6 วันเกิดปีที่ยี่สิบเจ็ด
ดอกกุหลาบสีขาวค่อย ๆ ถูกวางลงบนแท่นปูนหน้าแผ่นไม้แผ่วเบา มือหนาอันสั่นเทาค่อย ๆ ปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ออกอย่างเบามือ แม้ว่าที่นี่จะมีคนคอยดูแลอยู่ตลอด แต่มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะมีฝุ่นมาเกาะหากมีลมพัดมา
'ชลธาร กานต์สิริ มรณะ 28 กุมภา xx'
"ตอนนี้ทุก ๆ คนคงจะได้อยู่ด้วยกันแล้ว" 'มีก็แต่ผม ที่อยู่คนเดียว...ทำไมถึงได้ทิ้งผมไว้แบบนี้ล่ะครับ ทำไมถึงไม่พาผมไปอยู่ด้วยบ้าง ฮึก'
นัยน์ตาคมแดงก่ำยามทอดมองแผ่นป้ายของบุคคลอันเป็นที่รัก และคนในครอบครัวที่ลาจากโลกนี้ไปแล้วอย่างไม่วันหวนกลับมา...
"มีอะไร" เสียงเข้มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้ามาใกล้ แต่ก็ยังเว้นระยะห่างจากจุดที่เขายืนอยู่ไปหลายเมตร แทนที่จะยืนรอเขาอยู่ที่รถ
"ได้เบาะแสแล้วครับ" หมอกรีบรายงานเจ้านายหนุ่มทันที เพราะเขาได้รับคำสั่งไว้ว่าหากได้เบาะแสของฆาตกรคนนั้น ไม่ว่าเจ้านายเขาจะทำอะไรอยู่ให้เขาเดินมาบอกได้เลย
"งั้นหรอ" ในที่สุดวันที่เขารอคอยตลอดก็มาถึง วันที่ได้เบาะแสของคนร้าย... เพราะตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมานั้นมันไร้วี่แววมาตลอด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ เวลาล่วงเลยมาถึงสี่ปีที่เขาพยายามตามหาร่องรอยของฆาตกรใจอำมหิตที่ฆ่าพี่ชายที่พี่สะใภ้ของเขา เมื่อกฎหมายทำอะไรมันไม่ได้ เขานี่แหละจะใช้ศาลเตี้ยลงโทษมันเอง
"ครับ เธอเป็นผู้หญิง"
"หึ" ผู้หญิง...ต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนถึงได้ฆ่าคนอื่นโดยไม่รู้สึกผิด หรือคิดที่จะแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย นอกจากจะหนีหายไปแล้ว ยังทำลายหลักฐานจนเขาตามตัวแทบไม่ได้ จนเขาคิดว่าเป็นการกระทำของพวกผู้ชายเลว ๆ เมาแล้วขับไร้ความรับผิดชอบแต่มีอิทธิพลพวกนั้น
ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิง แต่แล้วยังไง เป็นผู้หญิงแล้วยัง ในเมื่อเธอทำผิด เธอก็ต้องได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อ เขาไม่สนหรอกนะว่าเธอจะมีอำนาจ จะมีอิทธิมาจากไหน ตอนนี้ในชีวิตของเขามันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว มันไม่ต้องรักษาไว้เพื่อใครอีกแล้ว เพราะคนที่เขารักได้ตายจากเขาไปหมดแล้ว...
"รถที่เธอใช้เป็นรถหรูสีดำ แผ่นป้ายทะเบียนประมูลครับ แต่พอผมหาข้อมูลต่อ กลับไม่พบหมายเลขในระบบเลย เหมือนมันถูกลบออกไป"
"..."
"ส่วนหน้าตาของเธอก็ยังหาภาพที่ชัดไม่ได้ครับ แต่ผมกำลังพยายามไล่ตรวจกล้องดู" เห็นผู้เป็นนายนิ่งเขาจึงพูดต่อ เกี่ยวกับข้อมูลที่สืบหามาได้อย่างยากลำบาก
ข้อมูลทั้งหมดที่หามาได้รายงานต่อผู้เป็นนายภายในเวลารวดเร็ว ไม่ยืด กระชับ
"อีกสองวันเตรียมคนให้พร้อม กูจะขึ้นไป"
"ผมสัญญาว่าจะลากตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้" น้ำเสียงหนัก
พูดกับแผ่นไม้ตรงหน้า ก่อนจะเดินออกไป
วันเกิดปีที่ยี่สิบเจ็ด หญิงสาวผมยาวมันรวบเป็นหางม้าในชุดเดรสสีขาวยาวคร่อมเท้าแขนตุ๊กตา ยืนทำบุญตักบาตรอยู่หน้าบ้าน วันเกิดที่ไม่มีแม่บัวเหมือนทุกปี สายน้ำรินไหลลงสู่ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านที่ผู้เป็นแม่และตนช่วยกันปวด จิตใจอันบริสุทธิ์ตั้งมั่นให้ผลบุญที่ทำส่งไปถึงมารดาอันเป็นที่รักผู้ล่วงลับไปแล้ว
"ไม่รู้ว่าตอนนี้แม่บัวจะอยู่ที่ไหน จะแอบมองข้าวหอมอยู่บนฟ้ารึเปล่า แต่ข้าวสัญญาค่ะ ว่าข้าวหอมจะเป็นเด็กดีไม่ทำให้แม่บัวผิดหวัง..."
"อีกสี่เดือนข้าวหอมก็จะเรียนจบแล้วนะคะ... ข้าวหอมหวังว่าแม่บัวจะเห็นมันและภาคภูมิใจในตัวข้าวหอมนะคะ ฮึก" มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาเงียบ ๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป การใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีแม่บัวคอยเคียงข้างมันเป็นอะไรที่โดดเดี่ยวและเจ็บปวดใจ สำหรับเด็กกำพร้าที่ไม่เคยมีใครต้องการอย่างเธอมาก... แต่ถึงอย่างนั้น ก่อนที่แม่บัวจะไปท่านก็ยังไม่เคยคิดจะสร้างความลำบากให้กับเธอ ท่านรักเธอด้วยใจจริง ๆ บ้านที่เธออยู่ตอนนี้ท่านก็ยกให้เธอ... เงินประกันทั้งหมด...หลังจากหักค่าดำเนินพิธีกรรมทางศาสนา ก่อนจะเสียแม่บัวก็สั่งเสียไว้ว่าให้เธอนำมันไปศึกษาเล่าเรียนและต่อยอด ท่านจะคอยดูความสำเร็จของเธอ
"ข้าวหอมคิดถึงแม่บัวนะคะ..."
Rrrr
"สวัสดีค่ะ พี่อัญ"
"วันนี้ข้าวว่างรึเปล่า"
"วันนี้ข้าวมีทบทวนสูตรอาหารนิดหน่อยค่ะ"
"พอดีที่ร้านคนขาด วันนี้ข้าวพอจะมาช่วยพี่ได้รึเปล่า"
"เอ่อ..."
"เลิกงานแบบเดิมได้เลย"
"ค่ะ เวลาเดิมใช่ไหมคะ"
"ใช่จ้ะ แล้วเจอกันนะ"
หลังวางสายเสร็จพิมพ์กานต์ก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาเก่า ๆ กลางบ้านทันที แม้จะไม่อยากไปแต่มันก็เป็นงานที่เธอทำแล้วได้เงินเยอะ ถึงจะมีเงินเก็บจากการทำงานช่วงก่อนหน้าบวกกับเงินประกันของแม่บัว แต่เธอก็ยังคอยหางานพิเศษทำอยู่เสมอ เพราะความฝันอีกอย่างของเธอนอกจากเป็นเชฟแล้ว...
เธอก็อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองด้วย แต่งานที่พึ่งได้รับสายจากอัญพี่สาวข้างบ้านนั้นค่อนข้างทำให้เธอลำบากใจ เพราะเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อนที่เธอขึ้น มันทำให้เธอไม่อยากไปที่นั่นอีก ถ้าจะไปจริง ๆ เธอก็จะรอกลับกับพี่อัญ ไม่ก็วานให้พี่แจ๊สไปรับ
ครั้งนี้คงต้องวานให้พี่แจ็สไปรับ เพราะได้ข่าวว่าช่วงนี้งานยุ่ง
ถ้าอยู่รอพี่อัญอีกตื่นไปเรียนไม่ไหวแน่ การเรียนทำอาการต้องใช้สมาธิ หากเธออดหลับอดนอนไปเรียนมีหวังถูกอาจารย์ดุ ถึงเธอจะเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์หลายท่านนั้นรักและชื่นชม เพราะเธอทำออกมาได้ดีอยู่เสมอราวกับมีพรสวรรค์ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ควรที่จะทะนงตนแล้วทำอะไรตามใจเพราะเห็นว่าอาจารย์รัก อย่างที่แม่บัวเคยสอน
"ผู้หญิงคนนี้หรอ" สายตาคมจดจ้องไปที่ร่างบางในชุดกางเกงยีนสีเข้มกับเสื้อยืดสีขาว ที่กำลังเดินเข้าไปในพับ
"ครับ"
"หึ" หลังจากมองชื่อสถานที่แล้วเขาก็ไม่แปลกใจเลย
"จะเอายังไงต่อหรอครับ"
"ไว้พรุ่งนี้ค่อยจัดการ ให้เธอได้ใช้ชีวิตของเธอเป็นวันสุดท้าย" ชลธีร์ว่าเสียงเรียบ เพราะต่อจากนี้ไปชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอจะต้องเป็นของเขา
"ขอบคุณนะคะพี่แจ๊สที่มาส่ง" เสียงหวานของพิมพกานต์เอ่ยบอกแจ๊สที่อยู่รอรับเธอจนงานเลิก
"ด้วยความยินดีครับ"
"นี่ค่ะเงิน" ธนบัตรแบงค์สีแดงที่ได้มาจากการทำงานเมื่อครู่ห้าแบงค์ถูกยื่นให้คนตรงหน้าสองใบ
"พี่ไม่เอาครับ พี่เคยบอกแล้วไง ว่าขอเป็นยิ้มหวาน ๆ ของน้องข้าวหอมก็พอ"
"แต่พี่แจ๊สคะ พี่แจ๊สไม่เคยเอาเงินกับข้าวหอมเลย แบบนี้ข้าวหอมเกรงใจนะคะ" ไม่ว่าจะนั่งไปเรียน นั่งไปทำงาน พี่แจ๊สก็ไม่เคยคิดเงินกับเธอเลยสักครั้ง
"งั้นพรุ่งนี้พี่ขอกับข้าวอร่อย ๆ ฝีมือน้องข้าวหอมเป็นการตอบแทนก็ได้ครับ"
"ตกลงค่ะ" พูดจบก็ส่งยิ้มน้อย ๆ
"ปิดบ้านล็อกประตูลงกลอนดี ๆ นะครับ" เมื่อเห็นร่างบางเดินเข้าบ้านแล้วแจ๊สจึงตะโกนบอกตามไป ก่อนจะขี่รถมอเตอร์คู่ใจของตัวเองผ่านรถคันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกล สายตาไม่วายแอบมองสำรวจด้านไหน แต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะตอนนี้มันดึกแล้วและรถของอีกฝ่ายก็ติดฟิล์มดำมืด
"แถวนี้มีคนขับรถหรูด้วยหรอวะ"
"กลับ" หลังจากเห็นที่อยู่ของศัตรูจนแน่ใจแล้วชลธีร์ก็สั่งลูกน้องให้ขับรถกลับทันที ไม่คิดเลยว่าเวลาผ่านไม่ถึงห้าปี อีกฝ่ายจะตกอับขนาดนี้ ถึงว่าลูกน้องเขาถึงได้หาตัวง่าย นี่แหละหนาเขาเรียกว่ากรรมตามสนอง ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า จากลูกคุณหนูไฮโซมีอิทธิพลขับรถรอคาสิบล้าน ตอนนี้นั่งวินกลับบ้านเก่า ๆ โทรม
'เหอะ แต่แค่นี้มันยังน้อยไปกับสิ่งที่เธอทำ...'
"เธออยู่ตรงนั้นครับ" นิ้วเรียวของหมอกชี้ไปยังหญิงสาวในชุดนักศึกษาสีขาวกระโปรงพลีทยาวเกือบถึงตาตุ่มกับรองเท้าผ้าใบขาด ๆ ที่ไหล่บางมีกระเป๋าผ้าสีขาวแต่ดูสะอาดแต่คล้องอยู่
"เดี๋ยวกูขับเอง" เสียงชลธีร์ว่าขึ้น
"ครับ"
"กรี๊ดดด" ร่างบางที่กำลังเดินข้ามถนนกรีดร้องขึ้นมาทันที เมื่ออยู่ ๆ ก็มีรถคันหรูขับมาเชี่ยว ก่อนจะหกล้มลงไปกับพื้นคอนกรีต กระโปรงนักศึกษาเปียกชุ่มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากแผลถลอกจากอุบัติเหตุเมื่อครู่
"คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ"
"ฉัน...ขาฉันเหมือนมันจะ" พูดได้เพียงเท่านั้นก่อนจะหมดสติไป
