้าดูอยู่ไม่ไกลนัก เพราะติดตามองค์ชายมานาน รู้ดีถึงแขนซ้ายที่เป็นดั่งเกราะเหล็กกล้าปกป้องผู้เป็นนายได้ยอดเยี่ยมเพียงใด จึงไม่ได้ออกมาปกป้องแต่แรก ไม่คิดว่ากิ่งไม้เล็กๆ ที่จู่ๆ ก็พุ่งเข้าใส่นั้น ปักท่อนแขนซ้ำยังทำให้โลหิตหลั่งอีกด้วย!

“ไม่เป็นไร เล็กน้อยเท่านั้น” องค์ชายเฟยเทียนโบกมือห้าม หากเปรียบเป็นลูกศรยามออกรบก็เรียกได้ว่านี่เป็นศรเตือน ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดมากนักหรือจะเอาชีวิตเขาแต่อย่างใด

“หม่อมฉัน...” นางพูดอะไรไม่ออก ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำอย่างไรดี? นางควรทำอย่างไร เรื่องเก่ายังไม่ทันสะสาง เรื่องใหม่เกิดซ้ำอีกแล้วรึ

“หม่อมฉันไม่สบายขอทูลลาเพคะ”

หญิงสาวย่อตัวคารวะแล้วหันหลังวิ่งหนีไปทันที!

“ท่านอ๋อง” เป็นเจิ้งไฉที่เอ่ยขึ้นขอคำสั่งจากชายหนุ่ม

“สืบดูแต่อย่าทำร้ายนาง”

“รับทราบ!” เพียงพริบตา เจิ้งไฉกระโจนไปอย่างรวดเร็วราวกับหายตัวได้

“อย่าให้ผู้ใดรู้ ตามซิ่นเจี่ยงมาพบข้าที่ห้อง”

“รับทราบ!” เจิ้งหู่รับคำสั่ง

องค์ชายเฟยเทียนดึงกิ่งไม้นั้นออก ใช้มือกดปากแผลเพียงครู่เดียวเลือดก็หยุดไหล กิ่งไม้แหลมเล็กปักเข้าไปไม่ลึก เพียงแต่ความเร็วและแรงนั้นทำให้ปักแน่นไปสักหน่อย คล้ายเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพียงแต่ครั้งนั้น กิ่งไม้ตวัดคล้ายแส้พลาดไปถูกแก้มขวาของเด็กหญิงสิบสองขวบผู้นั้น!.

เพราะรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว ครั้งนี้รถม้าจึงมาส่งว่านหนิงเหมยถึงคฤหาสน์ตระกูลว่าน

เมื่อลงจากรถม้าแล้ว หญิงสาวยื่นมือรับห่อผ้าจากขันที ส่งยิ้มให้กันเล็กน้อยตามมารยาทก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปด้านใน มือเล็กยกขึ้นแตะหน้าผาก รู้สึกเหงื่อออกมากเกินไป ปกตินางไม่ค่อยมีเหงื่อออกมากขนาดนี้

“นึกว่าเจ้ากลับบ้านไม่เป็นแล้วเสียอีก”

หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อย สูดลมหายใจลึกเตรียมรับมือกับคุณชายว่านซือสือ แม้นางกับเขาจะเกิดปีเดียวกัน อายุเท่ากันแต่ฐานะของนางนั้นไม่อาจเปรียบกับลูกชายคนโตของภรรยาเอกได้เลยสักนิด

“คุณชายมีอะไรจะใช้ข้ารึ?” นางเริ่มเวียนศีรษะขึ้นมาแล้ว

“อย่างข้านะเรอะจะกล้าเรียกใช้คนโปรดของฮองไทเฮา”

ชายหนุ่มคลี่พัดโบกไปมา ว่านหนิงเหมยชินชากับการพูดจาประชดประชันแกมหาเรื่องของว่านซือสือบุตรชายคนโตของท่านพ่อแล้ว ตั้งแต่จำความได้ นางก็เป็นเสมือนของเล่นที่เขารังแกอยู่เสมอ

“ถ้าเช่นนั้น ข้าขอตัวไปพักผ่อนก่อน เหนื่อยกับการรับใช้ฮองไทเฮาเหลือเกิน” นางเพียงทำท่าทางนอบน้อมเจียมเนื้อเจียมตัว กระชับห่อผ้าไว้แนบกับอก หมุนตัวเดินออกไปได้แค่ครึ่งก้าว ไหล่ก็ถูกกระชากเอาไว้ก่อน

“ถือตัวว่าเป็นคนโปรดเรอะ! ที่แท้ก็ไม่ต่างจากคนรับใช้!”

ว่านหนิงเหมยคลี่ยิ้ม “คุณชายซือสือกล่าวมาล้วนถูกต้อง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นคนรับใช้ของผู้ใด”

“เจ้านี่! ช่างปากกล้าเกินไปแล้ว” เขารวบพัดแล้วยกขึ้นหมายใช้ตีศีรษะของอีกฝ่ายเป็นการสั่งสอนเหมือนที่ทำกับบ่าวไพร่ หากไม่พอใจก็ลงไม้ลงมือทุบตีเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่านหนิงเหมยกลับเชิดหน้าขึ้นไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกไปสักนิด

“เชิญคุณชายสั่งสอนข้าได้ แต่ถ้าข้ามีบาดแผลหรือรอยช้ำละก็ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะทูลฮองไทเฮาอย่างไร”

มือที่ยกอยู่ชะงักค้างในอากาศ กลายเป็นว่านซือสือที่ไม่กล้าลงมือกับนาง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel