
บทย่อ
เธอ... เกลียดชังมาเฟียจนเข้าไส้!ส่วนเขา คือมาเฟียผู้ทรงเสน่ห์ ที่ทำให้เธอหวั่นไหวแต่แรกเจอ...ว่ากันว่า ‘ยิ่งเกลียด ก็ยิ่งเจอ’รินดาวไม่คิดว่าตนเองต้องมาประสบกับเรื่องแบบนี้เธอเกลียด มิสเตอร์ลีโอเน่ พ่อเลี้ยงที่เป็นมาเฟียทุกลมหายใจ เขาได้มอบฝันร้ายให้กับเธอ!!แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า โชคชะตาได้เล่นตลกกับเธอได้มากขนาดนี้ ริคาโด้ คารอส ผู้ชายทรงเสน่ห์ที่ทำให้เธอหวั่นไหว จนเผลอใจมีความสัมพันธ์ด้วย คือมาเฟียร้ายซึ่งเป็นมือขวาของพ่อเลี้ยงเธอ ซ้ำเขายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับมิสเตอร์ลีโอเน่!!!สำหรับ ริคาโด้ เขาไม่เคยเห็น ‘ว่าที่เจ้าสาว’ อย่างรินดาวอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เขาพร้อมจะกำจัดเธอออกไปจากชีวิตด้วยมือของเขาเอง... ทว่าเมื่อได้เห็นหน้าเธอและได้อยู่ใกล้ชิดกับเธอ หัวใจที่แข็งกระด้างกลับหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และที่สำคัญ เขาได้ขยี้พรหมจรรย์ของเธอ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงไร้ประสบการณ์!!!
บทที่ 1 อุบัติเหตุ (1)
ณ ประเทศอิตาลี
สายฝนที่โปรยกระหน่ำลงมาตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา สร้างความหงุดหงิดให้กับ ‘รินดาว ฉายดรุณี’ ดีไซเนอร์สาวเป็นที่สุด นิ้วเรียวกระดิกไปมาบนพวงมาลัยรถเพื่อรอให้สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างใจจดใจจ่อ
เธอไม่สมควรติดแหงกอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ
และมันน่าเจ็บใจตรงที่ รถของเธอติดไฟแดงเป็นคันแรกนี่ล่ะ!
“จะแดงอะไรนักหนา รู้มั้ยว่าฉันรีบ” หญิงสาวบ่นพึมพำเป็นหมีกินผึ้งเลยทีเดียว
ความหงุดหงิดและความเครียดจากการรอคอยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาของงานแฟชั่นการกุศลในค่ำคืนนี้กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกสิบห้านาทีข้างหน้า
แต่นั่นไม่ทำให้เธอหงุดหงิดจนหัวเสียเท่ากับเสียงโทรศัพท์ที่แทบจะกระหน่ำโทรมาทุกห้านาทีนี่หรอก!!!
“หลุดจากไฟแดงนี้ไป ก็ถึงแล้ว!” รินดาวแทบตะโกนใส่โทรศัพท์เลยทีเดียว
นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องมารับผิดชอบด้วยซ้ำ!
แต่เพราะเธอเป็นดีไซเนอร์ผู้ออกแบบเสื้อผ้าให้เหล่านางแบบที่ใส่มาเดินเฉิดฉายในงานแฟชั่นการกุศล ซึ่งจัดขึ้นเพื่อประมูลเครื่องเพชรนี่ล่ะ เธอจึงต้องมีเอี่ยวในแบบฉุกเฉินไปด้วย
ส่วนสาเหตุที่เธอต้องขับรถฝ่าสายฝนมาแบบเร่งรีบประหนึ่งพาคนท้องส่งโรงพยาบาล เป็นเพราะแม่ดารานางแบบคาร่าจอมแสบเบี้ยวงานดื้อ ๆ คาร่าโทรมายกเลิกงานในครั้งนี้อย่างกะทันหันก่อนที่งานจะเริ่มต้นเมื่อชั่วโมงที่แล้วนั่นเอง!
คาร่ารับเดินแบบชุดฟินาเล่ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานในค่ำคืนนี้ แต่แม่คุณตัวดีก็ชิ่งหนี ทิ้งงานกลางคันแบบดื้อ ๆ ความรับผิดชอบจึงตกมาอยู่ที่เธออย่างปฏิเสธไม่ได้ เธอต้องเดินทางไปคัดเลือกตัวนางแบบในทีม เพื่อมาสวมชุดที่เธอออกแบบด้วยตัวเอง
แต่นั่นไม่หงุดหงิดหัวเสียเท่ากับการที่เธอถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงโทรศัพท์ ทั้ง ๆ ที่เธอกำลังป่วยเป็นไข้ และเพิ่งหลับไปชั่วโมงเดียวเท่านั้น!
นี่คือเรื่องยอดแย่สำหรับเธอเลยทีเดียว!
“ฉันควรจะนอนหลับสบาย ๆ บนเตียงนุ่มด้วยซ้ำ เฮ้อ” รินดาวพ่นลมหายใจออกมาทางปาก พลางนวดขมับเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณนั้น
พอสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว รินดาวจึงรีบเหยียบคันเร่งทันที
ทว่า... วันนี้ไม่ใช่วันของเธอ!
อยู่ ๆ รถตู้ซึ่งอยู่อีกฟากของถนน ได้วิ่งผ่าไฟแดง และชนเข้ากับรถของเธอ!
ความโชคร้ายเด้งที่สองก็คือ รถที่ขับตามหลังเธอมา ได้จูบท้ายรถเธอเข้าอย่างจัง!
โชคดีที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ กอปรกับมีถุงลมนิรภัย เธอจึงแค่มึนกับแรงกระแทกเท่านั้น พอมองไปที่กระจกส่องท้าย รินดาวจึงพบว่า ไม่ใช่รถสองคันที่พร้อมใจชนรถเธอ แต่ถัดจากรถยนต์คันหรูที่ชนท้ายรถเธอ ยังมีรถยนต์ชนท้ายกันอีกสองคันเลยทีเดียว!!
“โอ้พระเจ้า! นี่มันวันมหาเฮงซวยของฉันชัด ๆ!” รินดาวอดประชดไม่ได้ ก่อนเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง
“อยู่ไหนแล้วแองจี้?” คนโทรมาถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจ
“ฉันกำลังจะไปถึง แต่คงไม่ถึงงานแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ฉันประสบอุบัติเหตุ!!!” หญิงสาวตะโกนใส่โทรศัพท์ โดยไม่สนใจว่าคนโทรจะออกคำสั่งอะไรอีกด้วยซ้ำ
“เธอโอเคใช่มั้ย?”
“ไม่โอเคเลย ไม่ต้องโทรมาอีกนะ ฉันกำลังจะประสาทเสีย!!”
“ได้ ฉันหวังว่าเธอจะไม่เบี้ยวงานในคืนนี้นะแองจี้ มันสำคัญกับทุก ๆ คนมาก ๆ โดยเฉพาะกับเธอ” มาเรียไม่วายย้ำถึงความสำคัญของงานการกุศลของค่ำคืนนี้
สมแล้วที่มาเรียเป็นออแกไนซ์จัดงานอันดับหนึ่ง!!
“ฉันรู้แล้ว แม่ยอดยุ่ง!” รินดาวกรอกลูกตาไปมา ก่อนกดวางสายแล้วก้าวลงจากรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่อย่างเหนื่อยล้าและยังตกใจกับเหตุการณ์สด ๆ ร้อน ๆ ยังไม่หาย
แต่สิ่งที่รินดาวรู้ก็คือ ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดีซ่อนเอาไว้...
ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ นอกจากมีคนบาดเจ็บจากการกระแทกเท่านั้น พอตั้งสติได้เธอจึงโทรแจ้งความ และโทรเรียกประกันทันที
