ทะลุมิติไปปรุงรักร้อยรสมัดใจท่านแม่ทัพ

203.0K · จบแล้ว
สิบสามธันวา
163
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อเชฟสาวลื่นล้มแล้วเสียชีวิตในห้องครัว แล้วไปเกิดใหม่ในร่างสาวยากจนที่ต้องหาเงินรักษาน้องชายที่ป่วย นางจึงต้องขายอาหารเพื่อหาเงินประทังชีวิตจนได้มาเจอกับท่านแม่ทัพหนุ่มที่ติดใจในรสชาติอาหารของนาง

นิยายจีนโบราณแม่ทัพนางเอกเก่งข้ามมิติรักแรกพบจีนโบราณนิยายย้อนยุคคนธรรมดาจากมิตรภาพสู่ความรักแข็งแกร่ง

ตอนที่ 1 อุบัติเหตุจากปลายจวัก สู่ความมืดมิดในอดีต

ตอนที่ 1 อุบัติเหตุจากปลายจวัก สู่ความมืดมิดในอดีต

เสียงฉ่าของน้ำมันร้อนๆ ที่พุ่งลงบนกระทะเคลือบ ตามมาด้วยกลิ่นหอมหวลของเนยกระเทียมที่คลุ้งไปทั่ว ไม่ใช่เสียงดนตรีคลาสสิกที่แว่วมาจากห้องอาหารด้านนอก แต่สำหรับแก้วแล้วมันคือบทเพลงที่ไพเราะที่สุดในชีวิตของเธอ ในวัย 28 ปี แก้วคือดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการอาหารไฟน์ไดนิ่ง เธอเป็นที่รู้จักในนาม ‘เชฟมือทอง’ ผู้รังสรรค์อาหารฟิวชั่นที่ผสมผสานรสชาติแบบเอเชียเข้ากับเทคนิคการทำอาหารชั้นสูงแบบตะวันตกได้อย่างไร้ที่ติ ร้านอาหารชื่อดังที่เธอเป็นหัวหน้าเชฟอยู่นั้น ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นหนึ่งในร้านที่ดีที่สุดของกรุงเทพมหานครและวันนี้ก็เป็นอีกวันที่พิสูจน์ชื่อเสียงนั้น

“เชฟแก้ว! สเต๊กเนื้อวากิวระดับ A5! มิดเดียมแรร์สามที่! เร็วเข้า!”เสียงของ รองเชฟคู่ใจของเธอ ตะโกนก้องมาจากหน้าเตา

“รับทราบ!” แก้วตอบกลับ ดวงตาคมกริบกวาดมองไปทั่วสถานีปรุงอาหารของเธอ เธอหยิบเนื้อวากิวชิ้นหนานุ่มออกจากเตาอบอย่างเชี่ยวชาญ วางลงบนเขียงไม้เนื้อดี กลิ่นหอมฟุ้งของเนื้อย่างผสมกับกลิ่นโรสแมรี่ที่เพิ่งอบใหม่ๆ ลอยแตะจมูก เธอคว้ามีดเชฟคู่ใจที่คมกริบราวใบมีดโกน แล่เนื้อออกเป็นชิ้นสวยงาม ราวกับกำลังสร้างสรรค์งานศิลปะ เลือดสีแดงเรื่อๆ ของเนื้อชั้นดีซึมออกมาเล็กน้อย บ่งบอกถึงความสุกที่สมบูรณ์แบบตามที่ลูกค้าต้องการ

“ซอสเห็ดทรัฟเฟิลดำ! ไปกับสเต๊ก!” แก้วสั่งการมืออีกข้างกำลังบรรจงจัดวางหน่อไม้ฝรั่งอบกับมันฝรั่งบดเนื้อเนียนละเอียดลงบนจานกระเบื้องสีขาวสะอาดตา ทุกการเคลื่อนไหวของเธอแม่นยำ รวดเร็ว และเต็มไปด้วยความมั่นใจ เธอรักในสิ่งที่ทำ ความร้อนจากเตาไฟ ความกดดันจากเวลาที่จำกัด และเสียงอึกทึกครึกโครมในครัว ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เธอเลือก

“ผักโขมอบชีสพร้อมครับเชฟ!”

“ส่งมาเลย!” เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายบนหน้าผากของแก้ว แต่รอยยิ้มบางๆ ไม่เคยเลือนหายไปจากใบหน้า เธอเชื่อว่าอาหารไม่ใช่แค่การเติมเต็มกระเพาะ แต่คือการเติมเต็มความสุข เธอใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด การเตรียมที่พิถีพิถัน ไปจนถึงการจัดจานที่งดงามราวภาพวาด. สำหรับเธอแล้ว อาหารคือชีวิต

“เชฟแก้ว! จานนี้ด่วนครับ! โต๊ะลูกค้า VIP กำลังรอ!” ต้าพนักงานเสิร์ฟรีบเดินตรงเข้ามา แก้วพยักหน้าเธอจัดการโรยเกลือทะเลเม็ดหยาบบนสเต๊กเป็นขั้นตอนสุดท้ายอย่างประณีต ตรวจสอบความเรียบร้อยของทุกองค์ประกอบบนจานด้วยสายตาที่เฉียบคม

“เรียบร้อย! จัดไป!” เธอหยิบผ้าสะอาดเช็ดขอบจานที่อาจมีรอยเปื้อนเล็กน้อย ก่อนจะวางจานสเต๊กวากิวสุดหรูลงบนถาดสเตนเลสขนาดใหญ่ที่ต้าหมิงถือมา ในถาดมีจานอาหารอีกสองสามอย่างที่พร้อมเสิร์ฟไปพร้อมกัน.

“คุณต้าระวังด้วยนะคะ พื้นตรงนี้เพิ่งทำความสะอาด อาจจะยังลื่นอยู่” หนิงพนักงานล้างจานร่างเล็กส่งเสียงเตือนด้วยความเป็นห่วง

“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกหนิง แค่นี้สบายมาก!” ต้าหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เขามั่นใจในประสบการณ์การเดินในครัวมาหลายปี แก้วกำลังจะก้าวไปช่วยต้าถือถาดเพราะมันดูหนักและใหญ่เกินกว่าที่จะถือคนเดียวได้ในสภาพที่พื้นกำลังลื่น

“เดี๋ยวฉันช่วยถือ” เธอเอ่ยปาก แต่ยังไม่ทันที่คำพูดจะขาดคำ ภาพทุกอย่างพลันช้าลง ต้าที่กำลังก้าวออกไปจากสถานีของแก้วเขาก้าวพลาดขาของเขาก้าวไปเหยียบบริเวณที่มีคราบน้ำมันเล็กๆ ที่เพิ่งทำความสะอาดไปไม่นาน และยังไม่ได้แห้งสนิท ร่างของเขาเซไปด้านข้างเล็กน้อย

“เฮ้ย!” เสียงอุทานดังขึ้น ถาดสเตนเลสขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสราคาแพงลิบลิ่ว เริ่มเอียงกะเท่เร่สเต๊กวากิวสวยๆ กำลังจะร่วงหล่นลงสู่พื้น สัญชาตญาณของเชฟมืออาชีพทำให้แก้วพุ่งตัวเข้าไปทันที เธอไม่ต้องการให้

“ผลงานชิ้นเอก” ของเธอต้องเสียหาย เธอเอื้อมมือออกไปคว้าถาดอย่างรวดเร็ว หวังจะประคองมันไว้ มือของเธอคว้าขอบถาดได้สำเร็จ แต่ด้วยแรงเหวี่ยงของถาดที่เต็มไปด้วยน้ำหนัก และพื้นครัวที่เปียกลื่นเหมือนกันในจุดที่เธอยืนอยู่ ทำให้ร่างกายของแก้วที่กำลังพุ่งไปด้านหน้า เสียการทรงตัว

“โอ๊ย!” ขาของเธอปัดไปข้างหลัง ร่างอรชรของเชฟสาวเซถลาไปตามแรงเฉื่อยเสียงของต้าที่ร้องตกใจ

“เชฟแก้ว!” ดังแว่วเข้ามาในหู ภาพของห้องครัวที่เคยคุ้นตา ทั้งเตาไฟที่ลุกโชน หม้อที่เดือดปุดๆ ควันสีขาวลอยอวล พนักงานที่กำลังทำงานอย่างขะมักเขม้นทุกอย่างหมุนคว้างราวกับพายุ ศีรษะของแก้วกระแทกเข้ากับขอบเคาน์เตอร์สเตนเลสที่แข็งและเย็นเฉียบอย่างจัง ความเจ็บปวดแล่นแปลบไปทั่วศีรษะราวกับถูกฟ้าผ่า

แสงไฟในห้องครัวที่เคยสว่างไสวพลันดับวูบลง เสียงอึกทึกครึกโครมทุกอย่างเงียบสงัดลงในพริบตา ร่างกายของเธอร่วงลงสู่พื้นอย่างแรง ภาพสุดท้ายที่แก้วเห็นก่อนที่โลกทั้งใบจะมืดมิดลง คือเพดานสีขาวของห้องครัวที่มีหลอดไฟนีออนส่องสว่างและใบหน้าของเพื่อนร่วมงานที่เต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว สติของเธอค่อยๆ เลือนหายไปทิ้งไว้เพียงความมืดมิดและความว่างเปล่า

สภาพแวดล้อมที่ปรากฏตรงหน้าคือกระท่อมไม้ผุพัง ห้องมืดสลัวและมีกลิ่นอับชื้น ไม่ใช่โรงพยาบาลหรือห้องครัวที่เธอคุ้นเคย ข้างๆ เธอมีเด็กชายตัวน้อยผอมโซคนหนึ่งนอนซมอยู่ พร้อมเสียงหอบไอแห้งๆ แก้วพยายามลุกขึ้นแต่ไร้เรี่ยวแรง เธอตระหนักว่านี่ไม่ใช่ร่างของเธอ และความทรงจำของร่างเดิมที่เรียกว่า เหมยลี่ก็เริ่มผุดขึ้นมาอย่างเลือนราง แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความยากจนข้นแค้นและน้องชายที่กำลังจะตาย