ทะลุมิติไปเป็นพ่อเลี้ยงของเจ้าก้อนแป้งทั้งสาม

75.0K · จบแล้ว
กัญจารีย์
44
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

โปรย : เป็นหนุ่มโสดจนอายุสามสิบปี อยู่ดี ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นพ่อเลี้ยงเด็กตั้งสามคน มิหนำซ้ำยังต้องดูแลภรรยาในนามที่ป่วยปางตายอีกหนึ่ง ไม่เป็นไรข้าจะเลี้ยงดูพวกเจ้าเอง ว่าแต่แค่รับจ้างรายวันอย่างเดียวจะพอหรือ เป็นเรื่องราวของชาญชัยหนุ่มจากยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติย้อนเวลาไปสวมร่างคนที่มีชื่อเดียวกัน และผู้ชายคนนั้นก็ได้แต่งงานกับแม่ม่ายมีลูกติดสามคนที่ชื่ออัจฉรา ซึ่งเธอเป็นคนจ่ายค่าสินสอดทั้งหมดเพื่อให้เขามาเป็นพ่อเลี้ยงเด็ก เนื่องจากตัวเธอเองป่วยหนักและคิดว่าตนเองคงอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ชาญชัยจะทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อชีวิตของเธอไว้ แต่เขาจะมีเงินมารักษาเธอหรือไม่นั้นโปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ……………………………………………… ภายในห้องนอนลูกทั้งสามนอนหลับไปแล้ว ส่วนภรรยาลืมตาขึ้นมาตอนที่เขาเดินเข้ามาในมุ้งพอดี “ยังไม่หลับอีกเหรอ” เขาถามภรรยา พร้อมกับนั่งลงตรงปลายเท้าของเธอ            “กำลังจะหลับแล้ว” อัจฉราตอบเสียงเบา ความจริงเธอนอนไม่หลับเพราะกังวลเรื่องลูก หลังจากที่เธอไม่อยู่บนโลกนี้แล้วลูกของเธอจะอยู่อย่างไร สมองเธอคิดไปสารพัดจนทำให้นอนไม่ค่อยหลับ ทุกคืนก็เป็นเช่นนี้ เพียงแต่สามีไม่เคยใส่ใจก็เท่านั้น ต่างจากวันนี้ที่เขาเดินเข้ามาถาม            “พี่ขอคุยด้วยแป๊บนึงได้ไหม”            “ว่ามาสิคะ” ร่างผอมบางค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น เอนกายพิงผนังห้องเบา ๆ แววตาดูอ่อนล้าเต็มที            “พี่อยากพาเธอไปหาหมอ”            หลายอึดใจกว่าอัจฉราจะเอ่ยออกมา “พี่มีเงินเหรอคะ”            “เราเอาที่ห้าไร่ตรงนั้นไปจำนองกับธนาคารดีไหม” หลังจากนั้นเขาจะทยอยขายข้าวในมิติแล้วนำเงินไปใช้หนี้ ถึงจะเสียดอกเบี้ยแต่วิธีนี้ก็ปลอดภัยที่สุดแล้ว            เธอส่ายหน้าน้อย ๆ “อย่าเสียเวลาเลยค่ะ เอาที่ไปจำนองก็เป็นหนี้ อีกอย่างพี่ทำงานคนเดียว ต้องหาเงินเลี้ยงฉันกับลูก ทั้งยังต้องหาเงินใช้หนี้แล้วพี่จะทำไหวได้ยังไง”            คนตัวใหญ่ลอบถอนหายใจ คิดไว้ไม่ผิดจริง ๆ ว่าเธอต้องไม่ยอมแน่            อัจฉราพูดขึ้นอีกครั้ง “พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ขอแค่พี่ทำตามในสัญญาก็พอ” สัญญาฉบับนั้นก็คล้ายกับพินัยกรรม ข้อตกลงมีอยู่ว่า ชาญชัยต้องเลี้ยงดูลูกของเธอทั้งสามให้เติบใหญ่ จวบจนสตางค์ลูกสาวคนเล็กอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์เขาถึงจะมีสิทธิ์ในที่ดินสองไร่นั้น ส่วนลูกของเธอก็ได้คนละหนึ่งไร่ รวมเป็นห้าไร่ ส่วนที่ดินแปลงที่ปลูกบ้านมีพื้นที่อยู่หนึ่งไร่สองงาน เธอแบ่งให้เขากับลูกคนละหนึ่งงานเศษเท่า ๆ กัน และเมื่อเขาอยู่ครบตามสัญญาแล้ว ถึงเวลานั้นเขาจะอยู่หรือไม่อยู่กับลูกของเธอก็แล้วแต่ตามที่เขาต้องการ ที่ดินใน

นิยายรักโรแมนติกข้ามมิติแฟนตาซี แต่งงานก่อนรักนิยายย้อนยุคผู้ชายอบอุ่นคนธรรมดาพ่อเลี้ยงมีลูกเหนือธรรมชาติ

ตอนที่ 1 ฟ้าผ่า

อากาศยามเช้าในช่วงต้นเดือนธันวาคมเริ่มหนาวจัดแล้ว เจ้าของร่างใหญ่ตื่นขึ้นมานึ่งข้าวแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวันที่เจ้าของร่างเดิมเคยทำมา แม้ในใจยังไม่อยากเชื่อว่าตนได้ย้อนเวลากลับมาอยู่ในร่างนี้แล้วตั้งแต่เมื่อวาน

ย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อวาน เจ้าของร่างนี้ได้ออกไปรับจ้างเกี่ยวหญ้าเพื่อมาขายให้นายหนูจีน ซึ่งมีควายอยู่หลายสิบตัว ในช่วงเวลาเกือบบ่ายสาม จู่ ๆ ก็เกิดเสียงฟ้าแลบฟ้าร้องขึ้นมาอย่างไร้ที่มาที่ไปทั้งที่เป็นช่วงฤดูหนาว ไม่นานฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่มิหนำซ้ำยังเกิดฟ้าฝ่าเสียงดังกึกก้องใหลายพื้นที่ และจุดหนึ่งที่โดนฟ้าผ่าก็คือจุดที่เจ้าของร่างนี้กำลังนั่งหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ และสิ้นใจคาที่ในเวลาต่อมา ส่วนเขาที่ชื่อชาญชัยเหมือนเจ้าของร่างเดิมผู้มาจากยุคปัจจุบันก็ได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แทน

ตอนที่อยู่ในยุคปัจจุบันเขาจำได้เพียงว่ากำลังใช้ไม้วินล้อรถแทรกเตอร์ที่ติดหล่มอยู่ในนากับน้องเขย พอผูกไม้ติดกับล้อรถเสร็จแล้ว เขาซึ่งเดินออกมายังไม่ไกลจากตัวรถมากนัก น้องเขยก็สตาร์ทเครื่องยนต์และเคลื่อนรถแทรกเตอร์ออกจากจุดนั้นโดยเร็ว ไม่มีใครคาดคิดว่าลวดสลิงที่ใช้มัดท่อนไม้ติดกับล้อรถจะขาดผึงเพียงเสี้ยววินาที ท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่ติดกับล้อรถก็เหวี่ยงมาตีศีรษะเขาคล้ายกับการทุบหัวเขียด เสียงดังอักเท่านั้น จากนั้นความทรงจำของเขาก็ดับวูบลง รู้ตัวอีกทีเขาก็มาอยู่ในร่างนี้แล้ว

เขาฟื้นขึ้นมาเพราะรู้สึกหนาวจนตัวสั่นเพราะนอนตากฝนอยู่เป็นเวลานาน เมื่อความทรงจำของร่างนี้หลั่งไหลเข้ามาในหัว เขาจึงเดินแบกมัดหญ้าหนึ่งมัดใหญ่พร้อมเคียวเกี่ยวข้าวกลับบ้านด้วยความสับสนงุนงง

บางครายังแอบคิดว่านี่คงเป็นเพียงความฝัน แต่พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตนยังอยู่ที่บ้านปูนเปลือยชั้นเดียวขนาดกลางที่ยังไม่ขัดมันเหมือนเมื่อวาน อีกทั้งบ้านหลังนี้ยังสร้างไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ เพราะหน้าต่างอีกหลายบานยังใช้สังกะสีเพียงแผ่นเดียวตีปิดทับไว้

คนตัวสูงนั่งมองเปลวไฟในเตาไฟด้วยดวงตาเหม่อลอย ทั้งที่อากาศหนาวจัดแต่มันกลับไม่ได้สะเทือนผิวกายของเขาแม้แต่น้อย ในหัวยังคิดวนเวียนเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ว่ามันมีเรื่องประหลาดแบบนี้เกิดขึ้นกับเขาได้อย่างไร

ตามความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ที่นี่คือหมู่บ้านไผ่ล้อม ตำบลนามะเฟือง อำเภอนามะเฟือง จังหวัดขุนศรีบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ไม่เคยมีอยู่ในประวัติศาสตร์ของไทยเลย แต่กลับมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และปีนี้ก็เป็นปีพุทธศักราชสองพันห้าร้อยสี่สิบ

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่น ในใจรู้สึกคิดหนักเมื่อนึกถึงฐานะเดิมของเจ้าของร่างนี้ ความจริงเขาก็อยากจะร้องไห้ให้กับโชคชะตาของตนเองด้วยซ้ำ ที่ย้อนเวลามาเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กตั้งสามคน แถมยังมีภรรยาที่กำลังป่วยหนักและก็ไม่รู้ว่าจะจากไปวันไหน ซึ่งก็อาจจะในเร็ว ๆ นี้

ชาญชัยถอนหายใจออกมายาวเหยียด เมื่อนึกถึงความเป็นมาก่อนที่จะมาอยู่บ้านหลังนี้ เดิมทีเจ้าของร่างนี้เป็นเด็กกำพร้า พ่อกับแม่เสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุได้เพียงสิบสองขวบ จากนั้นก็อยู่กับปู่กับย่ามาตลอด ซึ่งมีครอบครัวของอาผู้หญิงรวมอยู่ด้วย และเขาก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวตั้งแต่พ่อกับแม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ อีกทั้งยังโดนทุกคนในครอบครัวรุมรังแก

ก่อนหน้านี้สองเดือน อัจฉรา ซึ่งก็คือภรรยาของเขาในตอนนี้ หลังจากเธอหย่ากับสามีเก่าได้สองเดือน เธอได้ประกาศรับสมัครหาสามีคนใหม่เพื่อมาเป็นพ่อเลี้ยงของลูกเธอทั้งสาม ด้วยค่าจ้างสามหมื่นบาทซึ่งถือว่าเป็นค่าสินสอด และคุณสมบัติของผู้ชายที่จะสมัครได้ก็คือจะต้องเป็นหนุ่มโสด ไร้พันธะบุตรและภรรยา แต่คนหนุ่มในหมู่บ้านนี้กลับไม่มีใครสนใจ เพราะเทียบกับเงินสามหมื่นกับการเลี้ยงดูเด็กทั้งสามคนและแม่ที่กำลังป่วยอีกคน พวกเขาก็คิดว่ามันไม่คุ้มเอาเสียเลย

แต่มิ่งพรผู้มีศักดิ์เป็นอาของเจ้าของร่างนี้มีหรือจะสนใจกับความเหนื่อยยากพวกนั้น พอทราบข่าวเธอกลับคิดว่านี่เป็นโอกาสทองของเธอที่จะกำจัดหลานชายคนนี้ให้พ้นชายคาไป จึงนำเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับคนในครอบครัวทันที ยกเว้นเขาคนเดียวที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย อีกทั้งมิ่งพรยังอยากได้เงินค่าจ้างหรือค่าสินสอดจำนวนสามหมื่นบาท เธอจึงยุยงส่งเสริมให้ปู่กับย่าบังคับเจ้าของร่างนี้แต่งงานออกไปกับอัจฉรา

เดิมทีเจ้าของร่างนี้เป็นคนหัวอ่อน ไม่ค่อยพูดจาค่อนข้างเก็บกด ไม่กล้ามีปากเสียงกับผู้ใหญ่ เขาจึงยอมแต่งงานกับอัจฉรา

ชาญชัยถอนหายใจยาวอีกครั้ง เมื่อนึกได้ว่าต้องดูแลเด็กทั้งสามและภรรยาที่ป่วยอีกคน คนไม่เคยแต่งงานไม่เคยมีลูกอย่างเขาจะเป็นพ่อและสามีที่ดีได้แค่ไหนกันเชียว ช่างเป็นอะไรที่น่าปวดหัวจริง ๆ สายตาคมกริบมองไปยังหวดนึ่งข้าวที่กำลังมีไอน้ำสีขาวพวยพุ่งออกมา เขาจึงหยิบไม้พายมาคนข้าวเมื่อรู้ตัวว่านั่งเหม่อนานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว

นึ่งข้าวเสร็จก็เตรียมตัวทำอาหารต่อ ตอนนี้ประมาณตีห้าครึ่งลูกกับภรรยายังไม่ตื่น คนตัวใหญ่นำหอยที่เจ้าของร่างนี้ขุดมาเมื่อสองวันก่อนไปแช่น้ำไว้ก่อน ซึ่งมีทั้งหอยขม และหอยโข่ง จากนั้นคว้าเอาไฟฉายไปเก็บผักปลัง ใบชะพลู ใบแมงลัก ขิงแกลง และตะไคร้ ที่ปลูกไว้ข้างรั้วบ้าน ก่อนเดินกลับยังแอบเก็บใบย่านางของป้าเฟื่องที่อยู่ข้างรั้วมาด้วย พอสายออกมาหน่อยค่อยไปบอกแกก็ยังได้ เพราะสองบ้านนี้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเฟื่องคงไม่ถือสา