บทที่ 2 โจรกรรม (4)
“แต่คุณให้ความร่วมมือกับคนร้าย”
“โอ้พระเจ้า คุณกล่าวหาฉันแล้ว!” รินดาวกรอกลูกตาไปมา เธออยากเอาหัวโขกกำแพงซะเหลือเกินที่พูดจากับคนพวกนี้ไม่รู้เรื่อง“ฟังให้ดีนะคุณตำรวจ ฉันไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ฉันถูกใครสักคนในกลุ่มผู้ร้ายจับตัวไป จากนั้นฉันก็ถูกเสยเข้าที่ใต้คางจนหลับ และฉันก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นของฉี่อูฐสุดฉุนนี่ล่ะ!!!”
“ไปให้การที่โรงพักก่อนเถอะครับ ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
รินดาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา สุดท้ายแล้ว เธอก็จำใจต้องไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เรื่องร้าย ๆ ที่เธอเจอต่อจากนั้นก็คือ เธอถูกนำตัวเข้าห้องขัง ในฐานะผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่ง!!!
ให้ตายเถอะ นี่คือฝันร้ายสำหรับเธอเลยทีเดียว!!
หลังจากหลับเต็มตื่นในห้องขัง รินดาวจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเครียดสะสม ชีวิตเมื่อวานกับวันนี้ช่างต่างกันลิบโลกเลยเชียว!!
เมื่อวานเธอยังนั่งทำงานที่ตัวเองรักบนโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยดอกไม้ด้วยซ้ำ แต่ชั่วข้ามคืน โชคชะตาก็เปลี่ยนให้เธอมาอยู่ในกรงขัง... ตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าคน และตกเป็นจำเลยในคดีโจรกรรมเพชร!!
นี่คือมลทินที่เธอไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย!!!
โชคชะตากำลังเล่นตลกกับเธอชัด ๆ !!!
ระหว่างถูกความเครียดเล่นงาน รินดาวก็คิดถึงน้องสาวฝาแฝดที่อยู่เมืองไทยขึ้นมา หากมีจันทร์ฉายอยู่ด้วย เธอคงมีเพื่อนคอยปรึกษาปัญหาได้บ้าง อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจ มากกว่าการเผชิญเรื่องไม่เป็นธรรมเพียงลำพังเช่นนี้
รินดาวนั่งเงียบจมอยู่กับความวุ่นวาย จะบอกว่าเครียดจัดจนไม่รู้จะทำอะไรก็คงไม่ผิด เธอมองเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้วยสายตาว่างเปล่า คำถามเดิม ๆ เกิดขึ้นในหัว ว่าเธอทำความผิดอะไรถึงต้องมาติดแหงกในคุก ทั้ง ๆ ที่เธอไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
ระหว่างจมอยู่กับความเครียด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาไขกุญแจ และพาเธอออกจากห้องขัง
“เชิญ”
น้ำเสียงนั้นติดห้วน อีกทั้งหน้าตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดูไม่เป็นมิตรกับรินดาวเท่าไหร่นัก
“คุณปล่อยฉันแล้วเหรอ?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยักหน้าน้อย ๆ “มีคนมาประกันตัวคุณ”
รินดาวอมยิ้มให้กับอิสรภาพสุดหอมหวานทันที เธอมั่นใจอยู่แล้ว ว่ามาเรียไม่มีทางทอดทิ้งเธอให้อยู่ในห้องขังนี่
ทว่าการคาดเดานั้นก็ผิดมหันต์ เพราะคนที่ประกันตัวเธอไม่ใช่มาเรีย แต่เป็นฝีมือ ผู้ชายแปลกหน้าที่ขับรถชนท้ายรถเธอ!!!
รินดาวหุบยิ้ม ทำหน้ายุ่งทันทีที่เขายิ้มทักทายเธอจนดูน่าหมั่นไส้
“ไง เมื่อคืนหลับสบายใช่มั้ย?”
หญิงสาวไม่ตอบ แต่ทำหน้ายุ่งใส่เขาแทน “คุณประกันตัวฉันเหรอ?”
คนถูกถามเอามือยัดใส่กระเป๋าในท่าทีสบาย ๆ ก่อนพยักหน้า “อาฮะ”
รินดาวทำหน้ายุ่งกว่าเดิม ด้วยว่า เธอไม่ต้องการให้‘คนแปลกหน้า’ มาจุ้นจ้านเรื่องส่วนตัวนั่นเอง!
“ถ้ามาประกันตัวฉันออกจากคุก เพราะต้องการให้ฉันจ่ายค่าเสียหายเรื่องรถชนล่ะก็ เสียใจด้วย”
“ผมคงไม่ฉลาดแบบนั้น ไม่มีใครยอมจ่ายเงินค่าประกันมากมาย เพราะต้องการให้เธอมาจ่ายค่าซ่อมรถเพียงไม่กี่ยูโรแน่” ริคาโด้ตอบเสียงเรียบ แต่ดวงตาสีนิลกาฬของเขายังจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวสุดเฉิ่มเบอะ ที่ออกจากบ้านทั้งชุดนอนอย่างพิจารณาอีกครั้ง
คำถามก็คือ ผู้หญิงคนนี้คือ แองจี้ โรเจอร์ ดีไซเนอร์ชื่อดังจริงหรือ?
เพราะถ้าเธอคือ แองจี้ โรเจอร์หรือ รินดาว ฉายดรุณี ตัวจริง เธอก็คือ ผู้หญิงที่เขาต้องดูแลไปตลอดชีวิต อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง!!!
“เธอคิดเหมือนผมมั้ย”
รินดาวนิ่งไปไม่ยอมตอบคำถาม สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และความหวาดระแวง
“คุณรู้เรื่องฉันถูกจับได้ไง?”
“เอาไว้ผมจะเล่าให้ฟังทีหลัง” ริคาโด้ตอบหน้าตาย
“ไม่ ฉันอยากรู้ตอนนี้ ว่าคุณรู้เรื่องนี้ได้ไง?”
รินดาวไม่ยอมทิ้งความสงสัยไปง่าย ๆ ตอนนี้เธอไม่กล้าไว้วางใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะ โจทก์สำคัญที่ขับรถชนท้ายรถเธอเมื่อคืน
“ความลับไม่เคยมีในโลกนะรินดาว”
หญิงสาวชะงักไป รู้สึกเหมือนถูกแช่แข็งเลยทีเดียว ที่ชื่อแท้จริงของเธอหลุดออกจากปากผู้ชายคนนี้ เพราะน้อยคนนักที่จะรู้ชื่อจริงของเธอ ขนาดมาเรีย เพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิทกัน ยังไม่รู้จักชื่อนี้ของเธอด้วยซ้ำ
“คุณเป็นใครกันแน่?!” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ราวกับกระซิบ
“ผมเคยแนะนำตัวไปแล้ว... เอาล่ะ ไปจากที่นี่ก่อน ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องคุยกัน ผมคิดว่าเธอคงไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ๆ ใช่มั้ย” ริคาโด้ยกคิ้วขึ้นน้อย ๆ ก่อนนำทางออกจากสถานีตำรวจทันที เพราะเขาไม่อยากเหยียบเข้ามาในสถานที่แห่งนี้สักเท่าไหร่ แต่วันนี้เป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ
ส่วนรินดาวแอบย่นจมูกใส่เขาเพราะความหมั่นไส้อย่างอดไม่ได้ เธอยังพยายามคิด คิด คิด และคิด ว่าผู้ชายคนนี้ชื่ออะไรแต่เธอก็คิดไม่ออก เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนี้แนะนำตัวกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่นั่นล่ะ ตอนนี้เธอพักเรื่องชื่อเสียงเรียงนามของเขาเอาไว้ก่อน เธอไม่สนใจอะไรอีก นอกจากสัมผัสกับอิสรภาพที่เธอปรารถนา...
