บท
ตั้งค่า

ตอนที่18.ชื่อ? นั่นสิ ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรกัน

“ไม่มีหญิงงามถูกใจเจ้าสักคนเลยรึเฟยเทียน”

ฮองไทเฮาทรงตรัสถามในขณะที่นั่งจิบน้ำชาด้วยกัน องค์ชายเฟยเทียนหรือชินอ๋องเพียงแค่กระตุกมุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ยกชากลิ่นหอมขึ้นดมกลิ่นละมุนก่อนจิบลงคอ

“เพราะเป็นห่วงหรอกนะ ข้าน่ะแก่แล้วก็อยากเห็นเจ้าเป็นฝั่งเป็นฝาเช่นผู้อื่น”

เพราะสนทนาเพียงลำพังจึงพูดคุยราวเป็นสามัญชน ฮองไทเฮาพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้หลานชายผู้นี้ได้พ้นเคราะห์กรรมที่แบกรับแทนผู้อื่น เฟยเทียนเป็นหลานรักที่โปรดปรานและสงสารที่สุด ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรัชทายาทตั้งแต่กำเนิด ฝึกฝนและอบรมให้เติบโตเพื่ออยู่เหนือผู้อื่น ทว่ากลับถูกหักหลังให้ไปสิ้นชีวิตในสนามรบ

แม้ตระหนักดีว่าสิ่งที่สิงสถิตในท่อนแขนซ้ายคือปีศาจ แต่ฮองไทเฮามิได้หวาดกลัวเช่นผู้อื่น เพราะสิ่งนี้ปกป้องชีวิตของเฟยเทียน นำหลานรักของนางกลับมาสู่อ้อมอก เรื่องราวในศึกทรายย้อมโลหิตนั้นบอกเล่ากันปากต่อปากก่อนที่เฟยเทียนกลับถึงเมืองหลวงด้วยซ้ำไป ชาวบ้านออกมามุงดู มิไม่ใช่การต้อนรับ แต่เพราะอยากเห็นด้วยตาของตนเองว่าแม่ทัพที่เรียกปีศาจออกมาเป็นเช่นไร แววตาคนเหล่านั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมากกว่าความชื่นชม

การกลับมาขององค์ชายเฟยเทียนไม่ใช่สิ่งที่ฮ่องเต้คาดหวัง เขาไม่แสดงอาการอื่นใด ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าไม่สนับสนุนทัพหลัง ตัดกองหนุนและเสบียงอาหาร หลานรักไม่พูดถึงเรื่องนั้นเลย ราวกับไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้น เพียงเรียกร้องให้ตกรางวัลให้ทหารที่นำชัยชนะกลับมา และเตรียมแผนในการทำศึกรวมแคว้น

สิบปีที่ผ่านมา เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก ยกทัพกรำศึกแทบไม่เคยกลับเมืองหลวง หากไม่ใช่เพราะส่งสารเชิงบังคับให้กลับมาบ้าง คงไม่ได้เห็นหน้าที่ถอดแบบฮ่องเต้มาแทบทุกกระเบียดนิ้ว

“ตุนหวงอยู่ไกลเหลือเกิน คนแก่อย่างข้าคงไปเยี่ยมเยือนเจ้าไม่ได้ อย่างไรเจ้าก็แต่งภรรยาสักคนหรือสองคนก็ได้ คนเป็นย่าจะได้เบาใจว่าเจ้าจะมีคนดูแล”

องค์ชายเฟยเทียนเลิกคิ้ว ‘เล่นพูดกันแบบนี้เลยรึ?’ เห็นทีว่าหญิงงามที่คัดสรรมานั้น คงได้รับการ ‘ซื้อตัว’ มาแล้ว เพียงแค่นึกถึงสตรีที่ไม่เต็มใจมาอยู่เคียงข้าง หากให้กำเนิดบุตรไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงกับเขาแล้วจะเป็นเช่นไร เขาไม่ใช่คนรักใคร่เอ็นดูเด็ก แต่ไม่ได้รังเกียจ ตนเองกรำศึกยาวนาน จนนึกภาพยามเป็นพ่อคนไม่ออก เพียงนึกเล่นๆว่าหญิงที่ถูกบังคับให้แต่งงานและให้กำเนิดทายาทแก่เขาจะเป็นเช่นไร เขาเกิดมาเป็นลูกที่พ่อไม่รัก ความรู้สึกนี้ก็ราวกับรอยนาบของเหล็กร้อนบนหัวใจของเขาแล้ว หากนางผู้นั้นชิงชังลูกของเขาเล่า

“กระหม่อมจำเป็นต้องเลือกหนึ่งในนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” เขาเอ่ยออกมาหลังจากนั่งฟังฮองไทเฮาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน

“เจ้าก็เอ่ยชื่อมาสักคนเถิด” เพราะไต้ซือซู่ย้ำหนักหนาว่าต้องเป็นคนที่เฟยเทียน ‘เอ่ยชื่อ’ ออกมาด้วยตนเองเท่านั้น ถ้าไม่ติดเงื่อนไขนี้ นางคงเลือกสตรีมาเป็นพระชายาให้หลานชายเองแล้ว

ชื่อ? นั่นสิ ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรกัน

พลันเขากลับคิดถึงหญิงสาวผู้นั้น แม้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า แต่นางไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ขนาดต้องปกปิดครึ่งหน้าเช่นนั้น นางตัวเล็กไปสักนิด ทว่ารูปร่างนางก็ไม่เลวเหมือนกัน

“เจ้าอย่าได้เกรงใจ เลือกคนที่ถูกใจเจ้า แล้วข้าจะเป็นธุระจัดการให้” ฮองไทเฮาย้ำอย่างกระตือรือร้น

“เลือกแล้วกระหม่อมกลับตุนหวงได้เลยหรือไม่”

“เจ้ามีผู้ใดรอที่ตุนหวงรึ” ฮองไทเฮาแสร้งทำน้ำเสียงไม่พอใจ “หรือนางกำนัลของข้าดูแลเจ้าได้ไม่ดี เห็นว่าเป็นลมล้มพับไปหลายคน”

ดวงตาคมกลับมีประกายวูบไหวเล็กน้อย แสร้งยกน้ำชาขึ้นดื่มเพื่อปกปิดมุมปากที่ยกยิ้ม คิดถึงใบหน้าของหญิงสาวผู้นั้น เมื่อคืนแกล้งนางหนักมือไปหน่อย มิรู้แอบไปร้องไห้หรือไม่ ทว่าเขาลองทำตามที่นางแนะนำ ไม่ได้ดื่มเหล้ารสแรง เปลี่ยนเป็นชาเกสรดอกบัวทำให้หลับสบายอย่างน่าประหลาดใจ

“ฮองไทเฮาก็ทรงมีนางกำนัลใจกล้าอยู่นี่”

“ฮึ! ใครกันที่ไม่เป็นลมยามเจอเจ้า กรุ่นไออำมหิตของเจ้าทำเอาคนอยู่ใกล้แข้งขาอ่อนไปหมดแล้ว”

“นางผู้นั้น” เขาเงยหน้าขึ้นถาม แล้วนางเป็นใครกัน ถ้าไม่ใช่นางกำนัลของฮองไทเฮา

“ผู้ใดกัน?”

“หญิงที่มีรอยแผลเป็นบนแก้มขวา”

“เอ๋? นั่นว่านหนิงเหมยไม่ใช่รึ” ฮองไทเฮาหันไปเรียกขันทีที่อยู่ไม่ไกลมาสอบถามและได้รับการยืนยันว่าเป็นนางจริง

“นางไม่ใช่นางกำนัลของฮองไทเฮาหรอกรึ”

“เจ้าจำหนิงเหมยไม่ได้?” ฮองไทเฮาส่ายหน้าไปมา “เจ้าเป็นคนทำให้นางเสียโฉม”

“ข้ารึ?” คราวนี้งุนงงหนักเข้าไปใหญ่ เขาจำไม่ได้ว่าเคยทำร้ายผู้หญิงนี่นะ

“เจ้าอาจจำนางไม่ได้ เพราะตอนนั้นนางอายุแค่สิบสอง แต่เจ้าเป็นคนทำให้ใบหน้าของนางมีแผลเป็นเช่นนั้น เจ้าควรจำได้สิ”

พูดออกไปแล้วกลับเห็นแววตางุนงง ก็จำเป็นต้องขยายความให้เข้าใจ

“เจ้าเพิ่งเสร็จศึกรวมแผ่นดิน ข้าเรียกตัวเจ้ากลับมา ปีนั้นเจ้าอายุยี่สิบเอ็ด ครานั้นว่านหนิงเหมยเพิ่งอายุสิบสอง ติดตามพี่สาวมางานเลี้ยงฤดูร้อน เข้าวังหลวงครั้งแรกและหลงทางไปเจอเจ้า ไม่รู้ว่านางไปล่วงเกินสิ่งใด เจ้าถึงได้ใช้กรงเล็บมังกรกรีดหน้านางเป็นรอยเช่นนั้น”

“ตอนนั้น...เด็กผู้หญิงคนนั้น...” บุรุษหนุ่มพึมพำและทบทวน

“นางเกิดเป็นลูกอนุก็อาภัพมากพอแล้ว ซ้ำยังถูกเจ้าทำร้ายจนเสียโฉม ปีนี้อายุสิบแปดแล้วไม่มีผู้ใดกล้าสู่ขอนางไปเป็นภรรยา ข้าต้องเสียเงินทองเท่าไหร่เป็นค่าทำขวัญให้นางกับบิดาของนาง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel