35 ความช่วยเหลือที่ขอ ส่งไป(ไม่)ถึง?
หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาถึงหนึ่งสัปดาห์เต็มที่เขาหายหน้าไป ถามป้าสายป้าสายก็บอกว่าคนอื่น ๆ กลับมากันหมดแล้ว เพราะไปหาแบบไปเช้าเย็นกลับ แต่เขานี่สิ เขาหายไปเลย...
“คุณธีร์ก็แบบนี้แหละ มีอะไรนั่นนี่ให้ทำเยอะแยะไปหมด นี่คงจะไปหาทำอะไรกับไอหมอก ไม่ก็ขึ้นฝั่งไปทำธุระ” สายหยุดเอ่ยปลอบใจหญิงสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ หลังจากสังเกตท่าทีของสาวเจ้าที่มีต่อนายหัวหนุ่มของเธอ เธอก็พอจะรับรู้อะไรได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไรนัก
“ใช่ ๆ คุณธีร์กับพี่หมอกชอบหายไปด้วยกัน หายไปเป็นวัน ๆ บางทีก็เป็นเดือนเลยก็มี แล้วก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าหายไปไหน” เฟื่องฟ้าว่าขึ้น ช่วยปลอบใจข้าวหอมอีกแล้ว หลังจากที่รู้ความจริงเมื่อห้าวันก่อนจากป้าสาย ว่าจริง ๆ แล้วข้าวหอมนั้นท้องกับคุณธีร์ เธอก็อยากจะเอาหัวโขกผนังบ้านวันละหลาย ๆ รอบ
จากที่พี่หมอกไม่ค่อยมายุ่งวุ่นวายกับเธอ เจอกันน้อยครั้งอยู่แล้ว พอเธอไปพูดแบบนั้นไป ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอพี่หมอกอีกรึเปล่า ยิ่งพี่หมอกทำงานกับคุณธีร์แทบจะตัวติดกันตลอดเวลา จนเธอเคยคิดว่าพวกเขาแอบมีความสัมพันธ์กันเงียบ ๆ เพราะพี่หมอกก็ไม่ยอมมีใคร คุณธีร์เองก็ด้วย
แถมหลายครั้งที่เธอพยายามเข้าหาพี่หมอกก็ไม่ค่อยสนใจเธอเลย จนมารู้ว่าข้าวหอมท้องกับคุณธีร์นี่แหละ ชีวิตก็พอให้มีสีสันขึ้นมาบ้าง จากที่กำลังอกหักไปรักคนมีลูกมีแล้ว ต้องมากลายเป็นแอบรักคนโสดที่คิดกับเธอแค่น้องสาว น้องสาวอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเลื่อนสถานะเป็นอย่างอื่นได้เลย
แต่ถ้าพี่หมอกนั้นเป็นพ่อของลูกข้าวหอมจริง เป็นคนรักข้าวหอมจริง...เธอคิดว่าเธอทำใจยอมรับได้ ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นข้าวหอม ผู้หญิงที่ขนาดที่เธออยู่ใกล้แล้วเธอเองยังรู้สึกหลงรัก มีดีทั้งหน้าตาและนิสัย
แถมป้าสายยังแอบกระซิบอีกว่าฝีมือทำอาหารสุดยอด ซึ่งเธอก็พึ่งได้สองเมื่อสองวันก่อน ก็สมคำร่ำลือ
“หรอคะ” แม้จะรู้ว่าเขาปลอดภัยดี แต่ใจเธอมันคิดถึงและโหยหาเขาอยู่ตลอดเวลา...จะให้เธอทำยังไง เพราะคืนนั้นเขาบอกว่าเขาจะพยายามมากอด มาหามาลูบท้องให้ความอบอุ่นกับลูก...แล้วการที่เขาหายไปแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน เขาคงไม่ได้หลอกให้เธอดีใจเล่น แล้วก็ทิ้งเธอให้เจ็บอีกหรอกใช่ไหม
“เฟื่องว่าวันนี้ข้าวพักอยู่บ้านดีกว่า เดี๋ยวงานที่โรงครัวเฟื่องจะช่วยทำต่อให้เอง” เห็นสีหน้าเศร้า ๆ ซีด ๆ ของข้าวหอมแล้ว เฟื่องฟ้าจึงพูดขึ้น เธอชอบที่จะเห็นข้าวหอมยิ้มหวาน ยิ้มที่ใครเห็นก็ต้องอมยิ้มตาม มากกว่าสีหน้าอมทุกข์แบบนี้ โดนมนสะกดคุณธีร์เข้าอย่างจังแบบนี้แล้วจะแก้ยังหายล่ะเห้อ
อย่างว่าละนะความรักมันห้ามกันไม่ได้ เธอเองก็เคยเป็น พึ่งจะมาดีขึ้นเมื่อไม่กี่วันนี่เอง ดีขึ้นเพราะรู้ว่าพี่หมอกของเธอยังเป็นหนุ่มโสด ผิดที่เธอคิดเองเออเองไม่ถามเขาก่อน อีกทั้งเขาก็ไม่ยอมอธิบาย มันก็เลยทำให้เธอเป็นทุกข์เพราะอกหักอยู่เป็นเดือน ๆ
“ไม่เป็นไรข้าวทำต่อได้” ทำไมทุกคนที่นี่ถึงดีกับเธอจังนะ ทั้ง ๆ ที่เธอพึ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ
“ไม่เอา วันนี้เฟื่องอยากให้ข้าวพัก ข้าวเองก็เคยช่วยเฟื่อง เฟื่องช่วยข้าวบ้าง หายกันแบบนี้โอเคไหม”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ข้าวก็รู้ว่างานเฟื่องสบายจะตาย แค่ทำความสะอาดบ้านนิด ๆ ก็เสร็จแล้ว เพราะงั้นแค่นี้ไม่เหนื่อยหรอกน่า” เห็นสีหน้าลำบากใจของข้าวหอมแล้ว เฟื่องฟ้าจึงพูดขึ้น
“พักเถอะนะหนูข้าว ทำบ้างพักบ้าง อย่าโหมมาก หนูเองก็กำลังท้องกำลังไส้ ให้นังเฟื่องมันช่วยน่ะดีแล้ว กินแรงมันบ้าง มันยิ่งขี้เกียจอยู่” สายหยุดพูดเสริม ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นข้าวหอมก็ยิ้มขำในทันที เธอชอบเวลาที่ป้าสายหยุดกับเฟื่องหยอกล้อกันแบบนี้
“ป้า! ฉันไม่ได้ขี้เกียจซักหน่อย อย่ามาตู่กันนะ”
“ป้าไม่ได้ตู่ ถ้าเองไม่ได้ขี้เกียจเองก็อย่าร้อนตัวสิ”
“โธ่ป้า!” และแล้วก็จบลงไปด้วยเสียงเถียงกันไปเสียงกันมาของป้าหลาน ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำงานของตน และเพราะเวลาทั้งบ่ายนี้พิมพกานต์นั้นว่าง ทำให้เธอเลือกที่จะออกไปเดินเล่นสูดอากาศ ซึ่งสถานที่ที่เธอเลือกไปที่แรกก็คือน้ำตก...ที่ที่เธอได้เจอผู้ชายที่อบอุ่นและใจดีครั้งแรก ผู้ชายที่เป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตอันมืดมนของเธอ...แต่ตอนนี้อย่างที่รู้กันว่าเขาเหมือนความมืดที่เข้ามาเกาะกุมหัวใจของเธอให้หมองหม่น
“วันนี้เราอาบน้ำที่นี่กันนะคะ” เสียงหวานเอ่ยบอกลูกน้อยในท้อง ก่อนจะหย่อนขาลงน้ำ ทว่าน้ำมันกลับเย็นเกินไป รวมถึงบรรยากาศรอบ ๆ ด้วย เธอรู้สึกว่ามันเย็นขึ้นผิดปกติ จนตอนนี้ขนเธอเองก็ยังลุก
“น้ำเย็นไป งั้นไว้เรามาอาบกันใหม่ตอนที่คุณพ่อกลับมานะคะ” เสียงหวานเอ่ยบอกลูกน้อยอีกครั้ง ก่อนจะนั่งดูบรรยากาศรอบ ๆ แทน แต่ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งรู้สึกหนาว ๆ ทำให้พิมพกานต์ตัดสินใจเดินออกจากน้ำตก เพื่อจะไปบ้านหลังน้อยแทน
“มาได้สักที” ทันทีที่เปิดประตูเข้าก็ได้ยินเสียงเข้มของใครบางคนพูดขึ้น ก่อนจะหันไปตามเสียง ก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งยืนพิงผนังห้อง ส่วนอีกคนก็ยืนอยู่ข้าง ๆ
“พะ พวกคุณเป็นใคร” พิมพกานต์เอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับยกมือขึ้นมาประคองท้องไว้ด้วยความระแวง ก่อนจะค่อย ๆ เดินถอยหลังออกไป ดีที่เธอยังไม่ได้เดินเข้าบ้านมาลึกมากทำให้เดินถอยหลังเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงประตูแล้ว แต่ยังไม่ทันที่จะเดินพ้นประตูออกไป แผ่นหลังเล็ก ๆ ของเธอก็ปะทะเข้ากับหน้าอกแข็งแรงของใครสักคน ซึ่งพอหันไปมองแล้ว ก็พบกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ รูปร่างบึกบึนน่ากลัว อย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
“ถะ ถอยออกไปนะ”
“พูดง่ายไปรึเปล่าคนสวย” ว่าพร้อมกับเดินสาวเท้าเข้ามาใกล้ ๆ หญิงสาวที่ยืนตัวสั่นโอบท้องตัวเองอยู่
“เอามือออกไปนะ” มือหนาที่ยืนเข้ามาใกล้ ๆ หวังจะคลอเคลียทำให้พิมพกานต์ต้องยกมือขึ้นปัดออก แต่ทว่าปัดมือเขาออกมือนึง ก็ยังเหมือนอีกมือนึง เธอเลยได้แต่หลับตาปี๋เบนหน้าหนี จากการรุกรานของคนตรงหน้าเท่านั้น ก่อนที่หยดน้ำตาจะหยดแหมะอาบแก้มนวล ‘น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน’
“อย่าทำเป็นรังเกียจผมไปหน่อยเลยน่า” ว่าพร้อมกับลูบไล้แก้มนวลอย่างถือวิสาสะ ขนาดว่าเธอพยายามเบนหน้าหนีขัดขืน เขาก็ยังไม่ยอมหยุดมัน
“ฮึก ปล่อยฉันนะ ฉันไม่รู้จักคุณมาก่อน ไม่เคยทำอะไรให้ แล้วทำไมคุณต้องมาทำอย่างนี้กับฉันด้วย” ขยับตัวหนีก็ไม่ได้เพราะถูกชายหนุ่มร่างกายบึกบึนข้างหลังจับแขนเธอล็อกไว้อยู่ ส่วนชายหนุ่มหน้าตาดีตรงหน้า แต่นิสัยเลวร้ายขวางอยู่ ก็เอาแต่ไล่เกลี่ยนิ้วกับแก้มเธอไปมา เพราะตอนนี้เธอท้องอยู่ทำให้ไม่กล้าทำอะไรมากนักนอกจากว่าเขาและพยายามส่ายหน้าไปมาเพื่อขัดขืน เธอกลัวว่าเขาจะร้ายเธอ หากเธอดิ้นมากกว่านี้ และก็กลัวว่าลูกจะเป็นอันตรายด้วย...
เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้มาก ก็ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่างเงียบ ๆ ระบายความอัดอั้นภายในใจ ‘ฮึก ข้าวกลัว...พี่ธีร์อยู่ไหน มาช่วยข้าวกับลูกด้วย ฮือ ๆ’
“คุณไม่รู้จักผม! แต่ผัวคุณรู้จัก” พอพูดถึงใครอีกคน เสียงที่เคยทุ้มก็เข้มขึ้นทันที พร้อมด้วยสีหน้าและแววตาที่ดูดุดันน่ากลัวขึ้น
“ฉันไม่เข้าใจ” ว่าพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ตอนนี้เธอไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมตัวเองต้องมาเจออะไรแบบนี้
ใบหน้าเข้มพยักหน้าน้อย ๆ เพื่อบอกลูกน้องให้พาตัวเธอไปยังฟูกนอนที่ขาว ก่อนที่เขาจะถอดเสื้อออก พร้อมกับหันหลังในให้เธอ ที่นั่งร้องไห้อยู่บนฟูก โดยมีลูกน้องเขากดบ่าไว้
“รอยแผลเป็นนี่ ฝีมือของผัวคุณ นี่ นี่ และก็นี่ด้วย” นิ้วสากชี้ไปยังรอยแผลเป็นขนาดใหญ่กลางหลัง ก่อนจะไล่มาที่ลอยแผลเป็นเล็ก ๆ ด้านข้าง และจุดสุดท้ายที่กลางอกเขา
“เพราะมัน ผมถึงต้องรักษาตัวถึงสามเดือน! เพราะมันผมถึงต้องสูญเสียลูกน้องนับร้อยชีวิต เพราะมันผมต้องสูญเงินเกือบร้อยล้าน เพราะมันไอธีร์ เพราะมันคนเดียวที่เกือบทำให้ผมต้องตาย!!!” เสียงเข้มตวาดใส่หน้าของหญิงสาวที่นั่งร้องไห้อยู่ทันที ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เธอตัวสั่นกลัวและน้ำตาไหลนองมากขึ้นไม่อีก
“ฮรึก”
“ทีนี้...” ช่ายหนุ่มร่างสูงค่อย ๆ ย่อตัวลงนั่งด้วยส้นเท้า ก่อนจะพูดต่อ
“คุณเข้าใจรึยังว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ในสภาพแบบนี้!!”
“ในเมื่อผมต้องสูญเสีย...มันเองก็ต้องสูญเสีย สูญเสียคนที่มันรักอีกคนไป หึ”
“ผมอยากรู้จริง ๆ เลยว่ามันจะมีสภาพยังไง เมื่อคนที่มันรักทุกคนต้องตายเพราะมัน” จากเสียงตวาดเปลี่ยนเป็นเสียงทุ้ม และเรียบได้ในเวลาอันสั้น เช่นเดียวกับรอยยิ้มของเขา จากที่บึ้งตึงโกรธแค้น มุมปากเขาก็ค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้กลายเป็นรอยยิ้มที่ดูน่ากลัว
เขายิ้มเหมือนกับคนเสียสติ ทำให้เธออดที่จะกลัวไม่ได้ พยายามที่จะไม่มองหน้าเขา พร้อมทั้งเรียกหาใครอีกคนในใจ หวังให้เขามาช่วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน... ‘พี่ธีร์อยู่ที่ไหน ข้าวกลัว ฮือ ข้าวกลัว’
“จะว่าไปคุณเองก็สวยดีเหมือนกัน ไม่สิคุณสวยมาก สวยกว่าแฟนเก่าของไอธีร์มันอีก”
“นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่ผมไม่ได้เห็นของสวย ๆ งาม ๆ แบบนี้” ว่าพร้อมกับเลียริมฝีปากไปด้วย พร้อมกับท่าทีคุกคามหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ปิดบัง
“คุณคิดจะทำอะไร อย่านะ...วร้าย” ข้อขาเรียวถูกมือหนาของเขารวบไว้ ก่อนที่เขาจะออกแรงดึงเบา ๆ เธอก็นอนราบไปกับฟูกนอน เพราะทรงตัวไม่อยู่
“อยากจะรู้จริง ๆ ว่าคุณมีอะไรดีนักหนา ถึงมัดใจไอธีร์มันได้”
“ถ้าคุณลองใช้กับผม แล้วมันได้ผล ดีไม่ดีผมอาจจะไว้ชีวิตคุณก็ได้นะ” ว่าพร้อมกับขยับตัวขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ โดยที่มือหน้านั้นยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาไม่หยุด
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันขอร้อง ฮึก ฉะ ฉันท้องอยู่ ถือว่าสงสารคนท้องเถอะนะ ไม่ก็สงสารเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็ได้ ฮึก” สองมือยกขึ้นพนม ไหว้วิงวอนขอความเห็นใจจากชายหนุ่มตรงหน้าทั้งน้ำตา
“ทะ ท้องงั้นหรอ หึ แบบนี้ก็ยิ่งสนุก”
“มะ หมายความว่าไง...”
