บทที่ 2 โจรกรรม (3)
รินดาวถึงกับตัวชาเลยทีเดียว ทั้งนี้เป็นเพราะเธอกลัวเสียงปืนนั่นเอง!
หญิงสาวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เพราะในห้องจัดงานเต็มไปด้วยความมืด เธอรู้แค่ว่ามีแต่ความวุ่นวาย ทุกคนส่งเสียงร้อง อยู่ในอาการแตกตื่น และเธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครฉกเทียร่าไปจากศีรษะของเธอ อีกทั้งยังฉุดกระชากพาตัวเธอไปจากบริเวณนั้น พร้อมกับแสงไฟที่สว่างจ้า
เธอเหลียวหลังออกไปมองอย่างอดไม่ได้ บรรยากาศภายในงานกลับเต็มไปด้วยความชุลมุนวุ่นวาย ทั้งนี้เป็นเพราะพิธีกรบนเวทีถูกยิงเสียชีวิตนั่นเอง และทุกคนพยายามวิ่งหนีเอาตัวรอด!แต่ที่ทำให้รินดาวแทบจะเป็นลมล้มพับก็คือ เธอถูกพาตัวออกมาทิ้งไว้ด้านนอก พอเห็นคราบเลือดที่ติดตามเนื้อตัวเท่านั้น เธอถึงกับหน้าซีดตัวสั่น เหมือนจะเป็นลมเอาให้ได้...
เธอกลัวเลือด!!
“พวกคุณจะพาฉันไปไหน ฉันจะเป็นลม ฉัน...กลัวเลือด” รินดาวบอกเสียงสั่น หน้าซีดเผือด
ผู้ที่จับตัวเธอมาหันมาแสยะยิ้มให้ เธอเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ไม่ถนัด เพราะเธออยู่ในที่มืดสลัว สิ่งที่เธอเห็นเป็นเพียงรูปเงาเท่านั้น คนผู้นั้นไม่ตอบ แต่ใช้บางสิ่งที่แข็งเสยเข้าที่ปลายคาง จากนั้นทุกภาพที่เธอเห็นจึงมืดดับลง...
กลิ่นแอมโมเนียสุดฉุนปลุกให้รินดาวตื่นขึ้น เธอลืมตาอย่างช้า ๆ พร้อมกับพยายามทบทวนความจำ ซึ่งรินดาวพบว่า เธอยังอยู่ในงานการกุศล!!
ความกลัวและกังวลอันตรธานหายทันทีเมื่อรู้ว่าเธอปลอดภัยแล้ว...
“คุณแองจี้ฟื้นแล้ว” ใครบางคนตะโกนขึ้น
“แองจี้ เธอโอเคมั้ย?” มาเรียรีบผละจากสิ่งที่ทำมาดูเพื่อนสาวด้วยความห่วงใยทันที
“ไม่เลย มัน... แย่มาก ฉันเห็นคนตาย”
สีหน้าของรินดาวขาวซีดยิ่งกว่ากระดาษเสียอีก
“เป็นเหตุโจรกรรมเครื่องเพชรน่ะ งานนี้เละไม่เป็นท่าเลยล่ะ” มาเรียมีสีหน้าเป็นกังวลไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เลย
“ฉันเห็นแล้ว นี่คือประสบการณ์ยอดแย่สำหรับฉัน”
“สำหรับทุกคนด้วย มันผ่านพ้นไปแล้วแองจี้ เอาล่ะ ไปล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ พวกเรายังมีภารกิจต้องทำต่ออีก”มาเรียทำหน้าจริงจังขณะแจ้งรายละเอียดคร่าว ๆ ให้รินดาวฟัง
“ภารกิจอะไร?” รินดาวย่นคิ้วเข้าหากัน
“ตำรวจต้องการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะเธอ”
รินดาวหน้าเสียเลยทีเดียว
“ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อมทำอะไรทั้งนั้น ขอให้ฉันหลับสบาย ๆ สักตื่นได้มั้ย นอนที่ไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ที่สถานีตำรวจ ฉันเหนื่อยจริง ๆ” รินดาวไม่วายโอดโอย เธออดนอนตั้งแต่เมื่อคืนวานด้วยซ้ำ เพราะต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จ พอล้มตัวนอนได้พักเดียว เธอก็ถูกโทรตามตัว ให้มาจัดการเรื่องวุ่นวายที่เธอไม่ได้ก่อขึ้น!
แล้วไหนเธอยังต้องมาเจอเหตุโจรกรรมอีก!!!
“ไม่ได้ครับ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู คุณทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และคุณคือผู้ต้องสงสัยในเหตุโจรกรรมเพชรในครั้งนี้ด้วย” เจ้าหน้าที่ตำรวจแทรกขึ้น
บรรลัยเกิดแล้วไง!!!
“พระเจ้าทรงโปรดเถอะ!” รินดาวเครียดจนปวดหัวเลยทีเดียว
นี่มันเป็นวันมหาวิปโยคของเธอหรือไง?!!
“รปภ.ไม่ให้ฉันเข้ามาในงาน เขาบอกว่าฉันแต่งกายไม่สุภาพ แล้วเขาก็บอกว่าฉันเป็นผู้ป่วยโรคจิต ฉันก็เลยชกหน้าเขา เรื่องมีอยู่แค่นี้ ทีนี้ฉันกลับบ้านได้หรือยัง?” รินดาวใช้น้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“ยังครับ” เจ้าหน้าที่ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม “คุณต้องไปให้ปากคำที่โรงพัก”
“บ้าชะมัด!!!” หญิงสาวสบถหัวเสีย
“คุณคือผู้ต้องสงสัย ภาพจากกล้องวงจรปิดและรวมถึงผู้อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า คุณคือคนสุดท้ายที่ได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับเทียร่า”
“นี่คือเหตุผลที่คุณกักตัวฉันงั้นเหรอ?”
“เราพบหลักฐานชิ้นสำคัญกว่านั้น ในมือของคุณมีปืน และปืนกระบอกนั้นก็เป็นกระบอกที่ใช้ยิงคน”
“อะไรนะ?!” รินดาวค้างไปสองวินาที เธอถึงกับงงงันในข้อกล่าวหาที่เธอไม่รู้อีโหน่อีเหน่
คนอย่างเธอน่ะเหรอจะกล้าฆ่าคน!!
แค่เห็นเลือด เธอก็มือไม้สั่นจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว
“ฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วยทั้งนั้น นางแบบเบี้ยวงานกะทันหัน ฉันก็เลยต้องมาทำหน้าที่แทนเท่านั้น เรื่องก็มีอยู่แค่นี้”
