การเริ่มต้น1
ณ บ้านหลังหนึ่งในชนบท
“พ่อครับ แม่เป็นยังไงบ้าง” ลูกชายคนโตถามพ่อด้วยความร้อนรน หลังจากกลับมาจากแปลงนาพบว่ามารดานั้นเป็นลมอยู่กลางลานบ้าน
“แม่แกไม่เป็นอะไรแล้วหมอเฉินบอก พักสักสองสามวันเดี๋ยวก็กลับมาแข็งแรง แกไปกินข้าวเถอะเดียวพ่อดูแม่แกเอง” คนเป็นพ่อตอบลูกชายไป ที่ภรรยาเขาหมดสติไปเป็นเพราะร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่คลอดลูกชายคนสุดท้อง เพราะไม่ได้รับการบำรุงหลังคลอด ทั้งยังต้องลงแปลงนาทันทีที่คลอดลูกชายไม่ถึงสามวัน ร่างกายเลยป่วยออดๆ แอดๆ มาตลอด
ทางด้านเมษา ได้เข้าร่างมาได้สักพักก็รู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาเห็นผู้ชายสองคนคุยกันอยู่ “อะ อืมม”
“คุณ!! เป็นยังไงบ้างเจ็บปวดตรงไหนหรือเปล่า” คนเป็นสามีถามภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของตนด้วยความเป็นห่วง “มะ..โอ๊ย!!” จังหวะที่เธอจะหันไปตอบ ก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา แล้วก็มีความทรงจำของคนคนหนึ่งผุดเข้ามาเหมือนน้ำหลาก เป็นความทรงจำของเจ้าของร่างตั้งแต่จำความได้จนถึงปัจจุบัน หลังจากความทรงจำเข้ามาจนครบเธอก็หมดสติไปทันที
“ถิงถิง!! อู่ถิงถิง” ฝ่ายสามีเรียกภรรยาด้วยความตกใจ ฝั่งเหล่าลูกชายได้ยินเสียงตะโกนของพ่อก็รีบวิ่งเข้ามาดูที่ห้องใหญ่ที่เป็นห้องนอนของพ่อแม่ “พ่อเกิดอะไรขึ้น แม่เป็นอะไร”
“อาหยางรีบไปตามหมอมาเร็ว ไม่รู้แม่แกเป็นอะไร เมื่อกี้แม่แกฟื้นขึ้นมาแล้วร้องเหมือนเจ็บปวดมาก”
“ครับๆ ผมจะวิ่งไปเดียวนี้” ลี่หยางวิ่งออกไปตามหมอเฉินอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว ดีที่หมอเฉินหมอเท้าเปล่าประจำหมู่บ้านยังเดินออกมาไม่ไกล เลยกลับมาได้ในเวลารวดเร็ว
“มาแล้วๆ หมอมาแล้ว” พอถึงบ้านหมอเฉินก็เร่งรีบเข้าไปตรวจคนไข้ทันที
“เธอไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วแหละ ที่ปวดหัวก็คงเพราะอาการป่วยไข้ กินยานี้วันสองวันก็หาย” หมอเฉินบอก
“ครับขอบคุณมากครับ นี้ครับคำค่าเสียเวลา” คนพ่อยื่นเงินให้หมอเฉินไปอีก 5 เหมา เงินจำนวนนี้ไม่มากแต่ก็ถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับยุคนี้ “อาหมิงไปส่งหมอเฉินหน่อยให้พี่แกพักบ้าง เดียวพ่อจะเช็ดตัวตัวให้แม่แกเอง"
“ครับพ่อ เดียวผมไปส่ง” หลังจากที่ลูกชายไปส่งหมอเฉิน ทั้งแยกกันไปพักผ่อน คนพ่อก็มานั่งเช็ดตัวให้ภรรยาตัวเอง พลางคิดถึงแต่ก่อนเก่า เมื่อไรนะที่ภรรยาเขาเปลี่ยนไป จากคนที่นิ่งเงียบ กลายเป็นคนปากร้าย รายกาจตั้งแต่เมื่อไรกัน ลูบหน้าลูบแก้มภรรยาสักพัก แตรเวลาเรียกไปทำงานก็ดังขึ้น จากนั้นเขาก้มลงหอมหน้าผากภรรยาคนที่นอนหลับแล้วลงแปลงนาต่อ
ด้านเมษารู้สึกตัวตั้งแต่โดนสามีเจ้าของร่างลูบแก้มแล้ว ได้แต่นอนเขินอายหลังจากโดนหอมหน้าผากไปหนึ่งที ถึงแม้สามีเจ้าของร่างจะมีริ้วรอยตามกาลเวลาแต่เค้าความหล่อนั้นไม่ได้จางหายไปเลย ถ้าได้บำรุงด้วยน้ำในมีตินี้คงหล่อคมเข้มน่าดู
หลังจากฟื้นขึ้นมาเมษาก็ได้ทบทวนความทรงจำของเจ้าของร่าง ร่างนี้ชื่อ อู่ถิงถิง อายุ 37 แต่งงานกับเหอลี่ถัง อายุ 39 ถึงแม้ทั้งคู่จะอายุแค่สามสิบปลายๆ แต่ก็ดูแกกว่าอายุเพราะทำงานหนัก ตั้งแต่เด็ก ทั้งสองแต่งงานกันตั้งแต่ อู่ถิงถิงอายุ ยังไม่ถึง15เต็ม เพราะโดนคนเป็นย่าขายให้เป็นเจ้าสาวเด็กของบ้านเหอ ก่อนแต่งงานอยู่บ้านอู่ก็ลำบากเพราะบ้านนั้น เป็นปิตาธิปไตย รักหลานชายมากกว่าหลานสาว ตั้งแต่จำความได้ก็ต้องทำงานอย่างหนัก พ่อก็แม่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะแม่ของเจ้าของร่างมีเธอเป็นลูกสาวคนเดียว
จนกระทั่งเธอแต่งงานได้ไม่นานแม่ก็มีลูกชาย ตั้งแต่แต่งงานเธอก็ไม่เคยได้กลับบ้านเลยสักครั้ง เพราะบ้านเหอหาภรรยาให้ลูกชายก็แค่เพราะต้องการคนรับใช้ เธอต้องทำงานแทบทุกอย่างในบ้านทั้งยังต้องลงแปลงนา ถึงแม้ว่าจะจะท้องโตใกล้คลอดแล้วก็ตาม อู่ถิงถิง คลอดลูกคนแรกเป็นแฝดชายตอนอายุ 15 คลอดลูกได้ไม่กี่วันเธอก็ต้องลงทำงานที่แปลงนา สองปีถัดมา เธอคลอดลูกชายอีกคน คนสุดท้องนี้เกือบจะไม่ได้เกิดมา เพราะตัวเจ้าของร่างยังเด็กทั้งยังไม่ได้กินอาหารที่ดี ไม่ได้บำรุงร่างกาย ทำให้เธอนั้นตกเลือดจนเกือบแท้งลูกเพราะต้องไปหาบน้ำให้คนทั้งบ้านใช้ อีกทั้งลูกของเธอก็ต้องทำงานตั้งแต่สองขวบ
ถึงแม้ว่าอู่ถิงถิงจะมีหลานชายให้ถึงสองคนแม่สามีก็ไม่ชอบอยู่ดีแค่เพราะเธอเป็นลูกสะใภ้ที่โดนขายมา ไม่มีสินทรัพย์เดิมติดตัวเหมือนสะใภ้คนอื่นๆ ครั้งที่อู่ถิงถิงตกเลือดเป็นวันที่เหอลี่ถังหมดความอดทน ขอแยกบ้าน ทำงานแทบตายแต่ครอบครัวได้กินของเหลือที่มีน้อยนิดของบ้านใหญ่
ตอนแยกบ้านมาทั้งสองแทบจะไม่มีอะไรติดตัวออกมาเลยนอกจากเสื้อผ้าเก่าๆ คนละสองชุด หลังจากได้ที่ดินสร้างบ้าน ยังดีที่พ่อ,พี่ชาย และน้องชายมาช่วยสร้างกระต๊อบไม้ไผ่หลังเล็กให้อยู่ก่อน เหอลี่ถังไม่ใช่คนโง่ เขาแอบเงินบางส่วนไว้หลังจากเอาสัตว์ที่ล่าได้ไปขาย หลังจากแยกบ้านได้ไม่นางอู่ถิงถิงก็คลอดลูกชายให้อีกคนหลังคลอด อู่ถิงถิงเกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกันเพราะร่างกายไม่แข็งแรงไม่มีแรงเบ่งคลอด หลังจากนั้นเหอลี่ถังก็ไม่ให้ภรรยาลงแปลงนาอีกเลย
ตลอดเวลาแยกบ้านก็โดนแม่สามีมารังควานหยิบนั้นนี่ไปตลอดแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคำว่ากตัญญูมันค้ำคอ แต่หลังจากลูกของสะใภ้ใหญ่ทำร้ายลูกชายของเขาจนเลือดตกยางออกแล้วยังมาโทษว่าลูกเขาผิดที่ไม่แบ่งของกิน เลยได้มีการทำหนังสือตัดขาดเป็นตายไม่ยุ่งเกี่ยวกันขึ้นมา
หลังจากนั้นครอบครัวเจ้าของร่างก็ใช้ชีวิตอย่างปกติ
อู่ถิงถิงกับเหอลี่ถัง มีลูกชายทั้งหมด 3 คน
ฝาแฝดปัจจุบันอายุ 22 ปี
แฝดคนพี่ชื่อ เหอลี่หยาง แต่งงานกับ กั๋วซู่หนี ปัจจุบันอายุ 23 ปี ทั้งคู่แต่งงานตอนลี่หยางอายุเพียง 17 ปี ที่ต้องรีบแต่งเพราะน้องคนสุดท้องบอกว่าตนกับผู้หญิงในเมืองที่คบหาดูใจต้องการแต่งงานโดยเร็วเพราะได้ทำผู้หญิงเสื่อมเสียชื่อเสียงไปแล้ว ด้านเจ้าของร่างเก่าต้องการให้พี่คนโตแต่งงานก่อนเลยรีบหาเมียให้ลูกแบบเร่งด่วน ทั้งสองจึงได้แต่งงานกัน เพราะลูกชายยื่นคำขาดไว้ว่าถ้าไม่ใช่กั๋วซู่หนี ตนจะไม่แต่ง แม่ก็ได้แต่จำยอม
ส่วนคนรอง เหอลี่หมิง หนีไปเป็นทหารตั้งแต่อายุ 15 เพราะต้องการหาเงินเพิ่มให้ครอบครัว เพราะความเก่งและขยันทำให้สามารถเลื่อนขั้นภายในเวลาแค่ปีเศษ ส่งเงินมาให้มารดาเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 40 หยวน ยังไม่รวมเงินภารกิจพิเศษ ทำให้บ้านสามเหอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแบบฉับพลันสามารถสร้างบ้านอิฐหลังคามุงกระเบื้อง 5 ห้องนอนได้ ลี่หมิงกลายหนุ่มเนื้อหอมของคนในหมู่บ้าน และหมู่บ้านข้างเคียงเป็นอย่างมาก หลังจากไปเป็นทหาร สี่ปีกลับบ้านครั้งแรก ลี่หมิงก็โดนยุวชนหญิงล้มทับ จนมีคำนินทามากมายจึงทำให้ทั้งสองจำเป็นต้องแต่งงานกันเพราะทั้งสองได้ถูกเนื้อต้องตัวกันแล้ว ผู้คนนินทาว่า ยุวชน หูเย่วเลอ ต้องจับลี่หมิง แต่ที่ไม่มีใครรู้ความจริงคือยุวชนหญิงลูกคู่ของฟางหรงต่างหากที่วางแผนจับลี่หมิง แต่ดันพลาดท่ากลายเป้นหูเยวเลอที่ต้องเป็นคนผิดแทน
คนสุดท้อง เหอลี่เฉียว ปัจจุบันอายุ20 หลังจากสร้างวีรกรรม แล้วแต่งงานกับ อวี่ฟางหรง ปัจจุบันอายุ 20 ปี ถือว่าเป็นสาวสวยของโรงเรียน แถมทั้งคู่ยังเรียนจบมัธยมในเมือง หลังจากสะใภ้สามแต่งงานได้ไม่นานก็ตั้งท้องคลอดหลานชายให้แม่เหอ ผิดกับสะใภ้ใหญ่แต่งงานมาเป็นปีก็ยังไม่มีลูกสักที แต่มีลูกคนแรกดันเป็นผู้หญิง การเป็นอยู่ในบ้านเลยไม่ค่อยดีสักเท่าไร ปีถัดมาสะใภ้ใหญ่ก็ได้ลูกสาวอีกเลยยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ส่วนสะใภ้สามก็มีหลานชายให้แม่เหออีกหนึ่งคน หลังจากสะใภ้รองแต่งเข้ามาก็ท้องทันทีคลอดลูกสาว เนื่องจากได้แต่งงานเข้ามาด้วยความไม่ถูกต้องจึงมีการเป็นอยู่ที่แย่ยิ่งกว่าสะใภ้ใหญ่
แม่เหอแต่ก่อนนั้นไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเพราะนอกจากโดนยุยงจากสะใภ้สามสุดเจ้าเล่ห์บวกกับเป็นคนหัวอ่อนหูเบา และประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาจึงทำให้แม่เหอเป็นคนเลวร้ายกดขี่ลูกสะใภ้ทำตัวเป็นปิตาธิปไตย์เหมือนที่ตัวเองเกลียดนักหนา รักหลานชายยิ่งกว่าเหมือนดั่งที่ตัวเองเคยเกลียด ยังดีที่พ่อเหอเป็นคนเท่าเทียม การเป็นอยู่ของหลานสาวจึงไม่แย่มากมายนัก ถึงแม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจะปากร้ายขี้งก แต่ว่าเป็นคนขยันสามีไม่ให้ลงแปลงนา เธอก็ไปเก็บผักป่าแลกแต้มแทนต่อวันเธอทำได้ถึง 5 แต้ม ที่เจ้าของร่างเสียชีวิตเพราะโหมงานแต่ทานน้อยเลยหัวใจวายเสียชีวิต
“อืม ครบ มาครบเลยตำราแม่ผัวมหาประลัย แถมยังไวไฟกันทั้งบ้าน” เมษาบ่นกับตัวเองเบาๆ
“อะ ในเมื่อเรามีวาสนาต่อกันแล้วเธอไม่ต้องห่วงทางนี้นะ ฉันจะดูแลทุกคนเอง” หลังพูดจบก็มีสายลมเย็นๆ พัดมาเบาเหมือนกับว่าอู่ถิงถิงคนเก่านั้นได้รับรู้แล้ว
“เอาวะชาติที่แล้วต้องทำแต่งานเลยพรากชีวิตวัยเด็กไป แถมไม่เคยมีผัว ชาตินี้ก็ไม่ต่าง ต่างตรงที่เกิดแล้วแก่เลย แถมสามีกับลูกชายพร้อมใช้มาให้ งั้นสำรวจบ้านก่อนแล้วกัน น่าจะได้เวลาเลิกงานกันแล้ว”
ตามความทรงจำบ้านหลังนี้ เป็นบ้านอิฐมุงกระเบื้องอย่างดีพึ่งสร้างได้ไม่นาน ลูกชายคนกลางเธอคะยั้นคะยอให้สร้างใหม่ พื้นที่ประมาณสองหมู่ กำแพงล้อมรอบบ้านมิดชิดสูงถึง 2 เมตร ลักษณะบ้านจะเป็นรูปตัวยู ตรงกลางเป็นหน้าลานบ้านด้านซ้ายจะเป็นห้องนอนสองห้อง ถัดจากห้องนอนจะเป็นห้องเก็บธัญพืช ตรงกลางเป็นห้องครัวและพื้นที่โต๊ะอาหาร ถัดจากห้องอาหารไปทางขวาจะเป็นห้องนอนใหญ่ จะเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน ในห้องจะมีเตียงเตาหลังใหญ่ ตู้เสื้อผ้าหนึ่งหลัง ดูเก็บของอีกหนึ่งหลัง มีโต๊ะอเนกประสงค์ด้วย ห้องนี้จะเป็นห้องของเจ้าของร่างคนเก่ากับสามี ส่วนตรงปีกซ้ายจะมีห้องนอนอีกสองห้อง หน้าบ้านจะมีโต๊ะนั่งเล่น มีต้นทับทิมและต้นแอปเปิลอยู่ข้างประตู หลังบ้านฝั่งซ้ายจะเป็นคอกหมูกับคอกไก่ แล้วก็แปลงผักยาวไปเกือบสุดกำแพง กำแพงอีกฝั่งจะมีต้นลูกพีช และต้นสาลี่ อย่างละสองต้น ตั้งแต่ลูกชายขุดมันมาจากภูเขามันออกผลแค่ครั้งเดียวเท่านั้นแถมยังออกน้อยมากๆ
สำรวจบ้านจนพอใจเธอก็เข้าไปสำรวจครัวต่อ เครื่องปรุงนั้นน้อยแสนน้อย เพราะเจ้าของเดิมนั้นขี้งกมาก อยู่ดีความทรงจำวันนี้ก็แวบเข้ามา ว่ายายสะใภ้สามกลับบ้านเดิม แอบเอาข้าวของที่บ้านไปให้ทางโน้น เจ้าของเดิมรู้แต่ทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งแค่เพราะหล่อนเป็นคนในเมือง
“อะ!! อันดับแรกจัดการอีช่างยุนี่ก่อนเลย ปฏิวัติลูกหลานก่อนเลยหลานชายละอ้วนเหมือนหมู แต่หลานสาวเหมือนถั่วงอกขาดน้ำ” เธอพูดพลางเอาข้าวขาวออกมาต้มทำโจ๊กข้นๆ ใส่ผงวิเศษเล็กน้อยพอให้มีรสชาติ ระหว่างเคี่ยวโจ๊กเธอ ก็นำไข่ออกมาต้ม นำขิงและต้นหอมผักชีมาซอยกินแกล้มกัน
“ผู้ใหญ่คนละฟอง หลานสาวก็คนละฟอง ส่วนเด็กผู้ชายพวกนั้นน้ำหนักเกินแล้วครึ่งฟองพอ ส่วนอีช่างยุครึ่งฟองเหมือนกัน ฮึๆ” เธอทำไปบ่นไป หลังจากทำกับข้าวเสร็จก็ออกไปเตรียมน้ำไว้รอคนทำงาน
พ่อ เหอลี่ถัง (39)
แม่ อู่ ถิงถิง (37)
คนโต เหอลี่หยาง (22) เมีย กั๋วซูหนี (23) ลูก เหอเจียวเจีย (4ญ) เหอเจี๋ยวลู่ (3ญ)
คนรอง เหอ ลี่หมิง (22) เมีย หูเยลเล่อ (20) ลูก หูเย่วชิน (2ญ)
คนเล็ก เหอลี่เฉียว (20) เมีย อวี่ฟางหรง (20) ลูก เหอลี่ซือ (5ช) เหอลี่หลิน (3ช)
