บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“ท่านรอง” ตรีภพทำท่าจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ แต่บรรพตยกมือห้ามไว้

“นั่งต่อเถอะผู้กอง อ้อ...นี่นอกเวลางานแล้วเรียกว่าลุงเถอะ ท่านรองฟังแล้วไม่รื่นหู” พ.ต.อ.บรรพตเอ่ยบอกอย่างเป็นกันเอง เพราะเขานั้นรู้จักและสนิทกับตรีภพทั้งในเวลางานและนอกเวลางาน ถ้านอกเวลาทำงานเขาไม่ค่อยชอบให้ใครต่อใครเอ่ยเรียกเขาว่าท่านรองหรือเรียกตามระดับชั้นยศที่ได้รับนำหน้าชื่อนัก

เพราะคำเหล่านั้นทำให้เขารู้สึกเจ็บทุกครั้งที่ได้ยิน จะว่าไปแล้วบรรพตรู้สึกไม่ชอบใจตั้งแต่ได้เลื่อนยศจากผู้หมวดกระโดดข้ามมาเป็นสารวัตรและจนขึ้นรั้งตำแหน่งรองผู้บัญชาการในปัจจุบัน การแลกเปลี่ยนให้ได้มาซึ่งยศเหล่านี้เขาได้มาด้วยชีวิตของเพื่อนรักที่ไม่สามารถหาอะไรไปทดแทนความสูญเสียนั้นได้ทั้งสิ้น

“ครับคุณลุง”

“ว่าไง เรามีอะไรรบกวนพี่เขา” เมื่อนายตำรวจใหญ่ผู้เป็นบิดาจะขยับเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ ฝนทิพย์จึงเอ่ยถามขึ้น

“ฝนไม่ได้รบกวนพี่ภพนะคะ แค่ฝนตั้งใจอยากช่วยงานพ่อกับพี่ภพบ้าง” หญิงสาวเอ่ยบอก ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

“ไหนๆ พ่อมาก็ดีแล้ว พ่อคะ ให้ฝนทำงานดูแลความปลอดภัยของงานประมูลเพชรด้วยนะคะ”

“ไม่ได้ พ่อไม่อนุญาต” คำตอบของบิดาทำเอาสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของฝนทิพย์นั้นสลดลงไปถนัดตาซึ่งตรีภพสงสารอยู่ในที แต่คนอย่างฝนทิพย์หากได้ตั้งมั่นว่าจะทำอะไรแล้วก็ยากที่จะยอมละความพยายามง่ายๆ แววตาแน่วแน่นั้นมองมายังบิดา ถ้ายังขอไม่สำเร็จ งานนี้ได้งัดไม้ตายมาพูดแน่ เป็นไงเป็นกัน

“พ่อคะ ฝนอยากทำงานนี้จริงๆ ฝนสัญญาว่าจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง ฝนจะเชื่อฟังคำสั่งทุกอย่าง ให้ไปซ้าย ไปขวา เดินหน้า ถอยหลัง ฝนจะทำหมด จะไม่แย้งเลยแม้แต่ข้อเดียว”

“ถึงอย่างนั้นพ่อก็ไม่อนุญาต”

“ถ้างั้นฝนจะ...” ยังไม่ทันที่ฝนทิพย์จะได้เอ่ยไม้ตายที่คิดไว้ ตรีภพก็เอ่ยแทรกขึ้น เพราะรู้ว่าหญิงสาวตั้งใจจริงที่จะทำงานนี้และคิดว่าต่อให้ห้ามฝนทิพย์ก็คงไม่ยอมอยู่ดี ที่ต้องทำงานเป็นเลขาหน้าห้องคงเบื่อเต็มแก่แน่ๆ เส้นความอดทนคงใกล้ขาดเต็มที เพราะเขานั้นรู้ว่าหญิงสาวไม่ชอบงานประเภทนั้น แต่คนเป็นตำรวจ คำสั่งก็คือคำสั่ง แย้งไม่ได้หากไม่มีเหตุผลสมควรพอ

“คุณลุงครับ งานนี้ให้ฝนมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ครับ เพราะเรายังขาดทีมงานผู้หญิงที่จะแฝงตัวไปเป็นพนักงานเสิร์ฟพอดี อีกอย่างผมจะคอยดูแลฝนอย่างใกล้ชิดเอง จะไม่ให้เป็นอันตรายเด็ดขาด” ตรีภพสงสารและรู้ว่าฝนทิพย์มีความตั้งใจจริงที่จะทำงานชิ้นนี้จึงเอ่ยขึ้น ที่สำคัญเขาทำงานชิ้นนี้ด้วยจึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและคงไม่มอบหมายงานที่ยุ่งยากและเสี่ยงต่ออันตรายแก่ฝนทิพย์แน่นอน อย่างมากก็แค่สอดส่องและให้จับตาบรรดาไฮโซที่คืนวันจัดงานคงเป็นตู้เพชรเคลื่อนที่แทนการจับตามองหาผู้ต้องสงสัย

สิ่งที่ได้ยินก็ทำให้หญิงสาวยิ้มกว้างที่ชายหนุ่มช่วยเธอพูดให้ได้ทำงานนี้อีกแรง ก่อนที่จะรีบเอ่ยเสริมพร้อมกับขยับเก้าอี้เข้าไปนั่งข้างๆ บิดาแล้วคล้องแขนไว้อย่างประจบ

“นะคะพ่อ ฝนจะไม่ก่อเรื่องให้พ่อต้องเดือดร้อนเด็ดขาด นะคะ ฝนจะช่วยงานพ่อกับพี่ภพอย่างดี ฝนเป็นลูกพ่อนะ เลือดตำรวจเข้มกว่าอะไรทั้งหมด พ่อเชื่อฝนนะ...นะ” ฝนทิพย์อ้อนบิดาแบบไม่มีอาการเขินตรีภพแม้แต่น้อย บรรพตทำท่าคิดหนัก เขารู้ว่าฝนทิพย์รักงานตำรวจมากแค่ไหน แม้จะสั่งให้ลูกสาวทำงานเป็นแค่เลขาหน้าห้อง แต่สุดท้ายความต้องการของฝนทิพย์ที่อยากออกปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงต่ออันตรายก็ดูจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ถ้าขอแล้วเขายังไม่ยอมก็ยากที่จะเดาความคิดของลูกคนนี้ออกว่าจะเอาแผนอะไรมาต่อรอง บวกกับงานนี้เขารับผิดชอบด้วยตัวเองจึงมั่นใจว่าฝนทิพย์คงไม่ก่อเรื่องจนเขาจัดการไม่ได้แน่นอน อย่างน้อยลูกก็ยังอยู่ในสายตา

แต่ความภาคภูมิใจของฝนทิพย์ที่มีบิดาเป็นตำรวจดูเหมือนจะยิ่งทำให้บรรพตเจ็บปวดกับแววตาภาคภูมิใจนั้นของบุตรสาว หากวันหนึ่งลูกคนนี้รู้ว่ายศหรือแม้แต่บารมีของคำว่าตำรวจที่เขาได้มาต้องแลกมาด้วยอะไร ถึงเวลานั้นบรรพตก็ยากที่จะเดาว่าผลที่ออกมาจะเป็นหัวหรือก้อย ความลับย่อมไม่มีในโลกต่อให้ยังติดต่อหาครอบครัวเพื่อนสนิทไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีตัวตน เพียงแค่ยังไม่แสดงตัวเท่านั้นเอง

“ก็ได้ พ่อตกลงให้ฝนทำงานนี้”

“ขอบคุณนะคะพ่อ” ฝนทิพย์ยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะซบใบหน้ากับต้นแขนของบิดาอย่างขอบคุณ ท่าทางที่เห็นเหมือนเด็กๆ ทำให้ตรีภพอดที่จะยิ้มไปด้วยอีกคนไม่ได้ ความน่ารักสดใส เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ทำให้เขาหลงรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จัก

“แต่ถ้าฝนก่อเรื่อง จะไม่มีครั้งที่สองที่จะได้ออกปฏิบัติงานแบบนี้อีก เข้าใจไหม” คำพูดของบิดานั้นฝนทิพย์พยักหน้ารับ

“เข้าใจค่ะ แต่ถ้างานนี้ฝนทำตัวดี พ่อต้องให้ฝนไปช่วยงานตลอดนะคะ” รับปากยังไม่เท่าไหร่ฝนทิพย์ก็มีข้อแม้จนได้

“อย่าพึ่งพูดถึงงานชิ้นอื่น พ่อจะรอดูงานนี้ก่อนว่าฝนผ่านหรือไม่ผ่าน” บรรพตส่ายหน้าให้บุตรสาวคนเล็กของครอบครัว ฝนทิพย์ช่างมีนิสัยใจคอที่แตกต่างจากพี่สาวโดยสิ้นเชิง เพราะฝนสุดานั้นเป็นสาวสังคม ไม่ออดอ้อนพ่อแม่เหมือนฝนทิพย์ ไม่ชอบงานอันตรายทำนองนี้ วันๆ อยู่แต่กับแฟชั่นและเทคโนโลยี เห็นว่าตอนนี้จะเปิดร้านเสื้อภายใต้แบรนด์ของตัวเอง บรรพตรู้จักลูกสาวทั้งสองคนนี้ดีว่ามีนิสัยที่ต่างกันคนละขั้ว คนหนึ่งเงียบขรึมเอาแต่ใจอยู่มาก อีกคนอ่อนแต่ทว่าแข็งแกร่ง แม้ฝนสุดาจะทำให้ฝนทิพย์ไม่พอใจ แต่ลูกคนนี้กลับไม่เคยเอ่ยโทษพี่สาวให้บิดาหรือมารดาฟังแต่อย่างใด

แต่ไม่ว่าจะยังไง ทั้งคู่ก็คือบุตรสาวที่น่ารักของครอบครัวซึ่งเกิดจากความรักของตนกับภรรยา บรรพตนั้นก็ยินดีกับสิ่งที่บุตรสาวทั้งสองชื่นชอบอยู่แล้ว สองพี่น้องอายุห่างกันไม่กี่ปี แต่กลับไม่สนิทสนมกันมากอย่างพี่น้องคู่อื่นๆ นั่นอาจเป็นเพราะความชอบ รวมถึงสไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันก็เป็นได้ ที่สำคัญฝนสุดายังคิดว่าฝนทิพย์เกิดมาเพื่อแย่งความรักของบิดาและมารดาไปจนหมด ทำให้คนเป็นพี่สาวมักมองน้องสาวด้วยแววตาไม่พอใจเสมอ แต่เมื่อโตขึ้นแววตานั้นก็ค่อยๆ จางหายไป

“ค่ะ” ฝนทิพย์เอ่ยรับปากเสียงหนักแน่น ก่อนจะมองไปยังตรีภพ “ขอบคุณนะคะพี่ภพ”

“ครับ” ชายหนุ่มตอบรับเพียงสั้นๆ แต่จะว่าไปเขานั้นแทบไม่ได้ช่วยพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ ก่อนจะก้มมองเวลาแล้วเอ่ยขึ้น

“นี่ก็เย็นมากแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”

“เย็นป่านนี้แล้วก็อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิภพ จะได้คุยรายละเอียดงานให้ฝนฟังด้วย”

“จริงด้วย พี่ภพอยู่ทานข้าวกันก่อนนะคะ เดี๋ยววันนี้ฝนเข้าครัวเอง”ฝนทิพย์พยักหน้าให้ชายหนุ่มอยู่ทานอาหารด้วยอีกคน พร้อมทั้งเอ่ยอาสาทำอาหารให้ตรีภพได้ทาน ซึ่งบรรพตพอได้ฟังก็เบรกความคิดของบุตรสาวทันที

“ไม่ต้องๆ ฝนเข้าครัวทีไร แม่ต้องเปลี่ยนหม้อหรือไม่ก็กระทะใหม่ทุกที นั่งเฉยๆ รอกินไปเถอะเรา”

“พ่อละก็”

“เกิดเป็นผู้หญิงไม่มีเสน่ห์ปลายจวักเอาซะเลย ใครได้ไปเป็นเมียคงส่ายหน้าเป็นทิวแถวแน่ๆ” ขณะพูดบรรพตก็ส่ายหน้าให้ลูกสาวไปด้วย ส่วน ฝนทิพย์นั้นอายจนใบหน้าเล็กๆ ร้อนผ่าว

“พ่อ...พูดอะไรต่อหน้าพี่ภพ ฝนอายนะ แต่ถึงจะทำกับข้าวอร่อยสู้แม่ไม่ได้ แต่ฝนก็ทำไข่ต้มยางมะตูมอร่อยนะจะบอกให้” หญิงสาวเอ่ยถึงเมนูอาหารที่เธอแสนจะถนัดอย่างภาคภูมิใจ ทำให้ตรีภพอดขำท่าทางนั้นไม่ได้

“แค่ทำไข่ต้มยางมะตูมได้ทำมาเป็นอวด” บรรพตยื่นมือไปวางบนศีรษะเล็กๆ ของบุตรสาวแล้วโยกไปมาอย่างเอ็นดู ภาพที่เห็นทำให้ตรีภพยิ้มไปด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel