ตอนที่ 7 ร่อนทอง
รับประทานอาหารเสร็จปรารถนาก็เดินตามหาผึ้งตัวนั้น เอ่ยปากเรียกนางเสียงเบา “วราลี”
“อีอะไอ” เสียงที่ตอบมานั้นไม่ชัดนัก ปรารถนายังมองไม่เห็นตัวมัน “อ้าอู่อี้” วราลีพูดขึ้นอีก
ปรารถนาแหงนมองขึ้นไปชายคาที่มีเศษหญ้าโผล่ออกมา นางยกมือเท้าเอวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ให้กับความดูดน้ำหวานจากดอกไม้ของผึ้งน้อยวราลี กระนั้นก็ยังถามออกไป “เจ้าทำอะไร”
วราลีหยิบดอกไม้ออกจากปาก “กินข้าวเช้า ช่วงนี้ข้าต้องเร่งสร้างรังใหม่”
“อ้อ” ผึ้งยังต้องทำงานหนักเหมือนคน “กินใกล้เสร็จยัง ข้าจะออกเดินทางแล้วนะ ตอนบ่ายมีงานต้องทำอีกมาก”
“ข้ารู้ ท่านใจเย็น ๆ อย่างไรวันนี้ท่านก็ได้ทองไปขายอย่างแน่นอน”
“งั้นก็รีบ…”
“ท่านแม่” นางยังพูดไม่จบลูกสาวก็เรียกเสียก่อน
ปรารถนาทำหน้าเลิ่กลั่ก วราลีจึงเอ่ยบอก “ท่านสื่อสารกับข้าทางจิตก็ได้”
‘อือ’
นางหันไปมองลูกสาวลูกชายที่จูงมือเดินตามกันมา “เจ้าสองคนมีอะไร”
“ท่านแม่จะพาพวกข้าไปร่อนทองตอนไหนเจ้าคะ”
“อืม” นางคิดก่อนถามวราลีทางจิต ‘เจ้ากินข้าวเสร็จหรือยัง’
‘เสร็จแล้ว พวกท่านเดินตามข้ามาเลย’
ปรารถนาเตรียมอุปกรณ์ในการร่อนทองเสร็จจึงเดินตามผึ้งไป
มีคนเริ่มมาร่อนทองมากแล้ว ทุกสายตาต่างมองมาที่นางกับลูกและมีเสียงซุบซิบกันเกิดขึ้น
“วันนี้ขอทานมาร่อนทองด้วย”
“ไม่มีทางได้หรอก ตอนนี้ทองหายากจะตาย”
“กลับไปเป็นขอทานตามเดิมน่ะดีแล้ว”
ทุกคำปรารถนากับลูกย่อมได้ยิน แต่นางหาได้สนใจไม่
เดินมาไกลจากผู้คนมากวราลีจึงกล่าวออก ‘ตรงนี้แหละ’
ปรารถนาไม่ถามสิ่งใดอีก นางรีบทำการร่อนทองทันที ส่วนลูกนั่งรออยู่บนริมฝั่ง ผ่านไปราวยี่สิบนาทีนางจึงเห็นทอง
“ได้แล้ว” ปรารถนาตาโต มีทองก้อนเท่านิ้วก้อยอยู่สองก้อนและก้อนเล็ก ๆ อีกหลายก้อน
“ข้าอยากดูเจ้าค่ะ” ปิ่นกับปืนชะเง้อหน้ามองอย่างตื่นเต้น ปรารถนาให้ลูกชมดูแล้วเก็บทองไว้ในห่อผ้า
‘อีกสักครั้งก็กลับได้แล้ว วันหลังค่อยมาหาอีก มันมีอีกไม่มากนัก’ วราลีที่เกาะอยู่บนไหล่ปรารถนาเอ่ยบอก ทองที่ขนาดเท่านิ้วก้อยมีอีกไม่กี่ที่เท่านั้น นอกนั้นก็มีประปรายและค่อนข้างหายาก ถ้าไม่มีอาชีพอื่นรองรับย่อมไม่ได้
‘ได้’ ปรารถนาตอบกลับในใจ
ได้ทองตามที่ต้องการแล้วปรารถนาจึงพาลูกเอาอุปกรณ์ไปเก็บที่บ้าน
นางเตรียมจะออกไปตลาดก็มีเสียงดังมาจากรั้วข้างบ้าน “แม่นางปักเจ้าไปไหนมารึ”
ปรารถนาหันมองตามเสียง แววตาของคนถามดูหวาดหวั่นเล็กน้อย คงเพราะเกรงว่าจะโดนปรารถนาตวาดกลับ แต่รอบนี้ปรารถนากลับยิ้มออกมาแล้วตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ข้าไปร่อนทองมา กำลังจะเข้าตลาดเจ้าค่ะ ท่านน้ามีสิ่งใดหรือไม่”
“เปล่าหรอก ข้าแค่สงสัยว่าวันนี้เจ้ากับลูกไม่ไปขอทานหรือ” รุ้งถามออกไปอย่างเป็นมิตร
“ไม่ไปเจ้าค่ะ ข้ากับลูกเลิกเป็นขอทานแล้ว” ที่ผ่านมารุ้งเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของนางคนหนึ่ง เพียงแต่ปรารถนาคนก่อนพูดจาไม่ดีด้วยเท่านั้น รุ้งอายุสามสิบสี่ปีแล้ว เป็นแม่ม่ายลูกสองเหมือนกับนาง สามีถูกฟ้าผ่าตายจากไปตั้งแต่สามปีที่แล้ว รุ้งมีลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่งชื่อแก่นกับแก้วอายุสิบสองปีและสิบปีตามลำดับ สามแม่ลูกมีอาชีพรับจ้างทั่วไป บางครั้งก็ตัดฟืนและเผาถ่านไปขายให้กับเถ้าแก่เจ้าของนาเกลือ บางครั้งก็ไปร่อนทองขายเหมือนกับชาวบ้านคนอื่น ๆ เพราะที่ทำกินส่วนตัวไม่มี
“อ้อ เป็นเช่นนั้น” รุ้งรู้สึกดีไม่น้อยที่วันนี้ปรารถนาตอบกลับมาดี ๆ
“ข้าไปตลาดก่อนนะเจ้าคะ”
“ไปเถอะ วันนี้ข้ากับลูกก็จะไปตัดฟืนเช่นกัน” ยังดีที่แก่นกับแก้วสามารถช่วยงานแม่ได้มากแล้ว จึงทำให้ครอบครัวนี้ไม่ลำบากมากนัก อย่างน้อยก็ดีกว่าครอบครัวของนางกับลูก