บทที่ 5

“ฝนเปล่าอวดสักหน่อย แต่ฝนทำอร่อยจริงๆ ต่างหาก” ฝนทิพย์ย่นจมูกให้บิดา ก่อนจะหันไปพูดกับตรีภพ

“พี่ภพอยากทานไข่ต้มยางมะตูมฝีมือฝนไหมคะ”

“ครับ”

“งั้นเดี๋ยวฝนไปทำให้” คนอยากโชว์ฝีมือการต้มไข่ยางมะตูมรีบลุกขึ้นทันทีที่ตรีภพบอกว่าอยากทาน ก่อนจะจ้ำอ้าวไปยังครัวของบ้านแบบติดจรวด

“ฝน...ไม่ต้อง”

“ไม่ทันแล้วภพ ฝนจ้ำอ้าวไปนู่นแล้ว หวังว่าบนโต๊ะอาหารเย็นคงไม่มีแต่ไข่ต้มฝีมือลูกสาวลุงหรอกนะ” พูดไปบรรพตก็หัวเราะไป

“ผมทานได้ครับ” คำพูดของตรีภพทำให้บรรพตพอจะรู้ความหมายที่แอบแฝงอยู่ แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ เพราะเท่าที่รู้จักนิสัยใจคอกันมา ตรีภพก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ถ้าฝนทิพย์จะรับรักก็คงไม่แปลกอะไร แต่เรื่องนี้ก็อยู่ที่ทั้งสองคนจะตัดสินใจ

“ดีแล้ว กินง่ายอยู่ง่ายสมเป็นผู้ชาย”

“ครับ” ตรีภพเอ่ยรับ บรรพตมองหน้าชายหนุ่ม สำหรับเขาตรีภพควรเลื่อนยศที่สูงขึ้นกว่าปัจจุบัน เพราะชายหนุ่มนั้นทำงานดีถึงขั้นดีมากด้วยซ้ำไป แต่เขากลับขออยู่ที่ตำแหน่งร้อยตำรวจเอก เพราะสะดวกต่อการทำงาน แม้ยศจะน้อยแต่ขอบเขตการทำงานของชายหนุ่มนั้นกว้างขวางพอตัว ที่สำคัญฐานะทางครอบครัวก็ถือว่ามีหน้ามีตา บิดาของตรีภพนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีลูกชายคนโตคอยช่วยงาน ส่วนตรีภพนั้นชื่นชอบอาชีพตำรวจจึงเดินตามฝัน คงพอๆ กับฝนทิพย์ที่รายนั้นเป็นผู้หญิงแต่ก็ชอบที่จะเป็นตำรวจ

งานชิ้นใหญ่ที่ได้มีส่วนร่วมทำให้ฝนทิพย์ดีใจจนยิ้มแก้มปริ คุณหญิงงามพิศส่ายหน้าให้บุตรสาวที่พอเห็นเธอก็รีบบอกข่าวดีนี้ให้รู้ว่าบิดานั้นอนุญาตให้ทำงานสำคัญแล้ว ถึงจะกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่อย่างน้อยงานชิ้นนี้ก็ยังมีสามีกับตรีภพทำด้วยจึงพอหายห่วงได้บ้างว่าฝนทิพย์คงไม่มีอันตรายอะไร หากลูกสาวเธอทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด มื้อเย็นของครอบครัวเกียรติราช มีนายตำรวจหนุ่มอย่างตรีภพร่วมโต๊ะด้วย บนโต๊ะอาหารมีเมนูไข่ต้มยางมะตูมมากเป็นพิเศษอย่างที่บรรพตคิดไว้ไม่มีผิด

ขณะที่คนในครอบครัวเกียรติราชกำลังนั่งทานอาหารบนโต๊ะภายในบ้าน หนึ่งในสมาชิกอย่างฝนสุดาเองก็กำลังนั่งดินเนอร์อยู่กับคู่ควงคนล่าสุดที่มีดีกรีเป็นถึงนายแบบหน้าใหม่มาแรงและพ่วงแถมมาด้วยคำว่านักเรียนนอกให้ดูเก๋และเท่ขึ้นอีกเท่าตัว ทั้งคู่พบกันครั้งแรกในงานเดินแบบที่ฝนสุดาเป็นแขกระดับเซเลบ ส่วนชายหนุ่มมาในฐานะนายแบบ หลังจากประสานสายตาเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นทั้งคู่ก็แลกเบอร์เพื่อติดต่อกันเรื่อยมา

“เต้นรำกับผมนะครับ” เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยื่นมือมาเชื้อเชิญ ฝนสุดายิ้มหวานโปรยเสน่ห์ของเพศหญิงให้อีกฝ่ายได้ลุ่มหลง ก่อนที่มือบอบบางจะวางลงไปบนมือหนาเป็นการตอบรับซึ่งคำเชื้อเชิญนั้น ทั้งคู่แนบชิดเต้นไปตามจังหวะเพลงที่เปิดคลออย่างช้าๆ มือหนาของซีเจวางรอบเอวคอดกิ่ว ส่วนมือบางของฝนสุดาก็วางทาบบนแผงอกแกร่งซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม

“ใจคุณเต้นแรงเชียว” ริมฝีปากอิ่มที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีสวยราคาแพงเอ่ยขึ้น เพราะตำแหน่งมือวางตรงหน้าอกพอดีจึงสัมผัสการเต้นของหัวใจชายหนุ่มได้ไม่ยาก

“นั่นก็เพราะผมตื่นเต้นที่ได้มาดินเนอร์และเต้นรำกับคุณทรายนะครับ”

“ตื่นเต้นเหรอคะ ทรายก็คิดว่าคุณชินแล้วซะอีก เพราะการเป็นนายแบบน่าจะมีโอกาสได้ดินเนอร์กับสาวๆ ตั้งเยอะ” ฝนสุดาหัวเราะออกมาเบาๆ เธอไม่ใช่ผู้หญิงหัวอ่อนที่จะคล้อยตามคำพูดผู้ชายได้ง่ายๆ แต่ถึงจะตามทันเป็นผู้หญิงก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เสียบ้าง จะได้ดูอ่อนต่อโลกและน่าดึงดูด

“คนอื่นอาจใช่ แต่ผมไม่” ขณะพูดซีเจก็สบตากลมโตที่เต็มไปด้วยแพขนตางอนของฝนสุดา ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ที่เขาไม่เคยพบจากผู้หญิงที่ผ่านๆ มา เธอดูยั่วยวนแม้จะเป็นแค่ประโยคคำพูดธรรมดา ท่าทางจะลุกจะนั่งก็ดูมีเสน่ห์ไปเสียหมด เนื้อตัวก็หอมกรุ่นนุ่มนิ่ม ยิ่งวันนี้ชุดที่เธอสวมมาดินเนอร์กับเขาเป็นเดรสสั้นสีดำเว้าหลังเพิ่มความเซ็กซี่ให้ฝนสุดาขึ้นเป็นกอง

“ผู้ชายปากหวานแบบนี้ทุกคนหรือเปล่านะ” ขณะพูดฝนสุดาก็ยกนิ้วเรียวขึ้นสัมผัสริมฝีปากหยักได้รูปของซีเจอย่างเชิญชวน ชายหนุ่มจุมพิตเธอผ่านนิ้ว แต่กลับทำให้คนทั้งคู่รู้สึกถึงความวาบหวามไปทั้งร่างกาย ของใหม่ยามได้ลิ้มลองย่อมตื่นตัวและตื่นเต้นเป็นธรรมดา

“ผมชอบคุณ ชอบแบบที่ไม่เคยชอบใครมาก่อน” คำพูดแสนเอาใจของซีเจทำให้ฝนสุดายิ้มหวาน เธอรู้ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำว่าชอบนี้

“ฉันว่านี่ก็ดึกแล้วเรากลับกันดีกว่านะคะ พรุ่งนี้คุณจะได้มีแรงไปทำงาน” ฝนสุดารู้คิวงานของซีเจดี นั่นก็เพราะชายหนุ่มเป็นคนบอกเธอ

“ให้ผมไปส่งคุณที่คอนโดนะครับ”

“อืมม์...” หญิงสาวทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบขึ้น

“ก็ได้ค่ะ” เมื่อฝนสุดาอนุญาตซีเจก็ยิ้มกว้าง ก่อนที่ทั้งคู่จะควงกันออกจากไนต์คลับชื่อดัง ซีเจขับรถสปอร์ตมาส่งฝนสุดายังคอนโดมิเนียมสุดหรูของหญิงสาว ซึ่งที่นี่เธอซื้อไว้สำหรับเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่อาจทำอะไรได้ในขณะอยู่ที่บ้าน ใช่ว่าซีเจจะส่งแค่ลานจอดรถ เพราะชายหนุ่มขึ้นไปส่งฝนสุดายังหน้าประตูด้วยความหวัง

“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” เมื่อสแกนนิ้วเพื่อเปิดประตูห้องเรียบร้อยฝนสุดาก็หันมาเอ่ยกับซีเจ

“ยินดีครับ”

“อุ๊ย!” เสียงอุทานของเจ้าของห้องดังขึ้นเมื่อเธอทำกระเป๋าถือในมือร่วงลงพื้น ก่อนจะก้มเก็บด้วยท่าทางยั่วยวน นั่นทำให้ซีเจมองเห็นอะไรต่อมิอะไรแถวๆ เนินอกอวบยามที่หญิงสาวก้มต่ำ ความต้องการตามธรรมชาติของชายหนุ่มตรงกลางร่างกายพุ่งสูงจนรู้สึกอึดอัด นายแบบหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก ฝนสุดาลอบยิ้มกับเสน่ห์ที่เธอจงใจโปรยให้ซีเจได้เห็น ก่อนจะค่อยๆ หยัดตัวขึ้นยืนสบตาซีเจที่ตอนนี้หยาดเยิ้มด้วยไฟปรารถนา ฝนสุดาเดินเข้าไปใกล้นายแบบหนุ่ม ก่อนจะยกมือขึ้นไล้ผิวแก้มสากๆ เมื่อผิวสัมผัสผิวก็เกิดความรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาทันที นั่นทำให้ซีเจหมดความยับยั้งชั่งใจ ชายหนุ่มรั้งตัวฝนสุดาเข้ามาปะทะร่างกาย ก่อนจะบดจูบลงไปด้วยความเร่าร้อน เสียงประตูปิดลงพร้อมกับการล็อกแบบอัตโนมัติ

ซีเจดันร่างของฝนสุดาจนชิดติดผนังห้อง ขณะที่หญิงสาวยกมือขึ้นคล้องลำคอชายหนุ่มไว้ ทั้งคู่แลกจูบอย่างดูดดื่มไม่มีใครยอมใคร มือหนาของ ซีเจสำรวจร่างกายของหญิงสาวอย่างช่ำชองพร้อมกับรั้งชุดที่ฝนสุดาสวมอยู่ให้ร่นลงต่ำเผยให้เห็นหน้าอกที่เขาได้เห็นด้วยตาเมื่อครู่ แต่ตอนนี้ได้สัมผัสด้วยการบีบคลึงจนสู้มือ ก่อนที่ชายหนุ่มจะถอนจูบออกแล้วไล้กึ่งปากกึ่งจมูกไปตามกายสาวกระทั่งถึงหน้าอก เมื่อปากร้อนๆ งับเม็ดยอดเข้าไปดูดดุนฝนสุดาถึงกับครางซี้ดแอ่นอกขึ้นรับ ใช่ว่าซีเจจะเร่าร้อน เธอเองก็เร่าร้อนและต้องการเขาไม่แพ้กัน

ฝนสุดาจัดการถอดเสื้อผ้าของซีเจออกซึ่งชายหนุ่มช่วยด้วยอีกแรง ไม่นานเขาก็เปลือยเปล่าเผยให้เห็นร่างกายที่แสนกำยำและท่อนล่างที่ตอนนี้ผงาดตัวเต็มที่ ซีเจไม่ชอบเปลือยคนเดียวจึงถอดชุดเดรสแนบเนื้อและ บิกินี่ลูกไม้สีดำของฝนสุดาออกเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่ต่างก็เปลือยเปล่า ซีเจอุ้มหญิงสาวขึ้นนั่งบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็แทรกตัวอยู่ระหว่างกลางขาทั้งสองข้างของฝนสุดา ชายหนุ่มมอบจูบที่ดุดันและเร่าร้อนให้เธออีกครั้ง มือสัมผัสหน้าอกอวบที่กำลังตึงเพราะถูกปลุกเร้า ขณะที่ฝนสุดาเองก็ยื่นมือไปสัมผัสแก่นกายของซีเจเช่นกัน จากขนาดที่สัมผัสได้เธอยิ้มด้วยความพอใจ