10
“เธอดื่มมากไปรู้ไหม วันหลังห้ามไปดื่มที่ไหน นอกจากฉันจะอยู่ด้วยเท่านั้น” ชายหนุ่มสั่ง
“ทำไมล่ะคะ” ปลายฟ้าเอียงคอถาม พวงแก้ม ปากคอ ตอนนี้เป็นสีแดงระเรื่อไปหมด
กิริยานั้นของหญิงสาว ทำให้เขาอดใจไม่ไหว ก้มลงไปชิมไวน์จากกลีบปากสีชมพูเย้ายวน ปลายฟ้าอึกอัก ประท้วงเสียงอู้อี้ ในลำคอเมื่อเควินขบริมฝีปากบาง เบา ๆ ค่อย ๆ ไล้แทรกเรียวลิ้นอุ่นเข้าไปควานหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม หยอกเย้าเกาะกระหวัดลิ้นเรียวเล็กที่เริ่มจะรู้จักตอบโต้...ไม่รู้ว่าเพราะเมาไวน์ หรือเมารสจูบของเขากันแน่ หญิงสาวรู้สึกพึงใจกับลิ้นอุ่น ๆ กล้าที่จะตอบโต้ รุกเร้าเขากลับเช่นกัน
เควินถอนริมฝีปาก ลงมาซุกซบลำคอระหง ปลายฟ้ายังตกอยู่ในห้วงอารมณ์หวาม ตาปรือเยิ้มฉ่ำของหญิงสาวยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้พลุ่งพล่าน เขาสอดมือเข้าเกาะกุมดอกบัวงามภายใต้ เสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง ที่โดนชายหนุ่ม ปลดกระดุมออกเกือบหมดแล้ว
ปลายฟ้าถึงกับครางออกมาอย่างลืมตัว เมื่อริมฝีปากร้อน ๆ ครอบครองยอดดอกบัวงาม หญิงสาวจับไหล่เขาไว้แน่น เผลอจิกเล็บเข้าที่ไหล่เขาจนเลือดซิบ
ชายหนุ่มเลื่อนฝ่ามือลงไปที่กางเกงขาสั้น กำลังจะปลดกระดุม หญิงสาวได้สติขืนตัวไว้ก่อนที่เขาจะปลดมันออก
“อย่าค่ะ....” ปลายฟ้าพูดเหมือนละเมอ
“ไม่..สาวน้อย...เธอก็ชอบ...บอกฉันสิ” เควินกระซิบอยู่ชิดริมหู
“มะ...ไม่ค่ะ...ไม่ใช่ตอนนี้” คำพูดที่ออกมาขาดเป็นช่วง ๆ
“ปล่อยค่ะ” ปลายฟ้ารวบรวมพละกำลังเฮือกสุดท้าย ดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอด ในสภาพเกือบเปลือย หล่อนรวบเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งขยุ้มปิดไว้แน่น มือไม้สั่นระริกเกินกว่าจะ ติดกระดุมได้ในตอนนี้ หญิงสาวพาตัวเองออกมายืนไม่มั่นคงนัก หน้าตาแดงก่ำ หายใจสะท้อนถี่ หัวใจเต้นรัว
“มาเถอะ เธอไม่พร้อมฉันก็ไม่ขืนใจหรอกน่า... สัญญา” เควินเอ่ยเสียงนุ่ม ตามไปจูงมือหญิงสาวให้กลับมานั่งที่โซฟาด้วยกัน หล่อนไม่ได้แสดงอาการขัดขืน เพราะแข้งขาสั่น จนแทบจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว
บทที่ 5 เคลิ้ม
ปลายฟ้าหน้าแดงก่ำ กัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บเพื่อข่มความอาย ไม่ทันไรหล่อนก็เคลิ้มไปกับเขาเสียแล้ว แต่ก็เริ่มรู้สึกดีกับชายหนุ่มมากขึ้น อย่างน้อยเขาก็ยังรักษาสัญญา
“เวียนหัวจังค่ะ” หญิงสาวบ่นเบา ๆ เอนศีรษะซบอกแกร่งของชายหนุ่ม ไม่ได้คิดจะอ่อย แต่เขานั่งวางแขนพาดพนักพิงข้างที่หล่อนนั่งอยู่พอดี จึงซบไปบนอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะตอนนี้แม้แต่จะลืมตา ปลายฟ้ายังลืมตาไม่ขึ้นเลย แถมคลื่นไส้อีกต่างหาก
“ไงคนเก่ง ไม่ไหวแล้วหรือ เมาเรือด้วยหรือเปล่าเนี่ย” ชายหนุ่มคิดขำ ๆ นี่แค่จูบยังต้องมานั่งปฐมพยาบาลกันขนาดนี้ ถ้าหากโดนล่วงล้ำคงมิต้องหามหล่อนส่งโรงพยาบาลเลยเหรอวะ....เฮ้อ...ไม่น่าเชื่อว่าเพลย์บอยอย่างเขาจะมาแพ้ทางผู้หญิงไม่ประสีประสาอย่างหล่อน คงต้องค่อย ๆ สอนกันอีกเยอะ ชายหนุ่มยิ้มมุมปากบาง ๆ อย่างพอใจ
“ไม่ทราบค่ะ” หญิงสาวตอบทั้งที่ยังหลับตา
เพียงครู่เดียว หล่อนก็ได้ยินเหมือนมีใครขึ้นมาแล้วก็ถอยออกไป ชายหนุ่มเอายาดมมาจ่อที่จมูกให้ปลายฟ้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ กลิ่นซ่า ๆ เย็น ๆ นั้นก็ทำให้หล่อนรู้สึกดีขึ้นมาก
“ดีขึ้นหรือเปล่า กลับบ้านกันเลยก็แล้วกัน” เควินโทรสั่งลูกน้อง ด้านล่างให้เปลี่ยนแผนกลับขึ้นฝั่ง ไม่ไปเที่ยวเกาะอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก
“ขอโทษนะคะ ที่ฟ้าทำให้คุณหมดสนุกไปด้วยเลย” หญิงสาวยิ้มแหย กลัวว่าคราวหน้าเขาจะไม่พามาอีก
“ไม่เป็นไร ไปสนุกกันที่บ้านต่อก็ได้” เควินส่งสายตากรุ้มกริ่ม ถึงแม้อีกฝ่ายจะมองไม่เห็น แต่ก็พอจะเดาเจตนาของเขาออก
“คนบ้า...” หญิงสาวต่อว่าเขาเสียงเบา ในขณะที่ยิ้มเขินอาย ซ่อนหน้าอยู่กับหน้าอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแกร่ง
ทันทีที่ถึงบ้าน ปลายฟ้ากลับขึ้นห้อง พอได้อาบน้ำสระผม ก็ทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น อาการวิงเวียนหายเป็นปลิดทิ้ง หล่อนลงมาด้านล่างก็ไม่เห็นเขาแล้ว ไม่รู้ว่าหายไปไหน หญิงสาวเผลอยิ้มออกมาน้อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว
“ตื่นแล้วหรือคะ คุณฟ้า” ป้าสายเอ่ยทักทาย
“ค่ะป้า ได้อาบน้ำสระผมแล้วหายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ” ปลายฟ้ายิ้มให้ผู้สูงวัยกว่า
“คุณฟ้าเมาเรือหรือคะ”
“ไม่แน่ใจค่ะ ว่าเมาเรือหรือเมาไวน์กันแน่ เจ้านายของป้าน่ะแหละ ให้ลองชิม” หญิงสาวเผลอค้อนเวลาพูดถึงชายหนุ่มแถมแก้มใส ๆ ยังแดงระเรื่อขึ้นอีกด้วย
“ป้าบอกแล้วไงคะ คุณเควินน่ะใจดี” นางสายยิ้ม หล่อนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวเวลาที่พูดถึงเจ้านายหนุ่ม
“หึ...หึ...ก็เป็นบางเรื่องค่ะ เรามาเรียนทำขนมต่อดีกว่าค่ะ” หญิงสาวรู้ว่าป้าสาย ต้องเข้าข้างเจ้านายของนางอยู่แล้ว เลยไม่อยากจะพูดอะไรมาก เกรงจะแสดงพิรุธ
