บท
ตั้งค่า

36 ใจสลาย

“ป้าสายครับ ข้าวหอมล่ะครับ” คนกำลังเดินเข้าบ้านถามหาหญิงสาวอีกคน ตอนที่เขาไม่อยู่ได้ข่าวว่าเธอมานั่งคอยเขาแทบจะทุกเย็น

ไหนพอเขากลับมาแล้วหนีหน้าเขาไปแบบนี้ล่ะ แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน ไหนบอกว่ารักเขานักหนา เหอะ ไม่กี่วันก็ถอดใจไม่รอเขาแล้ว

“หนูข้าวหอมออกไปเดินเล่นค่ะ ตั้งแต่บ่ายแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลย ป้าเองก็รออยู่เหมือนกัน” ที่เธอมายืนอยู่หน้าบ้านก็รอรับนายหัวส่วนหนึ่ง แต่ก็มารอรับหนูข้าวหอมเช่นกัน

“ว่ายังไงนะครับ” สิ้นคำของป้าสายหยุด ชลธีก็วิ่งพรวดออกไปทันที โดยไม่สนใจเสียงเรียกของป้าสายหยุดเลยแม้แต่น้อย

“เดี๋ยวสิคะคุณธีร์”

“ไปซะแล้ว...หนูข้าวหอมไปเดินเล่นที่ไหนนะ ฟ้าจะมืดแล้วทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน” ปกติหนูข้าวหอมของเธอไม่เคยทำให้เธอเป็นห่วง หรือว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น...ขอให้คุณธีร์เจอหนูข้าวหอมด้วยเถิด

“ฝากคุณ ๆ ช่วยดูแลหนูข้าวหอมด้วยนะคะ” พูดจบก็มีสายลมเย็นพัดผ่าน ทำให้สายหยุดยิ้มออกมาก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เพื่อไปเตรียมอาหารรอทั้งคู่กลับมา

“หายไปไหนของเธอนะข้าวหอม” สายตาคมดุจเหยี่ยวกวาดมองไปทั่วบริเวณ เพื่อมองหาร่างบางอันคุ้นเคย แต่ทว่ามองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เขาแทบจะวิ่งไปทั่วเกาะอยู่แล้ว เธอเดินเล่นแบบไหนของเธอกัน

“หรือว่า”

ผลั๊วะ

“นา...” ยังไม่ทันที่จะได้ร้องบอกคนข้างไหนว่าคนที่ต้องการพบนั้นมาแล้ว ร่างสูงใหญ่ก็เซน้อย ๆ เพราะถูกหมัดหนักของชลธีชกเข้าให้

“มึงมาทำอะไรที่นี่” ชลธีว่าเสียงเหี้ยมก่อนจะเดินไปถีบเข้าที่กลางอกของอีกฝ่าย จนอีกฝ่ายนั้นหงายล้มลงไปกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะยังเมาหมัดเขาอยู่

พอจัดการอีกฝ่ายล้มลงไปแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงก็พุ่งเป้าไปยังประตูทันที ก่อนจะออกแรงผลักให้เปิดออก

ผลัก

“มึง!!” ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้ชลธีโกรธจนเลือดขึ้นหน้าในทันที มือหนากำเขาหากันแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนออกมา เขาแทบจะพุ่งเข้าไปอัดหน้าอีกฝ่าย หากว่าไม่ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ก่อน

“มาแล้วหรอ กูกำลังรออยู่เลย” พูดพร้อมกับยิ้มเยอะมุมปาก เมื่อแผนการที่ตนวางไว้นั้นสำเร็จ

“...” ชลธีที่พึ่งเข้ามาได้แต่ยืนนิ่ง พร้อมกับมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างสำรวจ ก่อนจะเห็นว่าลูกน้องคนสนิทของจิรเมธนั้นเล็งปืนมาที่ตนอยู่

“จะว่าไปเมียมึงก็สวยดีนะ หอมหวานน่ากินไปทั้งตัว” ว่าพลางก็จับคางวีมนของหญิงสาวข้างกาย ให้เธอได้หันหน้าไปหาชลธี

ใบหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา และรอยฝ่ามือสีแดงที่ประทับลงบนแก้มนวลใส พาให้ใจแกร่งกระตุก ความโกรธพุ่งขึ้นถึงขีดสุด จนเขาอยากจะเข้าไปฆ่ามันให้ตายให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าไม่ติดว่าถูกลูกน้องอีกคนของมันเล็งปืนมาที่เขาอยู่ ซ้ำยังอยู่ในระยะประชิดอีกด้วย ห่างกันไม่ถึงศอกสอง ใครจะรู้ว่ามันจะให้ลูกน้องดักรออยู่ที่ประตู

“ฮึก พะ ธีร์ ฮือ ๆ” เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก เพราะเจ็บตึงไปหมดทั้งหน้าโดยเฉพาะริมฝีปาก ในที่สุดคำขอของเธอก็เป็นผล เขามาช่วยเธอแล้ว

“มึงต้องการอะไร” เสียงเข้มกดต่ำอย่างพยายามข่มกลั้นอารมณ์

“ลูกเมียมึงดีไหม” ว่าพร้อมกับเลื่อนหน้าเข้าไปคลอเคลียหญิงสาวข้างกาย ที่ตัวสั่นทึ่ม และพยายามร่นคอถอยหนี แต่ก็ไม่เป็นผลเท่าไรนักเพราะทั้งมือและนั้นถูกพันธนาการไว้

“เหอะ ลูกเมีย?”

“มึงเอาอะไรมาพูด ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเมียกู”

“อย่าคิดว่ากูโง่ กูให้คนเฝ้าดูมึงตลอด มึงคลุกอยู่กับเธอที่นี่ทั้งวันทั้งคืน แล้วไม่นานมานี้มึงก็พาเธอย้ายไปอยู่บ้านใหญ่”

“กูพูดถูกไหม”

“เป็นมึงสินะไอเมศ ที่ส่งคนไปรื้อบ้านกู” ชลธีว่าเสียงเรียบ อันที่จริงเขาพอจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นมัน แต่ไม่คิดว่ามันจะเล่นทีเผลอแบบนี้ ทั้งที่พยายามระวังแล้วก็ยังพลาดท่าให้ทันจนได้ เขาบอกเธอแล้วว่าอย่ามาที่นี่ ทำไมเธอถึงไม่ฟังเขาบ้าง

พอชลธีพูดจบจิรเมศเพียงยักไหล่ตอบเท่านั้น ก่อนจะพูดต่อ

“กูแค่อยากให้มึงรู้ว่ากูไม่ใช่คนที่มึงจะฆ่าตายได้ง่าย ๆ ไม่ใช่คนที่มึงจะทำร้ายได้ง่าย ๆ จริงอยู่ที่กูพลาดท่าให้มึงหลายครั้งแต่ครั้งนี้กูไม่พลาดแน่!”

“ดูสิไอธีร์ ว่ากูพลาดตรงไหนไปรึเปล่า”

แควก! ว่าจบก็กระชากเสื้อที่หญิงสาวสวมใส่ออก เผยให้เห็นรอยแดงตามตัวมากมาย รอยแดงที่เกิดจากอะไรทุกคนในห้องต่างรู้ดี

และสิ่งที่จิรเมศทำก็ทำให้พิมพกานต์ร้องไห้หนักมากกว่าเดิม ขาเรียวที่ถูกพันธนาการไว้ยกขึ้นประหนึ่งจะกอดเข่าไว้ แต่ติดตรงที่แขนเธอเองก็ถูกมัดไว้เช่นกัน

ได้แต่นั่งยกเข่าขึ้นอยู่แบบนั้นเพื่อปิดบังร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง ที่ไร้เสื้อผ้าคลุมกายด้านบนอยู่ ดีที่ไอสารเลวมันไม่ได้กระชากชั้นในเธอติดมือไปด้วย เพราะแค่นี้เธอรู้สึกขยะแขยงตัวเองมากพอแล้ว อยากกลั้นใจตายไปให้รู้แล้วรู้รอด มันเจ็บเหลือเกิน เจ็บไปหมด ทั้งกายและใจ หากไม่ติดว่ายังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เธอคงกลั้นใจจบชีวิตตัวเองไปแล้ว...

“ที่จะพูดมีแค่นี้ใช่ไหม กูจะได้กลับ” ชลธีว่าเสียงเรียบ ก่อนจะหันตัวกลับไป อย่างไม่สนใจปืนที่เล็งมาและหญิงสาวอีกคนที่ร้องไห้ปานจะขาดใจเลยแม้แต่น้อย สายตาอ้อนวอนขอร้องไห้เขาช่วยเหลือที่มองมา เขาก็ทำเมินมัน

“กลับ? มึงพูดเหี้ยอะไรของมึง”

“นี่ลูก นี่เมียมึงนะ มึงจะทิ้งง่าย ๆ อย่างงี้หรอวะ” ได้ยินแบบนั้นชลธีก็หันตัวกลับมา ก่อนจะพูดตอบเสียงเรียบ

“เด็กในท้องเป็นลูกกู กูยอมรับ แต่เธอไม่ใช่เมียกู เธอเป็นแค่คนที่กูจ้างให้อุ้มบุญ” เขาว่าอย่างไม่ใส่ใจ

“เพราะงั้นมึงจะทำอะไรกับเธอก็แล้วแต่ กูหาคนใหม่ได้อยู่แล้ว” คำพูดง่าย ๆ เหมือนกับคนไม่รู้สึกอะไรของเขา ทว่ามันทำให้คนฟังเจ็บจนร้องไห้ไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาเงียบ ๆ เท่านั้น ไร้เสียงสะอื้น หัวใจของเธอตอนนี้มันปวดหน่วงไปหมด ปวดกว่าโดนคนที่เขาสนทนาด้วยตบซะอีก

ไม่สิอย่าเรียกมันว่าหัวใจอีกเลย เพราะมันถูกเขาเหยียบย้ำจนแหลกละเอียด จนไม่เหลือเค้าโครงของสิ่งที่เรียกว่าหัวใจอีกแล้ว ซ้ำมันจุกจนเธอแทบหายใจไม่ออก

“หาคนใหม่? มึงแน่ใจใช่ไหมที่พูดมา ถ้ากูเอาเธอไปเป็นเมีย หรือกูฆ่าเธอ มึงก็จะไม่สนใจใช่ไหม” จิรเมศถามย้ำ พร้อมกับใบหน้าคมที่เลื่อนไปซุกไซร้ซอกคอขาวของหญิงสาวข้างกาย โดยที่สายตาคอยจับผิดสีหน้าของอดีตเพื่อนรักไปด้วย เช่นเดียวกับพิมพกานต์เธอเองมองเขาอยู่เช่นกัน หวังอยู่ลึก ๆ ว่าจะเห็นแววตาวูบไหวในดวงตาของเขา

แต่ทว่าใบหน้าและดวงตาของเขากลับเรียบนิ่งอยู่ตลอด

ส่วนคำตอบที่เป็นสิ่งสุดท้ายของความหวังอันน้อยนิดของเธอ มันก็พังทลายลงในทันที เมื่อปากหนาของเขาเริ่มขยับ

“ไม่”

“หมดธุระแล้วใช่ไหม กูจะได้กลับ”

“กลับ? เหอะ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีมึงก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะ”

“ไม่เคยกลัวเหี้ยอะไรทั้งนั้น แม้แต่ปืนที่เล็งหัวมึงอยู่”

“แล้วมึงก็ไม่เคยรักใครทั้งนั้น ตั้งแต่มึงเลิกกับไอริสไป ไม่สิบางทีมึงอาจจะไม่ได้รักไอริสตั้งแต่แรก เขาถึงได้ทิ้งมึงไปเป็นคุณหมอมีอนาคตไกล”

“ดีกว่าอยู่กับคนไร้หัวใจแบบมึง!”

“มึงพล่ามเสร็จแล้วใช่ไหม” ชลธีว่าเสียงเรียบ พร้อมกับรังสีความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวเขาเรื่อย ๆ เขาในตอนนี้ใกล้แล้วที่จะกลายร่าง กลายร่างเป็นซาตานร้ายที่ฆ่าไม่เลี้ยง ไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น ถึงอย่างนั้นเขาก็เลือกที่จะเดินออกจากห้องไปแทนที่จะเข้าปะทะ แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อลูกน้องของจิรเมธที่แรกหมัดกับเขาเมื่อครู่ขวางอยู่

“ถ้ามึงเดินออกไปแม้แต่ก้าวเดียว กูจะสั่งให้ลูกน้องเป่าหัวมึงทันที” จิรเมธว่าเสียงเรียบ แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นเหมือนไม่เข้าหัวชลธีเลยแม้แต่น้อย ซ้ำเขายังชกเข้าที่ท้องของลูกน้องของจริเมธที่มายืนขวาง พร้อมกับล็อกตัวอีกฝ่ายไว้เป็นโล่กำบังกระสุนแทน

ปัง!

ด้านลูกน้องของจิรเมธนั้น เพราะรังสีความน่ากลัว และสายตาคมวาวโรจน์ที่ชลธีจ้องมาทำให้เขาตัวสั่นขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ ก่อนจะยิงปืนพลาดเป้าไปโดนผนังห้อง แทนที่จะเป็นหัวของชลธี

“มึงทำเหี้ยอะไรของมึง กูบอกให้เป่าหัวมัน ไม่ใช่ยิ่งผนัง!!”

ผลัก ลูกน้องของจิรเมธที่ถูกชลธีล็อกตัวไว้ในตอนแรกถูกผลักเข้าใส่ลูกน้องอีกคนที่ถือปืนอยู่ทันที ทำให้ปืนที่คนถือมือสั่นอยู่แล้วตกไปไกล เป็นโอกาสให้ชลธีได้เข้าไปรัวหมัดใส่ลูกน้องของจิรเมธทั้งสองคนอย่างไม่ยั้งมือ และแน่นอนว่าลูกน้องที่จิรเมธนั้นก็ไม่ใช่ไก่กา พวกเขาเองกก็สวนกลับชลธีเช่นกัน กลายเป็นว่าตอนนี้สองรุมหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างแลกหมัดและเท้ากันอย่างไม่ยั้งมือ

ผลั๊วะ ตุบ ตุบ ด้านจิรเมธที่เห็นท่าไม่ดีจึงหยิบเอาปืนที่เหน็บไว้ที่เอวออกมายิงใส่กำแพงหนึ่งนัดเพื่อให้ชลธีหยุดเป็นหมาบ้าเลือดอัดลูกน้องเขาจนน่วม แต่ชลธีก็คือชลธีแม้เสียงปืนจะดังขึ้นมันก็ไม่ยอมหยุด ยังคงปล่อยหมัดใส่ลูกน้องของเขาไม่เลิก

ปัง!

“มึงเห็นสภาพลูกน้องมึงแล้วใช่ไหม” ชลธีว่าขึ้นเสียงเรียบ หลังจากจัดการลูกน้องของจิรเมธจนหมอบแล้ว ก่อนที่นิ้วโป้หนาของเขายกขึ้นเช็กเลือดที่มุมปากและแก้มออก พร้อมกับบ้วนเลือดไปทิ้งด้วย เมื่อรู้สึกถึงรสชาติเฝื่อน ๆ ในปาก

“ถุ้ย!”

“กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่ากลับมาที่นี่อีก” ว่าพร้อมกับสาวเท้าเข้ามาให้ ๆ อดีตเพื่อนรักมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้มันดึงเอาข้าวหอมเป็นตัวประกันแล้ว

“มึงไม่ต้องมาปากดี กูมีปืน มีเมียมึงเป็นตัวประกัน มึงจะทำอะไรกูได้”

“หึ แล้วมึงคิดว่ากูกลัว?” สายตาคมดุดัน มองลึกลงไปในตาของอดีตเพื่อนรัก พร้อมกับรอยยิ้มร้ายที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

ด้านจิรเมธเขาเองก็ไม่ได้กลัวชลธีเช่นกัน เพราะเขามีทั้งปืน ทั้งเมียและลูกมัน ทำไมเขาจะต้องกลัวมันที่มาตัวเปล่าด้วย

ด้านพิมพกานต์ที่ถูกจับเป็นตัวประกันเธอไม่พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้จะส่งสายตาขอร้องอ้อนวอนชลธี เธอไม่มองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นอีกหนึ่งนัดเมื่อชลธีเดินเข้ามาใกล้อยากไม่เกรงกลัวอะไร แต่ชลธีนั้นเบี่ยงตัวหลบทัน ทำให้ลูกตะกั่วเชี่ยวเอาเนื้อที่ต้นแขนเขาเท่านั้น ไม่ได้ฝังเข้ากลางอก

“ถ้ามึงเดินเข้ามาอีกก้าวเดียว กูยิงเมียมึงแน่” ชลธีในตอนนี้เหมือนซาตานร้ายก็ไม่ปาน ใบหน้าคมเรียบนิ่ง ราวกับว่าที่ถูกยิงเป็นเพียงฟองสบู่เท่านั้นที่สัมผัสตัวเขา จากที่มั่นใจว่าชลธีนั้นจะทำอะไรตนไม่ได้ ตอนนี้จิรเมธเริ่มกลัวบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามแข็งใจสู้ มันต้องมีสักครั้งสิ สักครั้งที่เขาจะชนะคนอย่างชลธีได้ ตอนนี้สภาพมันก็สะบักสะบอมพอตัวเพราะพึ่งตะลุมบอนกับลูกน้องเขามา แต่มันก็ยังเดินตัวตรง อกผายไหล่ผึ่ง ไม่ง้องุ้มให้เสียมาดเลยแม้แต่น้อย

“มาขนาดนี้แล้วมึงยังคิดว่ากูสนใจเธออีกหรอ หึ”

“กูไม่สนเหี้ยอะไรทั้งนั้น!! ไม่ว่ามึงจะทำอะไร กูสนแค่ว่าวันนี้...มึงต้องตายด้วยน้ำมือกู มึงต้องเป็นผีเฝ้าเกาะเอื้องดาวของกู!” ชลธีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่แฝงไปด้วยความน่ากลัว ก่อนจะตวาดลั่นไปทั่วบริเวณ พร้อมกับรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวเขาตลอดเวลา หากเป็นลูกน้อง ลูกกระจ๊อกคงได้เข่าอ่อนตัวสั่นกันหมดแล้ว เพราะขนาดจิรเมธเองก็รู้สึกหวั่น ๆ ในใจ

ปัง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel