ตอนที่ 4 สายใยจากเพื่อนบ้าน 1/2
ตอนที่ 4 สายใยจากเพื่อนบ้าน
ขณะที่เหมยลี่กำลังเก็บกวาดกระท่อมให้เรียบร้อย หลังจากที่ป้อนซุปสมุนไพรบำรุงให้น้องชาย เหมยซานจนหลับไปอีกครั้ง เสียงฝีเท้ากระท่อนกระแท่นก็ดังขึ้นที่หน้ากระท่อม มันเป็นเสียงที่ฟังดูคุ้นเคย
ทำให้นางชะงักมือเล็กน้อย หันไปมองที่ประตูไม้ผุพังไม่นานนักร่างของป้าหลิน หญิงชราเพื่อนบ้านผู้ใจดีก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู ดวงตาอบอุ่นของท่านจับจ้องมาที่เหมยลี่ด้วยความห่วงใย
ป้าหลินถือตะกร้าหวายเก่าๆ ที่มีผักและผลไม้ป่าเล็กน้อยติดมือมาด้วย ผักใบเขียวสดที่ดูคุ้นตาบ้างไม่คุ้นตาบ้าง ถูกวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ
ใบหน้าของป้าหลินเต็มไปด้วยความเมตตาและร่องรอยของความเหนื่อยล้าจากการทำไร่ ซึ่งถูกจารึกไว้ด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลาและประสบการณ์ชีวิตอันยากลำบาก แต่แววตาของท่านยังคงเปี่ยมด้วยประกายแห่งความหวังและความอ่อนโยน
“แม่เหมยลี่เจ้าสบายดีไหม” ป้าหลินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแผ่วเบา ราวกับกลัวจะรบกวนความสงบในกระท่อม สายตาของป้าหลินกวาดมองไปเห็นเหมยซานที่นอนซมอยู่ ก็แสดงสีหน้าเป็นห่วงยิ่งนัก แววตาของท่านฉายแววความเจ็บปวดเล็กน้อย ราวกับความเจ็บป่วยของเหมยซานนั้นเป็นความทุกข์ของป้าหลินเอง
“เจ้าเหมยซานเป็นอย่างไรบ้าง ยังไม่ดีขึ้นหรือ” คำถามของป้าหลินเต็มไปด้วยความเอื้ออาทร เหมยลี่รู้สึกตื้นตันใจในความมีน้ำใจของป้าหลินอย่างบอกไม่ถูก
แม้นางจะเพิ่งตื่นขึ้นมาในร่างนี้ได้ไม่นาน แต่ความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับจากเพื่อนบ้านคนนี้ก็ทำใจที่โดดเดี่ยวของนางรู้สึกได้รับการปลอบประโลมอย่างประหลาด
เหมยลี่เดินเข้าไปใกล้ป้าหลิน ก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ นางตอบไปตามตรงด้วยน้ำเสียงที่ยังคงแผ่วเบา
“เหมยซานยังคงป่วยหนักเจ้าค่ะ ป้าหลิน ข้าไม่มีเงินพอจะซื้อยาหรืออาหารที่ดีพอให้เขาเลย” นางพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แต่ความรู้สึกอ่อนแอและสิ้นหวังก็ยังคงเกาะกุมอยู่ในใจ
ป้าหลินถอนหายใจยาวๆ อย่างเข้าใจ ท่านวางตะกร้าที่ถือมาลงบนพื้นดินเบาๆ แล้วเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นมาลูบศีรษะของเหมยลี่อย่างแผ่วเบา
“โถ แม่เจ้าของป้า ไม่ต้องกังวลนะ” น้ำเสียงของป้าหลินเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและปลอบโยน
“ป้าเอาผักกับผลไม้ป่ามาให้เจ้านะ พอจะเอาไปต้มกินกับน้องได้บ้าง”
เหมยลี่ก้มหัวขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ นางสัมผัสได้ถึงความจริงใจและน้ำใจของเพื่อนบ้านคนนี้ นางรับตะกร้าจากป้าหลินและมองเข้าไปข้างใน มีผักใบเขียวสดหลากหลายชนิด รากไม้หัวเล็กๆ และผลไม้ป่าสีแดงอมม่วงสองสาม ข้าแม้จะไม่ใช่วัตถุดิบราคาแพง แต่สำหรับเหมยลี่ในตอนนี้ มันล้ำค่ากว่าทองคำเสียอีก
“ขอบพระคุณป้าหลินมากเจ้าค่ะ” เหมยลี่เอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ
“น้ำใจของป้าหลินครั้งนี้ ข้าจะไม่มีวันลืมเจ้าค่ะ”
ป้าหลินยิ้มบางๆ “ไม่เป็นไรหรอก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันไปก็แค่นั้นแหละ” ท่านมองไปที่เหมยซานอีกครั้ง
“เจ้าเหมยซานนี่น่าสงสารจริงๆ พ่อแม่ของเจ้าก็จากไปเร็วเหลือเกิน”
เหมยลี่นั่งลงข้างๆ ป้าหลิน ป้าหลินเริ่มเล่าเรื่องราวความยากลำบากของชาวบ้านในหมู่บ้านให้ฟัง ชีวิตในยุคนี้ไม่ได้ง่ายดายเลยสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำอย่างพวกเขา
“ปีนี้ฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจ พืชผลก็ไม่ค่อยดี ชาวบ้านลำบากกันถ้วนหน้า” ป้าหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เจือความเศร้า
“เจ้าเองก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะ อย่าให้ป่วยไปอีกคนไ
คำพูดของป้าหลินทำให้นางตระหนักถึงความจริงที่โหดร้ายของโลกใบนี้อีกครั้ง ไม่มีระบบสวัสดิการ ไม่มีโรงพยาบาลที่เข้าถึงง่าย ชีวิตของผู้คนขึ้นอยู่กับธรรมชาติและน้ำใจของผู้คนในชุมชน
ป้าหลินหยิบผลไม้ป่าสีแดงอมม่วงลูกหนึ่งขึ้นมาส่งให้เหมยลี่ “นี่ ลองกินดูนะ มันช่วยให้ชุ่มคอ” เหมยลี่รับมาด้วยความเกรงใจ แล้วค่อยๆ กัดกินรสชาติหวานอมเปรี้ยวของผลไม้ป่าช่วยให้นางรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง
