บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

และคนที่ต้องบินตามไปดูแลเรื่องที่อยู่ เสื้อผ้า อาหารการกิน ก็คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตันหยงเช่นกัน ซึ่งอีกแค่สองวันคือวันเดินทางของเธอแล้ว แต่ทว่าเวลาเกือบสามเดือนที่ผ่านมานี้ตันหยงไม่ได้มีความสุขมากนัก นั่นเพราะเธอเองยังคงเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น บ่อยครั้งที่เธอแวะไปทำบุญให้แป้งร่ำที่วัด แวะเอาดอกไม้ไปวางตรงที่เก็บอัฐิของเธอ หวังเอาไว้เสมอว่าทุกครั้งที่ไปจะได้พบทิวา แต่หลังจากงานเผาศพของแป้งร่ำแล้วตันหยงกลับไม่เคยได้พบเขาอีกเลย

และก่อนวันเดินทางไปอังกฤษ ตันหยงก็แวะไปทำบุญให้แป้งร่ำเหมือนที่ผ่านมา โดยไม่รู้ว่าเธอนั้นถูกทิวาจับตามองอยู่ตลอดเวลา

“ฉันอาจไม่ได้แวะมาอีกพักใหญ่นะคะ” ตันหยงเอ่ยบอกกับรูปภาพของแป้งร่ำที่ติดไว้หน้าที่เก็บอัฐิ

หลังจากเสร็จธุระที่วัด ตันหยงก็ตรงไปยังสนามบินทันที โดยภาสุและแก้วตานั้นนั่งรถไปรอส่งลูกสาวคนเล็กที่สนามบินนานแล้ว และเมื่อตันหยงมาถึงแก้วตาก็เอ่ยถามขึ้นเสียงห้วน

“หายไปไหนมา”

“ลูกแวะไปที่วัดมานะคะคุณแม่”

“ไปวัดอีกแล้วเหรอ เมื่อไหร่จะเลิกไปเสียที” แก้วตาไม่พอใจเรื่องนี้อยู่เล็กๆ นั่นเพราะไม่อยากให้ตันหยงไปยุ่งเกี่ยวกับคู่กรณีอีก เพราะที่ผ่านมาครอบครัวเธอรับผิดชอบทุกอย่างด้วยดีหมดแล้ว และคิดว่าไม่มีอะไรตกค้างต่อกันอีก ผิดกับตันหยงที่เธอยังรู้สึกผิดและคิดว่าที่ผ่านมาเธอยังไถ่โทษได้ไม่ดีพอ

“ลูกแค่อยากแวะไปทำบุญให้คุณแป้งร่ำนะคะ”

“เอาเถอะคุณ ไหนๆ ลูกก็จะบินไปอังกฤษแล้ว ยิ้มหน่อยสิ” ภาสุเข้ามาเปลี่ยนสถานการณ์ อันที่จริงเขาไม่อยากให้ตันหยงตามดาหลาพี่สาวไปสักเท่าไหร่ นั่นเพราะไม่รู้ว่าหากเกิดเรื่องดาหลาจะใช้น้องสาวรับผิดแทนตัวเองอีกหรือไม่ หลังจากนั้นจึงหันมาเอ่ยกับตันหยง

“เดินทางปลอดภัยนะลูก”

“ค่ะคุณพ่อ”

“ไปถึงแล้วก็โทรศัพท์มาบอกด้วย”

“ค่ะคุณแม่”

“ดูแลตัวเองดีๆ จะทำอะไรก็คิดถึงพี่เราให้มากๆ”

“คุณแก้ว” ภาสุเอ่ยปรามภรรยาอีกครั้ง ที่เอ่ยประโยคทำร้ายจิตใจคนฟังแบบนี้ ตั้งแต่เกิดมาตันหยงไม่เคยที่จะไม่คิดถึงดาหลาพี่สาวเลยสักครั้ง อะไรก็ขอให้พี่สาวก่อนเสมอ

เขารู้ว่าแก้วตานั้นรักลูกไม่เท่ากัน คิดเอาไว้ว่าสักวันแก้วตาคงเปลี่ยนความคิด แต่มาจนถึงตอนนี้ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะเหตุนี้เขาเองจึงทุ่มเทความรักให้ตันหยง แต่ลูกยังไงก็ยังต้องการความรักจากแม่

“แม่...รักลูกนะ”

“ลูกก็รักคุณแม่ค่ะ” ตันหยงยิ้มกว้างออกมา เพราะน้อยครั้งมากที่เธอจะได้ยินแม่บอกว่ารัก ที่แก้วตาพูดแบบนี้เพราะก่อนออกจากบ้านถูกผู้เป็นสามีกำชับมามากกว่า

ตันหยงโผเข้าไปกอดผู้เป็นแม่ตามด้วยพ่อพร้อมกับบอกรักและบอกให้ทั้งคู่ดูแลสุขภาพ จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปภายในอาคารผู้โดยสารเพื่อรอขึ้นเครื่อง โดยระหว่างนั้นภาสุและแก้วตาก็กลับออกไปจากสนามบินเช่นกัน

แต่ยังไม่ทันจะได้เดินไปถึงจุดตรวจพาสปอร์ตก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาขวางหน้าตันหยงไว้ เธอชะงักพร้อมกับพยายามเพ่งสายตามองชายคนดังกล่าวว่าเป็นใคร

“จะไปไหน”

“ขอโทษนะคะ ฉันว่าเราไม่เคยรู้จักกัน” เพราะพยายามมองแล้วแต่ชายตรงหน้าไม่คุ้นตาเลย ทำให้ตันหยงพยายามเดินเลี่ยงออกมา แต่ก็ถูกชายคนนั้นตามเข้ามาขวางเอาไว้อีกครั้ง

“แน่ใจเหรอว่าเราไม่เคยรู้จักกัน” เอ่ยจบทิวาก็สบตาตันหยงตรงๆ และนั่นก็ทำให้เธอตกใจที่รู้ว่าคือเขา ไม่คิดว่าระยะเวลาเกือบสามเดือนที่ไม่ได้เจอหน้ากัน ทิวาจะเปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้

“คุณทิวา!”

“ฉันถามว่าเธอจะไปไหน” เสียงห้วนเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เขารู้คำตอบดีอยู่แล้ว คำถามจากเขาทำให้ตันหยงอึกๆ อักๆ ขึ้นมา

“คือว่าฉัน...”

“จะหนีไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่ไหนไม่ทราบ”

“ฉันไม่ได้หนีค่ะ ฉันแค่จะไป...” ยังไม่ทันที่ตันหยงจะเอ่ยบอกว่าเธอแค่จะตามไปดูแลพี่สาว ทิวาก็เอ่ยแทรกขึ้นเสียก่อน

“ลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอสัญญาอะไรกับฉันไว้”

“ฉันไม่เคยลืมว่าจะไถ่โทษเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณ” นี่คือสิ่งที่ตันหยงตั้งใจจะทำตั้งแต่แรก

“ไม่ลืมก็ไปกับฉัน” เอ่ยจบทิวาก็คว้าเข้าที่ข้อมือของตันหยง แล้วออกแรงรั้งให้เธอเดินตามมา แต่เพราะยังไม่รู้ว่าเขานั้นจะพาเธอไปที่ไหน ตันหยงจึงยื้อไว้

“จะไปไหนคะ”

“เธอมีสิทธิ์ถามด้วยเหรอ”

“ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณจะพาฉันไปไหน”

“เดี๋ยวเธอก็รู้เอง” ทิวาเอ่ยตอบกลับมาแค่นั้น ก่อนจะปล่อยมือจากข้อมือของตันหยง แล้วเดินนำออกไปจากบริเวณทางเข้าอาคารผู้โดยสาร วัดใจกับตันหยงตั้งแต่ตอนนี้ว่าเธอจะตามเขาไปหรือเลือกจะเดินเข้าสนามบิน เพราะหากเป็นอย่างหลัง ทิวาก็คงทำอะไรเธอไม่ได้

ตันหยงยืนมองตรงมาที่ทิวา จากนั้นก็ตัดสินใจลากกระเป๋าเดินตามเขามา นั่นทำให้ชายหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างพอใจ รับรองว่าหลังจากนี้ตันหยงจะได้ชดใช้ทุกอย่างตามที่เธอเคยบอกไว้

ทั้งคู่ออกไปจากสนามบินด้วยกัน โดยทิวาขับรถขึ้นเหนือทันที เป้าหมายคือเชียงรายเพราะเขามีบ้านพักพร้อมไร่ชาอยู่ที่นั่น อันที่จริงมันคือเรือนหอที่เขาตั้งใจสร้างไว้สำหรับแป้งร่ำ

ตลอดการเดินทางตันหยงไม่ได้เอ่ยถามถึงจุดหมายที่ทิวาจะพาเธอไป เพียงแค่หวั่นใจอยู่ลึกๆ ว่าหลังจากนี้จะต้องเจออะไรบ้างมากกว่า รวมไปถึงห่วงพ่อแม่และพี่สาวด้วย เพราะกำหนดถึงอังกฤษของเธอคือพรุ่งนี้ หากหายตัวไปก็เกรงว่าทุกคนจะเป็นห่วง

“จะทำอะไร”

“ฉันแค่จะโทรศัพท์ไปบอกที่บ้านว่ากำลังไปกับคุณ”

“เอามานี่” เอ่ยจบทิวาก็คว้าโทรศัพท์มือถือมาจากตันหยง จากนั้นก็โยนมันทิ้งออกไปนอกตัวรถอย่างไม่ใยดีแม้แต่น้อย ตันหยงได้แต่มองตามด้วยอาการตกใจ เพราะหากครอบครัวติดต่อเธอไม่ได้ต้องเป็นเรื่องแน่ แต่ในเมื่อทิวาโยนโทรศัพท์ของเธอทิ้งไปแบบนี้แล้วก็คงทำอะไรไม่ได้

“ฉันให้เธอไปอยู่ด้วยไม่นานนักหรอก รับรองว่าไม่มีอะไรบุบสลาย”

“ค่ะ...แล้วฉันขอถามได้ไหม ว่าเราจะไปที่ไหนกัน”

“เชียงราย” น้ำเสียงห้วนๆ ของทิวาเอ่ยตอบกลับมา จากนั้นก็ตั้งสมาธิขับรถต่อ บางครั้งเขาก็อยากหักพวงมาลัยรถให้ชนเข้ากับอะไรสักอย่าง โดยจงใจให้ฝั่งที่ตันหยงนั่งอยู่รับแรงชนเต็มๆ นั่นก็เพื่อต้องการให้เธอรับรู้ถึงช่วงเวลาความเป็นความตายที่เคยเกิดขึ้นกับแป้งร่ำคนรักของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel