บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 อยากหาเงินไปรักษาแม่

        เกี่ยวข้าวได้ราวหนึ่งชั่วโมง สายน้ำรู้สึกว่าเหนื่อยมาก เขาจึงเดินเข้าไปพักใต้ร่มไม้ แต่แสนดียังคงตั้งหน้าตั้งตาเกี่ยวข้าวต่อ ผ่านไปราวยี่สิบนาทีชาญชัยจึงพูดกับเขา “แสนดีเข้าไปนั่งพักกับน้องเถอะ หายเหนื่อยแล้วค่อยมาทำต่อ” ตัวเขาเล็กแค่นี้จะมาทำงานแข่งกับผู้ใหญ่ได้อย่างไร

           “ผมยังไม่เหนื่อยครับ” ตอนนี้ในใจเขาคิดเพียงว่าต้องหาเงินให้ได้มากที่สุด จึงไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด

           ชาญชัยมองลูกเลี้ยงด้วยแววตาค้นคว้า เขารู้สึกคล้ายกับว่าแสนดีมีเรื่องคิดอยู่ในใจ

           เมื่อแสนดีไม่ยอมเข้าไปพักสักที ชาญชัยจำเป็นต้องพาเขาไปเอง “ไปพักกันเถอะ เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป” ลำพังตัวเขาให้ทำงานทั้งวันโดยไม่ต้องพักก็ได้ แต่เด็กเพียงแปดขวบจะให้ทำอย่างนั้นได้อย่างไร

           “อาไปพักเถอะครับ ผมไม่เหนื่อยจริง ๆ”

           ชาญชัยเดินเข้าไปใกล้คนตัวเล็กยืนจ้องหน้าน้อย ๆ ที่ปราศจากผ้าคลุมหน้า ทำให้เห็นว่ารอบดวงหน้าแดงเถือก เหงื่อโทรมกายราวกับเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ถามออกไปด้วยความใคร่รู้ “ทำไปเพื่ออะไร ถ้าเราเจ็บป่วยขึ้นมาอาจะทำยังไง แม่ของเราจะไม่ตำหนิอาหรือที่ปล่อยให้เด็กทำงานหนักขนาดนี้” น้ำเสียงอ่อนโยนไร้แววตำหนิ

           ทว่าก็ทำให้คนตัวเล็กที่ยืนอยู่เบื้องหน้าถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เด็กน้อยเม้มปากแน่นก้มหน้าลงต่ำ น้ำใสในตาหยดลงพื้นติ๋ง ๆ พูดออกเสียงสั่นเครือ “ผมอยากหาเงินไปรักษาแม่ครับ ผมไม่อยากให้แม่ตาย ฮึก ๆ” เด็กชายสะอื้นไห้จนไหล่สั่น

           ชาญชัยพ่นลมหายใจออกมามองหนุ่มน้อยด้วยความอาทร เด็กคนนี้โตเกินอายุจริง ๆ เขาคงรู้แล้วว่าที่แม่ไม่ยอมไปหาหมอก็เพราะที่บ้านไม่มีเงิน มือใหญ่วางลงบนบ่าเล็ก “เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอา เรายังเด็กอยู่ ทำเท่าที่ทำไหวก็พอ”

           “แต่อาหาเงินคนเดียวจะพอได้ยังไง” เมื่อคืนแม่ของเขาเป็นคนพูดเอง เขาย่อมเชื่อคำแม่อยู่แล้ว

           “เชื่อใจอาสิ ถ้าอาบอกว่าทำได้ก็ต้องเป็นไปตามนั้น หรือแสนดีไม่เคยเชื่อใจอาเลย”

           เขาส่ายหน้าพรืด “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” ก่อนหน้าเขายอมรับว่าเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อได้ยินที่เขาคุยกับแม่เมื่อคืน ความคิดที่มีต่อพ่อเลี้ยงก็เริ่มเปลี่ยนไป เพราะตอนที่มาอยู่กับแม่ใหม่ ๆ พ่อเลี้ยงไม่เคยคุยกับแม่เรื่องพาแม่ไปหาหมอเลย ส่วนสัญญาอะไรนั่นเขาไม่ได้สนใจ ขอให้แม่ของเขามีชีวิตอยู่ต่อไปนาน ๆ ก็พอแล้ว ไหล่เล็กสั่นเล็กน้อยพูดต่อว่า “ผมแค่อยากจะหาเงินช่วยอาก็เท่านั้น”

           “อาไม่ได้ห้ามไม่ให้เราหาเงินช่วยอา อาแค่อยากให้เราพักบ้าง คนเราทำงานก็ต้องพัก ถ้าร่างกายรับไม่ไหวเจ็บป่วยขึ้นมาก็จะทำให้เราทำงานไม่ได้เลย แสนดีอยากเป็นเหมือนแม่อีกคนเหรอ”

           “ไม่อยากครับ”

           “ถ้าไม่อยากก็ต้องไปพักแล้วค่อยมาทำใหม่ ตกลงไหม”

           “ครับ”

           ชาญชัยจูงมือเล็ก ๆ เข้าไปในร่มไม้ที่มีสายน้ำกำลังนอนหลับอยู่บนตอซังข้าวที่ปูลาดไปตามพื้นดิน ท่าทางเขาคงเหนื่อยมาก

           ทั้งสามนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วจึงเดินออกไปเกี่ยวข้าวต่อ สายน้ำเดินตามหลังพี่ชายถามออกเบา ๆ ว่า “พี่แสนดีไม่เหนื่อยเหรอ ทำไมไม่มาพักพร้อมผม ผมเจ็บมือไปหมดแล้วเนี่ย” ว่าพลางแบมือให้พี่ชายดู ผิวหนังบนฝ่ามือเล็กเริ่มพองขึ้นมาแล้ว บางจุดก็เริ่มด้าน

           “เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องอดทน” แม่เคยสอนไว้อย่างนั้น อีกทั้งเขาเป็นพี่คนโตต้องเข้มแข็งกว่าน้องทั้งสองให้ได้ เขาพูดต่ออีกว่า “เราต้องช่วยอาหาเงินไปรักษาแม่”

           “พี่เริ่มชอบเขาขึ้นมาแล้วเหรอ” พี่ชายเคยบอกว่าไม่ค่อยชอบพ่อเลี้ยงคนนี้

           “ถ้าเขาทำเพื่อแม่ พี่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบเขา”

           “งั้นพวกเราไปช่วยกันเกี่ยวข้าวกันเถอะ”

           “อืม”

           สองพี่น้องสาวเท้าสั้น ๆ วิ่งตามหลังพ่อเลี้ยงไป ต่อไปนี้พวกเขาตั้งใจว่าจะช่วยพ่อเลี้ยงหาเงินให้ได้มากที่สุด

           วันนั้นชาญชัยเกี่ยวข้าวได้ทั้งหมดสองร้อยสามสิบห้ามัด ซึ่งได้เงินมากกว่าค่าจ้างรายวันเสียอีก และเขาก็เกี่ยวข้าวได้มากกว่าทุกคนที่ไปรับจ้างด้วยกัน คนอื่นที่รู้ว่าเขาเกี่ยวข้าวได้สองร้อยสามสิบห้ามัดทำได้เพียงยืนอึ้ง คนอะไรเกี่ยวข้าวไวขนาดนั้น

ก่อนหน้านี้ใครเกี่ยวข้าวได้ถึงสองร้อยมัดก็ถือว่าเก่งมากแล้ว แต่นี่เขาไปทำอะไรมาถึงได้เกี่ยวข้าวเร็วกว่าเดิม เพราะตอนที่อยู่กับปู่กับย่าเขาเกี่ยวข้าวได้วันละหนึ่งร้อยแปดสิบมัดเท่านั้น อีกทั้งวันนี้ลูกเลี้ยงของเขาสองคนยังเกี่ยวข้าวได้ถึงแปดสิบมัด เกี่ยวข้าววันเดียวพวกเขาได้เงินตั้งสามร้อยกว่าบาท มากกว่าค่าแรงรายวันถึงสามเท่า ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ ที่พ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงช่วยกันทำมาหากินเช่นนี้

           กลับมาถึงบ้านแสนดีก็นำปี่ที่ทำจากต้นข้าวมาให้น้องสาว ซึ่งพ่อเลี้ยงเป็นคนทำให้ช่วงที่นั่งพักในร่ม สตางค์ดีใจเป็นอย่างมาก แต่เป่าได้ไม่นานฟ้าก็มืดแล้ว แม่จึงให้เก็บไว้เป่าตอนเช้า เพราะตอนกลางคืนเกรงว่าคนอื่นจะรำคาญ

คืนนั้นหลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ แสนดีกับสายน้ำก็ให้ผู้เป็นแม่ทายาที่ฝ่ามือให้ เพราะมันทั้งบวมและปวดมาก

           “พรุ่งนี้ไม่ต้องไปเกี่ยวข้าวกับอาหรอก” ชาญชัยบอกเด็กชายทั้งสอง เพราะนาของจินดาแปลงนี้น่าจะใช้เวลาเก็บเกี่ยวถึงหนึ่งสัปดาห์ เห็นอุ้งมือน้อย ๆ บวมเป่งขนาดนี้เขาก็ใจคอไม่ดี ตัวเขาเองก็เคยมือบวมแบบนี้ตอนเกี่ยวข้าวครั้งแรก และพ่อก็เคยใช้น้ำมันเลียงผาสักน้ำมันให้ พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็หายแล้ว แต่พอเกิดกับแสนดีและสายน้ำ เขากลับทำอย่างนั้นไม่ลง เหตุผลก็คือกลัวพวกเขาเจ็บ ไม่กล้าใช้เข็มแหลมคมทิ่มแทงผิวบอบบางของเด็กเหมือนตอนที่พ่อทำให้เขา

           “แต่ผมอยากไป พรุ่งนี้มือผมก็หายแล้ว” แสนดียังดึงดันที่จะไปเกี่ยวข้าวให้ได้

           “ผมก็จะไปเหมือนกัน” สายน้ำสัญญากับพี่ชายไว้แล้วว่าจะช่วยพ่อเลี้ยงหาเงินมารักษาแม่ และเขาต้องทำให้ได้ด้วย

           ชาญชัยมองลูกเลี้ยงทั้งสอง จากนั้นหันไปสบตากับภรรยาด้วยท่าทีอ่อนอกอ่อนใจ เขาไม่อยากใช้แรงงานเด็กเลยสักนิด

           อัจฉรารู้ว่าลูกชายดื้อรั้นจึงไม่อยากห้าม อีกอย่างพวกเขารู้จักทำงานตั้งแต่เด็กก็ดีแล้ว เธอเองก็รู้จักนึ่งข้าว หาบน้ำ ช้อนปลา ช้อนลูกอ๊อดตั้งแต่หกขวบแล้วเช่นกัน “ถ้าลูกไม่สร้างปัญหาให้พี่ ก็พาพวกเขาไปด้วยเถอะค่ะ พอพวกเขาเหนื่อยแล้วก็คงพักเองแหละ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel