บท
ตั้งค่า

19 คืนเข้าหอ nc20+

หลังจากทำแผลให้ชลธีเสร็จ ด้วยความตั้งใจและเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยกลัวเขาจะเจ็บ พิมพกานต์ก็เอาอุปกรณ์ทำแผลทำกะละมังที่ใช้ชุบน้ำเช็ดเลือดที่ติดตามแขนของเขาไปทำความสะอาด

ก่อนจะกลับมาหาคนที่นั่งเปลือยอกรออยู่บนที่นอนสีขาว

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ” ชลธีเอ่ยถาม เมื่อหน้าเธอเหมือนมีอะไรในใจ และมีบางอย่างจะพูดกับเขาแต่ก็ไม่ยอมพูดมันสักที

“ข้าวรู้สึกไม่ดีค่ะ...”

“ครับ?”

“พี่ธีร์ไปทำงานเสียงอันตรายทั้งนั้นเลย วันก่อนก็ไปปีนเขา ปีนถ้ำเก็บรังนก วันนี้ก็ไปจัดการกับพวกลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายอีก”

“ส่วนข้าวแค่ไปทำงานที่โรงครัว แล้วก็กลับบ้านมานอนสบาย ๆ เหมือนข้าวเอาเปรียบพี่ธีร์เลย พี่ธีร์ทำงานทั้งหนักทั้งอันตราย แล้วแบบนี้เวลาพี่ธีร์ไปทำงานข้าวจะนอนหลับได้ยังไงกันคะ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก พี่ทำของพี่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดูสิพี่อยู่มาได้ถึงอายุสามสิบสี่แหนะ”

“พี่ไม่ยอมเป็นอะไรหรอกน่า ถ้ายังไม่ได้อุ้มลูก” ชลธีบอก

แต่คำพูดของเขามันเข้าหูเธอแค่เรื่องอายุเล่นเอาเขาหัวเสียไม่น้อย

“พี่ธีร์สามสิบสี่แล้วหรอคะ ข้าวคิดว่าพี่ธีร์สามสิบยี่สิบเก้าซะอีก”

“ทำไมครับ ไม่อยากมีผัวแก่หรอ”

“ไม่รู้สิคะ”

“...”

“งอนข้าวหรอคะ” เห็นเขาไม่ยอมพูดหลังจากที่เธอตอบไปแล้วพิมพกานต์ก็ขยับตัวไปใกล้ ๆ นั่งลงข้าง ๆ เขา ก่อนจะดึงมือเขามากุมไว้

“ถ้ามีลูกแล้วก็อยู่อุ้มลูกจนแก่เลยนะคะ” ว่าจบก็ยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอเขาไว้ก่อนจะเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน เรื่องที่เขาพูดเมื่อกี้เธอนั้นได้ยิน เพียงแต่อยากแกล้งเขาเท่านั้น...ส่วนเรื่องลูกเธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธอนั้นมีความพร้อมมากพอที่จะดูแลเด็กคนหนึ่งในเติบโตหรือไม่ แต่หากพ่อของลูกเป็นเขา เธอเชื่อว่าเขาจะเลี้ยงดูลูกได้ดี เธอเชื่อใจเขา เธอเชื่อมั่นในตัวเขา เธอเชื่อว่าเขาจะไม่ทำให้เธอผิดหวังเสียใจ รวมถึงลูกด้วย...

ส่วนเธอเองจากประสบการณ์ในอดีตที่เคยถูกทอดทิ้งจนเป็นเด็กกำพร้าที่โหยหาความรัก เธอจะไม่ยอมให้ลูกมีชะตากรรมเดียวกับเธอเด็ดขาด เธอจะไม่ยอมทิ้งลูกที่เธออุ้มท้องถึงเก้าเดือน เฝ้าทะนุถนอมดูแลเด็ดขาด จะมีเพียงความตายเท่านั้นที่พรากเธอไปจากลูกได้ และเธอเชื่อว่าหากเธอมีลูกจริง ๆ สัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอจะเลี้ยงดูฟูมฟักเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมีชีวิตที่ดี ได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อและแม่

อย่างที่เธอเคยได้รับจากแม่บัวของเธอ...

...เธออยาก อยากจะสร้างความครัวที่ดีและอบอุ่นไปกับเขา...

“อ่าส์” จากที่กำลังดูดดึงริมฝีปากกับเขาอยู่นั้นก็ต้องผละออกทันที ก่อนจะส่งเสียงครางน้อย ๆ เมื่อหน้าอกถูกเขาเคล้นคลึง ฝ่ามือหน้าสัมผัสกับเนินเนื้อนุ่มด้านบนของเธอโดยตรง เนื่องจากเธอนั้นไม่ได้สวมใส่ชั้นใน เพราะเมื่อกี้นี้ที่เอากะละมังไปเก็บเธอถอดมันออก...

เพราะรู้ดีอย่างไรวันนี้ก็คงไม่รอดพ้นมือเขา อีกอย่าง...เธอกับเขาก็แต่งงานเป็นผัวเมียกันแล้วสักวันเขาก็ต้องได้เห็น ได้จับต้องมันอยู่ดี

แม้จะเขินอายไปบ้างแต่เธอก็จะพยายามเพื่อเอาใจเขา หลังจากที่เมื่อเช้าป้าสายหยุดมาขัดจังหวะ

ริมปากหนาไล่ต่ำลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะดูดเม้มบนซอกคอขาว ส่วนฝ่ามือที่ว่างอีกข้างก็ลูบไล้ไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มของคนตัวเล็ก

ก่อนจะสอดเข้าไปใต้ผ้าถุงสีเข้ม และค่อย ๆ ผลักเธอในนอนราบไปกับที่นอน

“พี่ธีร์...” เสียงหวานซาบซ่านเปล่งออกมาเบา ๆ เมื่อนิ้วร้ายของเขารุกล้ำเข้ามาในส่วนสงวน ก่อนจะถูกริมฝีปากหน้าของเขาประกบปิดเอาไว้ ลิ้นร้อนของเขาไล่ดูดดึงกับลิ้นน้อย ๆ ของเธอ โดยที่นิ้วร้ายและฝ่ามือยังคงทำหน้าที่ของมันไม่หยุดหย่อน ก่อนจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะนิ้วร้ายที่คอยผลุบเข้าผลุบออกในจุดอ่อนไหวของเธอ

ด้านชลธีนั้นเขาไม่อาจทนฝนเสียงหวานของเธอที่คอยครางชื่อเขาเป็นระยะ ๆ ได้อีกต่อไป จึงต้องใช้จูบแสนร้อนแรงปิดกั้นมันเอาไว้ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะปลุกซาตานร้ายในตัวเขาขึ้นมา อารมณ์รุนแรงที่เขาพยายามข่มมันไว้เพื่อไม่ให้เธอตื่นกลัว มันกำลังจะระเบิดออกมาในไม่ช้า หากเธอยังไม่หยุดครางเสียงหวานกระสั่นนั้น

เขาไม่คิดเลยว่าร่างกายของเธอจะมีอิทธิพลต่อเขามากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ได้แต่ต้องตัวเขาเลยด้วยซ้ำ เธอแค่จูบกับเขาแก่นกายเขาก็ลุกชูชันแล้ว ทั้งมันยังพองขยายออกขับแน่นกางเกงชั้นใน เพียงแค่ได้ยินเสียงครางหวาน ๆ ของเธอเท่านั้น

กางเกงตัวยาวถูกถอดออกและชั้นใน ถูกโยนทิ้งอย่างไม่รู้ทิศทางเพื่อให้ลูกชายได้ออกมาสูดอากาศหายใจ ก่อนจะถอดผ้าถุงและเสื้อคอกระเช้าของคนตัวเล็กด้วย ส่วนพิมพกานต์นั้นเพราะมัวแต่หลงมัวเมาในรสจูบและสิ่งที่เขาปรนเปรอให้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าของตัวเองสัมผัสกับที่นอนแล้ว ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อในทันทีเมื่อช้อนสายตาขึ้นมองแล้วปะทะเข้ากับแผงอกเปลือยเปล่าของเขาอย่างพอดิบพอดี ไล่ต่ำลงมาเรื่อย ๆ ก็พบกับแท่งรักของเขาที่ตั้งโด่ขึ้นมาทักทายตัวเองอยู่

“หึ” เห็นท่าทางเขินอายของเธอแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะในใจ ทำเหมือนกับว่าไม่เคยเห็น ทั้ง ๆ ที่ตัวเองนั้นก็กร้านโลก เธอแสดงว่าตัวเองไร้เดียงสาแนบเนียนเสียจนเขาเกือบจะหลงเชื่อ หากไม่ใช่เพราะเธอนั้นฆ่าพี่ชายและพี่สะใภ้เขาและหลบหนีพร้อมกับปกปิดหลักฐานทุกอย่างเขาคงเชื่อสนิทใจ ‘เก่งจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้’

“ทำความรู้จักไว้สิครับ” พูดพร้อมกับดึงเอามือวางของเธอไปวางไว้บนแท่งร้อนของตัวเอง ก่อนจะชักนำมือเธอให้ลูบไล้เบา ๆ

ถ้าเธอแสดงเก่ง เขาเอง...ก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าเธอเช่นกัน

“แบบนี้ใช่ไหมคะ” ได้ยินเสียงทุ้มครางต่ำขอเขาแล้ว เธอก็ตั้งใจทำตามที่เขาบอก เห็นเขาดูเสียวซ่านทรมานอย่างที่ตัวเองเคยเป็นเธอก็ยิ่งฮึกเหิมได้ใจ มือเล็กโอบรอบแก่นกายของเขาได้ไม่สนิทด้วยขนาดที่ใหญ่ของเขา เธอจึงใช้อีกมือเข้าช่วย พร้อมกับคอยสังเกตสีหน้าของเขาไปด้วย เมื่อเห็นเขาขบกรามแน่น ราวกับว่าทรมานจากสิ่งที่เธอทำ เธอจึงเพิ่มความเร็วมากขึ้นไปอีก และเสียงทุ้มต่ำของเขาก็ดังขึ้นเป็นระยะ บ่งบอกได้อย่างดีว่าเขานั้นกับรังทรมานและรู้สึกดีกับสิ่งที่เธอทำ ริมฝีปากบางยกยิ้มอยากพอใจ ก่อนจะค่อย ๆ หุบลง เมื่อข้อมือบางของตัวเองถูกเขารับไว้ด้วยมือข้างเดียว กันจะยกไปไว้ให้มันอยู่เหนือหัว

“พอก่อนครับ”

“ข้าวทำไมดีหรอคะ” พิมพกานต์เอ่ยถามเสียงเศร้าด้วยความสงสัย เมื่อคิดว่าตัวเองคิดไปเองว่าเขาชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ แต่พอเห็นเขาส่ายหัวก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นมากบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ถ้าเขารู้สึกดี แล้วเขาจะให้เธอหยุดมันทำไม...

“ถ้าเรามัวแต่ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่ลูกชายพี่จะมาเกิดล่ะครับ” พูดพร้อมกับมองลึกเขาไปในดวงตากลมใสของคนใต้ร่าง

“พี่ธีร์”

“พร้อมนะครับ”

“ค่ะ...” เมื่อจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของเขาแล้วก็เหมือนตัวเองถูกสาป พยักหน้าตอบตกลงเขาอย่างบื้อใบ้ก่อนจะยกมือขึ้นคล้องคอเขาโดยอัตโนมัติ

หลังจากได้ยินเธอตอบตกลงชลธีร์ก็ไม่รอช้า มือหนาเคลื่อนตัวมาโอบรอบแก่นกายตัวเองไว้ ชักรูดอีกอยู่สองสามที ก่อนจะค่อย ๆ ส่งเข้าไปยังปากทางสีหวานที่ยังรักปิดสนิทขนาดว่าพึ่งถูกนิ้วเรียวยาวของเขารุกล้ำเมื่อครู่ เพราะคิดว่าเธอคงผ่านมือชายใดมาบ้างแล้ว ทำให้เขาไม่ได้ทะนุถนอมเท่าที่ควรอย่างที่แสดงออกในตอนแรก

“อ้ะ พี่ธีร์คะ...ข้าวเจ็บ” ใบหน้าหวานเหยเกทันที เมื่อเขาแทงพรวดเขามาที่เดียว หยาดน้ำตาเม็ดเล็กซึมออกจากหางตา

“พี่ขอโทษ อดทนหน่อยนะทูนหัว” เยื่อบาง ๆ ที่พึ่งข้ามผ่านมาทำให้ชลธีได้สติ ก่อนจะเอ่ยปลอบคนตัวเล็ก พร้อมทั้งยืนมือไปเช็ดน้ำตาที่คลออยู่ออกให้ ก่อนจะรีบชักมือกลับเมื่อคิดได้ว่าเขาไม่ควรจะใจดีกับเธอมากเกินไป แต่สิ่งที่พึ่งผ่านมานั้นมันทำให้เขาสับสนอยู่ไม่น้อย ทำไมมันยังอยู่ ผู้หญิงอย่างพิมพกานต์สิ่งนี้...มันไม่ควรเหลือรอดมาถึงเขาสิ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันถือว่าแผนการครั้งนี้เขาได้กำไรอยู่บ้าง ทั้งยังไม่ต้องเสี่ยงจะเจอโรคอย่างที่เคยกังวล

เมื่อหาเหตุผลตอบรับกับสิ่งที่เจอได้แล้ว แท่งร้อนที่เข้าไปได้เพียงครึ่งลำก็แทงพรวดเขาไปจนสุด พร้อมกับใช้ปากหนาประกบปิดริมฝีปากบางไว้ เพื่อปิดกันเสียงร้องระบายความเจ็บปวดของหญิงสาวใต้ร่าง

ความอ่อนนุ่มที่คอยบีบรัดเอ็นอุ่นของเขา เล่นเอาชลธีทรมานไม่น้อย

ก่อนจะค่อย ๆ ขยับช้า ๆ เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มจะพร้อมบ้างแล้ว

มือหนาก็คอยนวดคลึงอกอวบของเธอไปด้วย เพื่อให้เธอมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น เพราะแบบนี้ไม่ใช่แค่เธอที่เจ็บ เขาเองก็เจ็บการเสียดสีที่ไม่มีน้ำหล่อลื่นเช่นกัน แม้ว่าเธอจะมีน้ำหวานออกมาบ้างแต่มันก็ยังไม่เพียงพอ สำหรับอารมณ์รุนแรงของเขา

ด้านพิมพกานต์นั้นจากที่คล้องคอเขาอยู่ก็เลื่อนมาจิกบ่าของเขาไว้แทนเพื่อระบายความเจ็บปวดที่ได้รับ ก่อนจะเปล่งเสียงครางหวานออกมาเมื่อความเสียวซ่านเริ่มเข้ามาแทนที่ ขาเรียวถูกเขาเกี่ยวรั้งไว้ที่เอวสอบ พร้อมกับเอ็นอุ่นร้อนของเขาที่อัดกระแทกเข้ามาเน้นหนักและลึก

เอวหนาของเขาหมุนควงไปมาทำเอาเธอเสียวซ่านไม่น้อย

“อาส์พี่ธีร์ ข้าว...”

พับ พับ พับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วบ้านหลังน้อยริมทะเลที่ห่างไกลผู้คน สองร่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างไม่สนใจว่าจะมีใครเดินผ่านมาแถวนี้หรือไม่หรือหากมีก็เชื่อว่า ณ เวลานี้พวกเขาก็คงจะไม่อะไรอีกแล้ว พวกเขาทำเหมือนคืนนี้เป็นคืนเข้าหอคืนแรกก็ไม่ปาน ซึ่งหากจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้วมันก็เป็นอย่างนั้น

เพราะในที่สุดเนื้อกวางตัวน้อยที่เฝ้ารอมาก็เข้าปากเสือร้ายอย่างชลธี ซึ่งเนื้อของมันก็หอมหวานเกินกว่าที่เขาคาดคิดไปมาก เพราะงั้นกวางน้อยตัวนี้จึงถูกเสือร้ายจับกินจนอิ่มหนำ จนนอนหอบหายใจแล้วเขาก็ยังไม่หยุดมัน

“แฮ่ก แฮ่ก พะ พี่ธีร์คะ ข้าวไม่ไหวแล้วคะ” เขาพาเธอสุขสมไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่เขาพึ่งปลดปล่อยไปเพียงสอง แม้จะอยากให้เขามากกว่านี้ แต่ตอนนี้ร่างกายเธอไม่ไหวแล้ว

พับ พับ พับ เมื่อความปรารถนาที่เคยซุกซ่อนไว้พุ่งขึ้นสูงจนกู่ไม่กลับ ทำให้ชลธีหลงลืมตัวตนที่ปิดบังไว้ไปชั่วขณะ เอวสอบอัดเข้ากายสาวรุนแรงอย่างไม่สนใจเสียงหวานที่เอ่ยร้องขอให้เขาหยุด ได้สติอีกทีก็ตอนที่เมล็ดพันธุ์ของตัวเองหลั่งไหลเข้าไปในตัวเธอทุกหยาดหยดอีกครั้ง ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ทั้งอย่างนั้นโดยไม่ยอมถอดถอนตัวตนออก

“หึ” ดวงตาคมแข็งกร้าวจ้องมองใบหน้าหวานที่เปลือกตาปิดสนิท หยาดเหงื่อเกราะพริ้มพรายตามใบหน้า แต่เขาก็เมินเฉยไม่คิดที่จะเช็ดออกให้

ชลธีในตอนนี้ ไม่เหมือนกับชายหนุ่มแสนดีที่คอยดูแลเอาใจใส่พิมพกานต์อย่างวันวานแม้แต่น้อย แววตาเขาดูน่ากลัวไม่เหลือเค้าโครงความอ่อนโยนที่เคยใช้มองเธอเลยสักนิดเดียว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel