20 หน่อไม้ฝรั่งผัดกุ้ง
เช้าจนแสงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องแล้ว แต่สองร่างก็ยังกอดก่ายกัน ไม่มีใครตื่นขึ้นสักที ทั้ง ๆ ที่หากเป็นวันปกติพวกเขาทั้งคู่จะตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นด้วยซ้ำไป และก็นับว่าโชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดงานของคนทั้งเกาะ และคนตั้งกฎก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคุณย่าของชลธีนั้นเอง
วันที่มีเรือกับฝั่งย่าดาวนั้นบอกว่าหลังจากทุกคนกลับมาแล้วก็อยากให้พักผ่อนกันก่อนค่อยเริ่มงาน การเดินทางข้ามฟากไปมานั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย เพราะงั้นวันหลังจากกลับฝั่งทุกคนจะได้หยุด รวมถึงวันที่มีเรือข้ามฝั่งในทุกเดือนด้วยเช่นกัน
“อื้ออ” เลยว่าตื่นมาพักใหญ่ก็เป็นพิมพกานต์ที่รู้สึกตัวก่อน เปลือกตาบางค่อย ๆ เลื่อนขึ้น ก่อนจะกะพริบน้อย ๆ เพื่อปรับโฟกัส และสิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือใบหน้าหล่อเหลาของสามีทางพฤตินัยหมาด ๆ
“คนอะไรนอนหลับก็หล่อ ตื่นก็หล่อ ทำไมสามีข้าวถึงได้หล่อนขนาดนี้นะ” ว่าพร้อมกับยกมือขึ้นรูปไล้ไปตามกรอบหน้าของเขา ก่อนจะวนเวียนอยู่บริเวณริมฝีปากหนาของเขา พร้อมยกมือขึ้นมาวางบนริมฝีปากของตัวเองด้วย ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาน้อย ๆ เธอชอบที่เขาจูบเธอจัง...
“ยิ้มอะไรคนเดียวครับ” พูดพร้อมกับพลิกตัวขึ้นคร่อมคนตัวเล็ก ตอนนี้เธอจึงอยู่ใต้ร่างเขา โดยมีท่อนแขนแกร่งของเขากักกั้นไว้ ไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้
“พี่ธีร์...ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ตื่นมาทันได้ยินเมียชมว่าหล่อ...แล้วก็ทันจะเกือบโดนเมียขโมยจูบ”
“คนบ้า ใครจะเค้าจูบพี่ธีร์กันคะ”
“เสียได้เนอะ คนอุตส่าห์อยากโดนเมียจูบ” ชลธีว่าเสียงเศร้าก่อนจะขยับตัวลงไปนอนข้าง ๆ เธอแทน แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับไปไหน ก็ถูกแขนเรียวคล้องต้นคอไว้ ก่อนที่คนตัวเล็กใต้ร่างจะเป็นฝ่ายเขย่งตัวขึ้นจูบเขาก่อนตามที่ตัดพ้อไปเมื่อครู่ ทำเอาครางฮึมในลำคออย่างพอใจเลยทีเดียว
“พอแล้วค่ะ” หลังจากเขาผละออก พิมพกานต์ก็พูดเสียงหอบทันที เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะเข้ามาจูบเธออีก แถมมือของเขาตอนนี้ก็อยู่ไม่สุข ล้วงไต่อยู่ใต้ผ้าห่ม ทำเอาเธอรู้สึกวาบหวามไม่น้อย
“ลูกพี่รอมาเกิดอยู่ ข้าวไม่สงสารลูกหรอ” ชลธีว่าขึ้น
“แต่เมื่อคืนพี่ธีร์ก็ทำไปเยอะแล้วนะคะ” พูดไปก็เขินไป เธอไม่เคยชินเลยที่จะต้องมาพูดเรื่องใต้สะดือกับเขา ต่างกับเขาที่พูดมันได้อย่างลื่นไหลตลอด
“เพื่อความชัวไงครับ อีกอย่างจะได้เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเราด้วย...เรียนรู้กันผ่านเซ็กส์”
“งั้นแค่รอบเดียวนะคะ...เพราะข้าวยังรู้สึกเจ็บ ๆ ตรงนั้นอยู่” พิมพกานต์ตอบรับ เพราะรักเขามาก เพราะเขาเปรียบเสมือนโลกใบใหม่ของเธอ พอเขาร้องขออะไรนิดอะไรหน่อยเธอก็มักจะใจอ่อน ยอมให้เขาอยู่เสมอ ถ้าหากมันไม่เหลือบากกว่าแรงมากนัก ... เธอกลัวว่าเขาจะเบื่อและรัก แล้วจะถูกเขาทิ้งในสักวัน เธอเกลียด...เกลียดการถูกทิ้ง...
“ครับ” หลังจากหญิงสาวตอบรับ บทรักแสนร้อนแรงต้อนรับวันใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น และแน่นอนมันก็ไม่ใช่แค่รอบเดียวตามที่ตกลงกันไว้
คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาย่อมหาทางตักตวงความสุขจากเธอจนพอใจ
“เราทำไข่เจียวธรรมดา ๆ กินกันไม่ได้หรอ” ชลธีว่าขึ้นเมื่อถูกเมียสาวใช้ให้ช่วยเตรียมวัตถุดิบหลังจากตนนั้นผิดคำพูดที่บอกว่าจะทำเพียงรอบเดียวแต่พอเวลานั้นมาถึงจริง ๆ เขาปล่อยให้เธอได้พักผ่อนอีกทีก็ตอนเที่ยง
“พี่ธีร์กินได้หรอคะ” นับวันเขายิ่งกินยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ไข่เจียวธรรมดา ๆ ทำให้เขากินบ่อยดูเหมือนเขาจะเริ่มเบื่อมัน ใช่แล้วล่ะ เธอคอยสังเกตอยู่เสมอเวลาทานข้าวร่วมกันกับเขา ในตอนแรก ๆ เขากินมันดีอยู่หรอก แต่พอนานวันเข้าเมนูไข่เจียวก็ถูกเขาเมิน เขาเลือกที่จะตักอาหารแปลกใหม่อื่น ๆ ที่เธอทำ ช่วงหลังมานี้เธอเลยเลือกที่จะไม่ทำไข่เจียวให้เขาทาน
“กินได้สิ ทำไมพี่จะกินไม่ได้ เมื่อก่อนพี่ก็กินที่ข้าวทำนะ”
“ข้าวเห็นพี่ธีร์ไม่กินมันเลยนี่คะ ข้าวเลยทำเมนูอื่น”
“อีกอย่างตอนนี้เราก็เตรียมวัตถุดิบได้เยอะแล้ว อีกไม่นานก็ได้กินแล้วค่ะข้าวสัญญา”
“แต่พี่หิวแล้วนี่ครับ”
“ก็เพราะใครล่ะคะ” ใครที่พาเธอพลิกผ้าห่มจนอดกินข้าวเช้าด้วยกันทั้งคู่ ตื่นกันอีกทีก็บ่ายสองแล้ว ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดที่จะจับเธอกินอีกรอบ ดีที่เธอห้ามเขาไว้ก่อน ทั้งยังขู่ว่าถ้าเขายังจะพาเธอทำรักอีก คืนนี้และวันต่อ ๆ ไป เธอจะไม่ยอมให้เขาตามอำเภอใจอีกแล้ว อีกอย่างเธอไม่อยากให้เขาอดข้าวด้วย เธอรู้ว่าเขาต้องทำงานหนัก เธอกลัวว่าเขาจะไม่มีแรงไปทำงาน ถึงวันนี้จะเป็นวันหยุดแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปทำงานหรือเปล่า เพราะคุณธีร์อะไรนั่นชอบมีงานให้เขาทำอยู่เสมอ
“เพราะข้าวเกินห้ามใจต่างหาก ไม่ใช่ความผิดพี่สักหน่อย”
“พี่ธีร์!” คนกำลังดึงเอาเส้นดำกุ้งตัวสุดท้ายออกหันไปมองค้อนให้เขาทันที ก่อนจะหยิบเอากะละมังใส่น้ำที่ใช้ให้เขาเอามาวางให้ก่อนหน้านี้มาล้างทำความสะอาดกุ้ง ดีที่เมื่อวานเธอไม่ได้ใช้กุ้งที่ซื้อมาทำมื้อค่ำแสนพิเศษให้เขาจนหมด รวมถึงผักอื่น ๆ ด้วย วันนี้จึงพอมีวัตถุดิบไว้ประกอบอาหารอยู่บ้าง
“แล้วหน่อไม้ฝรั่งนี่พี่ต้องทำยังไงกับมันครับ หั่นได้เลยรึเปล่า”
คนทำอาหารไม่เป็น พูดพร้อมกับชูหน่อไม้ฝรั่งขึ้นให้เธอดู
“ทำแบบนี้ค่ะ” พิมพกานต์พูดขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบหน่อไม้ฝรั่งในตะกร้าที่เขาล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ด้วยเพราะยังเจ็บตรงนั้นอยู่ทำให้เธอยังขยับตัวได้ไม่มากนัก จึงบังขับแกมขู่ให้เขามาช่วยทำอาหารมื้อแรกของวันด้วยกัน ตอนบ่ายสาม โทษทานที่เขาผิดคำพูด
“พี่ธีร์ลองหักดูแบบนี้ค่ะ ถ้ามันเหนียว ๆ หักไม่ขาดแสดงว่าใช้ไม่ได้ ถ้าหักขาดแบบนี้แสดงว่าส่วนนี้ใช้ได้ค่ะ”
“เสร็จแล้วก็หั่นความยาวประมาณนิ้วก้อยค่ะ...อืมสองข้อนิ้วชี้ของพี่ธีร์ก็ได้ค่ะ” หลังจากสาธิตให้เขาดูเสร็จ ก็ส่งคืนหน่อไม้ฝรั่งให้เขา ก่อนจะหันไปจัดการในส่วนของตัวเอง โดยที่สายตานั้นคอยชำเลืองมองเขาเป็นระยะ ท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของเขาทำเอาเธออดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเลยจริง ๆ เธอเชื่อแล้วว่าเขานั้นทำอาหารไม่เป็น
“แบบนี้ใช่ไหมครับ”
“เล็กกว่านี้อีกนิดนึงค่ะ”
“อืม...ได้แล้วค่ะ” หลังจากเขาชูอันที่หั่นใหม่ขึ้นมาให้ดู
พิมพกานต์ก็ตอบรับในทันที พร้อมกับส่งยิ้มให้เขา ทำเอาชลธีภูมิใจในตัวเองไม่น้อย เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าการได้ทำอาหารแบบนี้มันจะสร้างความสุขให้เขาได้ ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นเลย แต่พิมพกานต์ก็ทำหน้าที่เป็นครูสอนได้อย่างดีทีเดียว ก่อนจะรีบสลัดความคิดบางอย่างที่แล่นเข้ามาในหัว แล้วกลับมาตั้งใจจัดการหน่อไม้ฝรั่งตรงหน้าต่อ
หลังจากที่ทั้งคู่เตรียมวัตถุดิบเสร็จแล้วพิมพกานต์ก็ลงมือทำอาหารในทันที โดยที่ก่อนหน้านี้เธอทำไข่ลวกให้เขาทานก่อน ตอนนี้ชลธีเลยยืนกินไข่ลวกแล้วมองเมียทำอาหารเงียบ ๆ
“หอม” คนเจ้าเล่ห์ว่าพลางเดินเข้ามาช้อนหลังคนตัวเล็กที่กำลังยืนทำอาหารอยู่หน้าเตา พร้อมกับขโมยหอมแก้มนุ่ม ๆ ของเธอด้วย
“เดี๋ยวถ้ามันกุ้งออกมาจะหอมกว่านี้อีกค่ะ” พิมพกานต์เอ่ยตอบเขา โดยที่มือนั้นยังคงตั้งใจผัดกุ้งกับกระเทียมให้เข้ากันอยู่
“แต่หอมสู้เมียพี่ไม่ได้หรอก” ฟอดดด ว่าจบก็ขโมยหอมแก้มเมียอีกฟอดใหม่ ก่อนจะได้รับค้อนวงใหญ่ตอบกลับมา
“พี่ธีร์!”
“ครับบบบ”
“กอดข้าว กอดได้ค่ะ แต่มือ...” พูดพร้อมกับตีมือหนาที่ล้วงเข้ามาในสาบเสื้อของตัวเอง
“เหอะ งั้นพี่ไปตักข้าวรอก็ได้”
“ถ้างอนข้าวระวังกินข้าวไม่อร่อยนะคะ” พิมพกานต์พูดให้หลังคนตัวสูงที่เดินทำหน้าบึ้งตึงออกไป
“ถ้ากินข้าวไม่อร่อย...พี่กินข้าวนี้ก็ได้” คนเดินออกไปตักข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง ก่อนจะพูดบางอย่างขึ้น ทำเอาคนที่ ตักหน่อไม้ฝรั่งผัดกุ้งใส่จานเสร็จเรียบร้อยต้องรีบหันกลับมามองในทันที ก่อนจะหวีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อตัวเองลอยหวือขึ้นบนอาการ
“วร้าย พี่ธีร์มาอุ้มข้าวทำไมคะ ปล่อยข้าวลงนะ”
“เราเดินขัดแบบนั้นวันนี้พี่จะได้กินข้าวไหม อืม...หรือจะเปลี่ยนมากินข้าวนี้แทน”
“อุ้มค่ะ อุ้ม ข้าวให้พี่ธีร์อุ้มก็ได้”
“หึ”
“พี่ธีร์รู้รึเปล่าคะ ว่าทำไมข้าวถึงเลือกทำผัดหน่อไม้ฝรั่งให้พี่ธีร์” พิมพกานต์ถามขึ้นหลังจากเห็นว่าเขากินข้าวใกล้จะหมดจานแล้ว ส่วนเธอนั้นอิ่มก่อนเขาสักห้านาทีได้
ชลธีส่ายหน้าเป็นการตอบ
“เมื่อคืนพี่ธีร์บอกข้าว่าอยากมีลูก...ข้าวเคยอ่านเจอว่าถ้าทานหน่อไม้ฝรั่งจะช่วยกระตุ้น เอ่อ...ความต้องการทางเพศ ช่วยให้ เอ่อ ช่วยให้”
“ช่วยให้อะไรครับ” เห็นท่าทางเขินอาย บวกกับสิ่งที่เธอพูดมาก่อนหน้านี้ ทำให้ชลธีจากที่ไม่สนใจ ก็เงยหน้าขึ้นจากอาหาร มองสบตาคนตัวเล็กทันที
“ช่วยให้เรามีอะไรกันได้นานขึ้นค่ะ” พิมพกานต์พูดเร็วตอบเขาไป ก่อนจะเบือนหน้าหนีเขาไปทางอื่น ขนาดว่าไม่ได้กินเวลาร่วมรักที่เขาทำกับเธอนั้นมันก็นานมากพอแล้ว... ถ้ามันนานมากกว่านี้เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทนรับไหว้รึเปล่า แต่เพราะเขาบอกอยากมีลูก... เธอก็เลยอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเขาหาวิธีอื่นบ้าง นอกจากเรื่องเซ็กส์ เพราะเรียนทำอาหาร เธอเลยชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับสรรพคุณของวัตถุที่จะนำมาปรุง และหน่อไม้ฝรั่งเองก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่เธอเคยอ่านสรรพคุณของมัน
“หึ”
“หัวเราะอะไรคะ”
“พี่แค่มีความสุขน่ะครับ ที่มีเมียใส่ใจพี่มากขนาดนี้”
ด้านพิมพกานต์หลังจากได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็ได้แต่ส่งยิ้มให้เขา ก่อนจะนั่งเป็นเพื่อนเขาทานข้าวต่อ อย่างที่บอกไปว่าเธออิ่มก่อนเขาตั้งนานแล้ว และหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแล้ว สองสามีภรรยาก็มานั่งรับลมทะเลอยู่ข้างบ้าน โดยที่ชลธีนั้นเป็นคนอุ้มเธอมา ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าพิมพกานต์นั้นนั่งอยู่ด้านหน้าส่วนชลธีนั้นนั่งซ้อนอยู่ด้านหลังโอบกอดเอวบางไว้หลวม ๆ นั่งไกวขากันไปมา
“เมื่อวานพี่ลืมถามไปเลย ว่าข้าวไปมีดกับอาหารพวกนั้นมาจากไหน” ชลธีถามขึ้น ทั้ง ๆ ที่เขาก็พอรู้ที่มาที่ไปอยู่บ้างแล้ว
“เมื่อวานข้าวขึ้นฝั่งไปกับป้าสายแล้วก็เฟื่องค่ะ...ข้าวไปตักบาตรแล้วก็เดินตลาดต่อนิดหน่อย ก็เลยได้ของมา”
ได้ยินเธอว่าแบบนั้นชลธีเพียงพยักหน้าตอบรับเท่านั้น ก่อนจะเป็นฝ่ายถูกถามกลับคืนบ้าง
“แล้วพี่ธีร์ละคะไปไหน ข้าวกลับมาก็ไม่เห็นพี่ธีร์แล้ว”
“พี่ไปทำงานให้คุณธีร์น่ะ”
“ไม่ใช่งานอันตรายใช่ไหมคะ” แม้มันจะผ่านไปแล้ว แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่อันตรายครับ”
“โล่งอกไปทีค่ะ ข้าวคิดว่าคุณธีร์จะใช้พี่ธีร์ของข้าวทำแต่งานอันตราย ๆ ซะอีก”
“ครับ” ด้านชลธีเขาเพียงพูดตอบอย่างยิ้ม ๆ เท่านั้น ก่อนที่มุมปากจะกระตุกน้อย ๆ ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่เอาเรื่องตัวเองใช้งานตัวเองมาพูดให้เธอฟังแบบนี้ เพราะว่าเวลาที่เธอรับรู้ เธอก็มักจะแสดงสีหน้าไม่พอใจให้คุณธีร์ที่เธอเข้าใจว่าเป็นเจ้าของเกาะเสมอ แม้ว่าเธอจะแสดงความเป็นห่วงพี่ธีร์ของเธอด้วยก็ตาม แต่มันก็อดที่จะรู้สึกตงิด ๆ ในใจไม่ได้
...
“อะไร” หมอกถามขึ้นเมื่อได้รับมีดพกมาจากเฟื่องฟ้า สาวน้อยที่เขาเห็นมาตั้งแต่แบเบาะ
“มีดพกค่ะ”
“พี่รู้ แต่ว่าเราเอามาให้พี่ทำไม”
“เฟื่องอยากให้พี่เก็บไว้ใช้ค่ะ...” อดใจแป๋วไม่ได้เลย ที่เห็นท่าทีเฉย ๆ ของเขาหลังจากที่เธอมอบมีดให้ เธออุตส่าห์เลือกมาให้เขาอย่างดี นับวันรอว่าลุงคนขายจะมาขายวันไหน ทั้งยังควักเงินเก็บที่มีมาซื้อให้เขาอีก แต่เขากลับทำเมินเสียอย่างนั้น
“แต่พี่มีใช้แล้ว เราเก็บไว้เถอะ”
“ให้แล้ว ให้เลยค่ะ ไม่รับคืน!” พูดจบก็ยัดมันใส่มือเขาคืน ก่อนจะเดินหนีไปด้วยความหงุดหงิด ตาทึ่มเอ้ยทำขนาดนี้แล้วยังไม่รู้แล้ว อยู่กับคุณธีร์นานจนเป็นพวกไร้ความรู้สึกเหมือนกันแล้วรึไง!
