บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ไก่ต้ม

เมื่อถึงหน้าบ้าน เขาเห็นเจี่ยนหรงยืนอยู่หลังเรือน เสื้อผ้ายังเปรอะเปื้อนโคลนจากการเล่นดิน ยามนี้กองดินโคลนถูกย้ายมาวางอยู่ใกล้หลังเรือน นางหันมามองเขาเช่นเดิม เป็นแววตาที่บริสุทธิ์เกินกว่าจะเข้ากับชีวิตที่ลำบากและใจที่หม่นหมองของเขา

“เจ้ากลับมาแล้ว..”

“ข้ากลับมาแล้ว..” เขามองท่าทางของภรรยาตัวเล็กที่หนาวสั่น และใบหน้าซีดเซียว

แม้จะพยายามสงบจิตใจเพียงใด เอ้อร์กัวก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า การมีนางอยู่ข้างกายเป็นบทลงโทษของเขาที่ดื้อดึงและยึดมั่นในรักที่ไม่สมควร จนตกลงมาสู่บ่วงกรรมนี้

“เจ้ามาพอดี ช่วยจุดไฟต้มน้ำให้หน่อย ฉันจะอาบน้ำ”

“ต้มน้ำอาบหรือ..มันเปลืองฟืน เจ้าไปอาบน้ำในแม่น้ำเถิด บ้านข้ายากจน จำไม่ได้หรือ” เขาตำหนิและประชดประชัน

“ก็มันหนาว..แล้วเจ้าจะประชดเรื่องความจนนั่นไปถึงเมื่อไร” เจี่ยนหรงพูดหน้าตาเฉย ราวกับมันควรเป็นหน้าที่ของสามีที่ต้องดูแลนาง

เอ้อร์กัวหงุดหงิด แต่ก็ยอมเดินเข้าไปในครัว ก้มลงจุดไฟในเตาดินเผา ตักน้ำใส่หม้ออย่างรวดเร็ว สายตาจับจ้องเปลวไฟที่เต้นระริก แต่ในใจกลับวุ่นวายดั่งพายุ

เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แม้เขาจะพยายามทำใจและมีเมตตากับภรรยาให้มากตามที่อาจารย์สั่งสอน แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ทุกครั้งที่พูดคุยกับเจี่ยนหรง เขาจะหงุดหงิดเสมอ

เขาพยายามสงบใจต้มน้ำให้ภรรยาสติเฟื่องอาบน้ำ เขาเคยสงสัยว่านางอาจไม่อาบน้ำ แต่ที่แท้นางก็อาบน้ำแทบจะทุกวัน เมื่อวานก็อาบน้ำ วันนี้ก็อาบอีกแล้วหรือ

เอ้อร์กัวบ่นในใจ แต่ก็ยังตั้งใจต้มน้ำให้นางอาบหลังเรือน เสร็จแล้วเขาก็กลับเข้าครัว จัดการเตรียมมื้อเย็นตามหน้าที่ ทว่าเมื่อมองไปที่ไก่ต้มที่เขาอุตส่าห์เตรียมไว้ตั้งแต่เช้า เขาพบว่ามันยังคงวางอยู่เช่นเดิม ไม่มีแม้แต่รอยแตะต้อง

กลับกัน ผักป่าต้มเกลือที่เขาทำไว้อย่างลวกๆ กลับหมดเกลี้ยง เอ้อร์กัวนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจว่าภรรยาของเขาคงเกรงใจ จึงไม่กล้ากินอาหารดีๆ อย่างไก่ต้ม

เขานึกถึงความเป็นเด็กกำพร้าของตนเองและนาง ชีวิตที่คุ้นชินกับความขาดแคลน ทำให้นางไม่กล้ารับสิ่งที่ดูมีค่าเกินตัว แม้นางจะไม่สมประกอบ แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความระมัดระวัง

เอ้อร์กัวรู้สึกเจ็บแปลบในอก สงสารนางจับใจ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดกับความหงุดหงิดของตนเอง แม้เขาจะยังไม่อาจมองนางด้วยความรัก แต่ความอ่อนโยนบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงันในหัวใจของเขา

เจี่ยนหรงอาบน้ำเสร็จ นางรีบมานั่งข้างเตาไฟ เปลวไฟอุ่นๆ ทำให้ไอหนาวจางลง แต่ปากของนางยังคงซีดเซียว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้และแตงกวาสดชื่น เอ้อร์กัวมองภรรยาของเขาเพียงผ่านๆ ทว่าครู่หนึ่งเขาเห็นผ้าที่นางใช้เช็ดผม มันเป็นผ้าที่แปลกยิ่ง

ดูเหมือนขนสัตว์แต่กลับนุ่มเหมือนผ้าฝ้าย สีขาวสะอาดไม่เหมือนของเก่าที่ใช้งานมานาน แตกต่างกับเสื้อผ้าเก่าขาดที่นางใส่อยู่ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะในชีวิตที่ยากจนของเขา เขาไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน

เจี่ยนหรงเงยหน้าขึ้น สบตาเขาด้วยสายตาดุๆ ราวกับเด็กที่รู้ว่าถูกจับจ้องในสิ่งที่ตัวเองหวงแหน

“มองอะไร!” นางถามเสียงห้วน

เอ้อร์กัวสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบเบือนหน้าหนี พยายามเก็บความสงสัยไว้ในใจ พลางคิดว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งกับของที่นางนำติดตัวมา แม้มันจะดูแปลกเพียงใดก็ตาม

เอ้อร์กัวนั่งรอจนเจี่ยนหรงเช็ดผมแห้งดี ร่างเล็กของนางดูอบอุ่นขึ้นจากเปลวไฟ เส้นผมสีดำสยายยาวน่ามอง ทำให้ท่าทางเด็กน้อยของนางดูคล้ายหญิงสาวมากขึ้น

เขาใช้ช่วงเวลานั้นเตรียมอาหารเย็นไว้บนโต๊ะ พยายามไม่มองหญิงสาวร่างเล็ก ทั้งไก่ต้มและข้าวขาวธรรมดา ตั้งใจให้มื้อนี้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ความจนของเขาจะจัดหาได้

แต่เมื่ออาหารถูกวางลง เจี่ยนหรงกลับเอาแต่นั่งเงียบ ซดเพียงน้ำซุปเท่านั้น ใบหน้าขาวหม่นคล้ายจะแฝงร่องรอยของน้ำตา เอ้อร์กัวขมวดคิ้ว เขารู้สึกสงสารจับใจ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

“กินไก่สักหน่อยเถิด” เขาพยายามพูดเสียงเบา ตักน่องไก่ชิ้นใหญ่ใส่ในถ้วยของภรรยา

เจี่ยนหรงมองชิ้นไก่ในถ้วย ริมฝีปากบางสั่นระริกเหมือนจะร้องไห้ ในใจเอ้อร์กัวคิดว่านางคงไม่เคยกินไก่มาก่อน เพราะสองตายายกัวเหอที่เลี้ยงนางมาก็ยากจนไม่แพ้เขา อีกทั้งแก่ชราจนล่าสัตว์ไม่ได้ เขาจึงพยายามตักไก่ให้นางอีก

แต่ทุกครั้งที่เขาตักชิ้นไก่ให้ เจี่ยนหรงกลับก้มหน้าหลบ แทบไม่แตะชิ้นไก่เลย นางซดน้ำซุปทีละนิด ด้วยสีหน้าราวกับต้องอดกลั้นอะไรบางอย่างในใจ

“อิ่มแล้ว เจ้ากินเถิด” ในที่สุด นางก็เงยหน้าขึ้น บอกเขาเบาๆ ก่อนจะวางถ้วยลง ทั้งที่เนื้อไก่ในถ้วยยังคงอยู่ครบ

เอ้อร์กัวจ้องมองถ้วยนั้นอย่างสงสัย แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่เก็บไก่มากิน เขากลัวว่าหากยังเก็บไว้อีก พรุ่งนี้ไก่อาจจะบูดเน่า กลายเป็นเสียของดีๆ

คืนนั้น ในความเงียบของเรือนเล็กที่มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วผ่านหน้าต่าง เอ้อร์กัวนอนอยู่บนเตียงแข็งๆ ข้างเจี่ยนหรง ภรรยาของเขาที่หลับสนิทเหมือนเด็กไร้เดียงสา นางคงเหนื่อยล้าจากการเล่นโคลนมาตลอดวัน ร่างเล็กขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเก่าๆ ไม่รู้เลยว่าคนข้างกายนางกำลังมีน้ำตาไหลอาบแก้ม

เอ้อร์กัวพลิกตัวหนี นอนหันหลังให้นาง ภาพของเหมยฮวาลอยขึ้นมาในหัวอีกครั้ง ดวงตาคมเฉี่ยวราวหงส์และรอยยิ้มหวานที่เขาเคยเฝ้าฝันถึง ความคิดถึงที่ยังอบอวล แม้รักของเขาจะถูกหญิงคนรักอย่างเหมยฮวาขยี้จนแหลกสลาย

เขารู้ดีว่าภรรยาตัวเล็กของเขาไม่ได้ผิดอะไร แต่นางไม่ใช่เหมยฮวา และเขาไม่อาจห้ามหัวใจที่ยังอาลัยรักในอดีตได้ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าร่วงลงบนหมอนเปียกชื้น แม้เขาจะพยายามกลั้นไว้แล้ว

เจี่ยนหรงที่หลับอยู่ข้างกาย ดูไร้เดียงสาและไม่รู้เรื่องอะไรเลย เช่นนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องดี เพราะหากนางลืมตาตื่นขึ้นมาและเห็นน้ำตาของเขา คงยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดและทุกข์ใจไปกว่าเดิม เขานอนร้องไห้เงียบๆ ปล่อยให้ความรู้สึกอันหนักอึ้งถาโถมเข้าหา เขายังคงถูกความรักในอดีตกักขัง รู้ตัวอีกคราก็เกือบเช้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel