บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ผู้ตรวจการคนใหม่

ตอนที่ 4 ผู้ตรวจการคนใหม่

ฟิ้ว ๆ ลมเย็นพัดผ่านร่างบาง นางเดินมาที่ริมสายธารเพื่อตักน้ำให้วัวครั้นนั้นแสงบนท้องฟ้าเหลืองอร่าม เฉินไป๋อิงวางกระถังน้ำลงไว้ที่พื้นสายตาเงยมองไปบนท้องฟ้าหลับตาสุดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดอย่างชื่นใจ

“ท่านแม่ขอรับ ท่านแม่” เสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายดังขึ้นนางก้มหน้าลงลืมตาจ้องมองไปที่เด็กชายที่เดินตามหลังนางมาติด ๆ

“เฉิงหงมีอันใด”

“ดูสิขอรับ แมลงปอบินเต็มท้องฟ้าเลย ข้าชอบขอรับงดงามและอิสระ”

“นั่นสินะ งดงามจริง ๆ ยามนี้เจ้าเองก็งดงามและอิสระเหมือนแมลงพวกนั้น จริงสิตั้งแต่ข้าเลี้ยงเจ้ามา ข้าไม่เคยถามเจ้าเลย เฉิงหงของข้าเติบโตอยากเป็นอะไรหรือ? อยากเป็นบัณฑิตหรือไม่? เจ้าอยากเติบโตเป็นขุนนางหรือรับราชการมั้ย”

“ไม่ขอรับ ข้าต้องการอยู่กับท่านแม่เลี้ยงไก่เลี้ยงวัว ปลูกผักเพียงเท่านี้ข้าก็มีความสุขแล้วขอรับมิต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม” เฉิงหงยิ้มระเรื่อให้มารดาพร้อมเดินนำหน้ากลับเรือนเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนต่ำลง

1 เดือนต่อมา

เฉิงไป๋อิงเริ่มหาตลาดลงขายผักให้มากกว่าเดิม เพราะตอนนี้ผักที่นางปลูกโตพร้อมที่จะเก็บขาย เถ้าแก่ร้านหมั่นโถวจึงบอกให้นางนำผักไปนั่งขายในตลาด ไม่แน่อาจจะขายได้ดี นางจึงเก็บผักที่โตเต็มวัย ผักของนางงดงามได้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ที่นางเลี้ยงเอาไว้ เฉิงหงดีใจรีบเดินตามหลังท่านแม่ไปที่ตลาดมองหาที่ว่างและตั้งผักขาย

เสียงจอแจของชาวบ้านดังขึ้นพากันมองมาที่นาง แรก ๆ ชาวบ้านไม่แม้จะกล้าเดินเข้ามาซื้อเพราะกลัวนางจะแย่งสามี คำยุยงคำด่าทอของท่านป้าที่เอาเรื่องของนางไปซุบซิบนินทาทำให้ทุกคนไม่อยากจะสุงสิงกับนาง ทว่าผักของนางทั้งอวบทั้งใหญ่น่ากิน อีกทั้งนางยังเขียนราคาติดไว้อย่างชัดเจน ราคาไม่แพงแถมยังสดใหม่มีหรือที่ชาวบ้านไม่แห่กันมารุมซื้อ

“แม่นางข้าอยากได้ผักบุ้งนั่น ราคาเท่าไหร่”

“พี่ชายข้าขายไม่แพงเจ้าค่ะ ผักบุ้งราคากำละ 1 อีแปะ ผักอื่น ๆ ก็ราคาเท่ากันเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นข้าเอาผักที่วางอยู่ข้าง ๆ นั่นอีกกำ” เฉิงหงรีบเดินไปหยิบให้แก่ชายที่เข้ามาซื้อเป็นผู้แรก

“ขอบคุณท่านอาที่อุดหนุนข้า ทั้งหมด 2 อีแปะขอรับ” เขารับผักพร้อมยื่นเงินให้แก่เฉิงหงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่สายตาจ้องมองดูผักในมือ ก่อนจะเดินจากไป ลูกค้าคนแรกเดินผ่านไปที่ใดมีแต่ผู้คนเอ่ยถามและพากันมาอุดหนุนทำให้ผักที่เฉินไป๋อิงเก็บมาหมดในไม่ช้า

“ท่านแม่ ผักของเราขายดีจริง ๆ รุ่งเช้าข้าจะรีบเข้าสวนผักเก็บผักให้ได้มากกว่าเดิมนะขอรับเราจะได้ร่ำรวย ๆ”

เด็กชายดวงตาเป็นประกายดีใจที่ขายของในวันแรกหมดตั้งแต่ยังไม่ค่ำ เฉินไป๋อิงเก็บกระบุงเพื่อเดินทางกลับยิ้มระเรื่อตอบกลับบุตรชาย

“นั่นสินะ วันนี้เฉิงหงช่วยแม่เต็มกำลังอยากได้อันใดหรือไม่ แม่จะซื้อให้เจ้าเอง”

“สิ่งที่ข้าอยากได้ไม่ใช่สิ่งของขอรับ ข้าอยากให้ท่านแม่พักผ่อนเร็ว ๆ หลายวันมานี้ข้าเห็นท่านแม่เหน็ดเหนื่อย”

“โธ่ ๆ เฉิงหงเจ้านี่ชางเป็นเด็กฉลาดจริง ๆ เอาเช่นนี้ถึงบ้านเมื่อไหร่แม่มีสิ่งของเป็นสิ่งตอบแทนในการช่วยเหลืองาน” ไป๋เฉิงอิงก้มลงกระวิบข้างหูยิ่งทำให้เด็กชายดวงตากลมโตมากกว่าเดิม

ทั้งสองแม่ลูกเดินทางกลับเรือนระหว่างทางได้ยินเสียงเอะอะโวยวายตะโกนเสียงดังรวมทั้งมีรถม้ากำลังเคลื่อนขบวนมาที่ท้องถนน ชาวบ้านพากันมุงดูด้วยความตื่นเต้น และพูดคุยกันว่าขบวนรถม้านี่คือขบวนรถม้าของท่านผู้ตรวจการประจำหมู่บ้านนี้

“เจ้ารู้หรือไม่? ผู้ตรวจการที่ย้ายเข้ามาใหม่เป็นบุตรของขุนนางร่ำรวยแถมยังเป็นบุรุษรูปงาม หากข้ายังเป็นสตรีแรกแย้ม ข้าจะเข้าหาไม่แน่ข้าอาจจะได้เป็นฮูหยินของท่านผู้ตรวจการก็เป็นได้”

“เจ้านะหรือ? ฮึ ฮึ เจ้าเป็นได้แค่สาวใช้ในจวนผู้ตรวจการเท่านั้นแหละน่า หากเป็นบุตรชายของขุนนางอย่างเจ้าว่าคงไม่เปรยสายตามองชาวบ้านอย่างเราหรอก เลิกฝันกลางวันเสียที” บทสนธนาของสตรีรุ่นใหญ่พูดคุยหัวเราะคิกคักถึงผู้ตรวจการ สตรีวัยออกเรือนต่างพากันออกจากเรือนมายืนมองดูความสง่างามของผู้ตรวจการร่วมทั้งลี่หลินลูกพี่ลูกน้องของเฉินไป๋อิง นางยืมอยู่แถวหน้าถือพัด พัดไปมาสายตาจ้องมองไปในรถม้าที่กำลังเคลื่อนผ่านอย่างช้า ๆ หน้าต่างรถม้าเปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าคมคาย ไม่ว่าจะมองไปทางใดช่างไร้ที่ติเสมือนเทพจุติลงมาบนโลก ใจของลี่หลินเต้นแรงระรัว ดวงตาเป็นประกายแวววาวยืนตะลึงอยู่กับที่

“ข้าพบแล้วบุรุษที่จะมาเป็นสามีของข้า ช่างสง่างามเสียจริงแต่ทว่าใบหน้าเหมือนข้าคุ้นชินและเคยพบที่ใดสักแห่ง หรือว่าอาจจะเป็นบุรุษในฝันโชคชะตาให้เราได้มาพบพาน” ลี่หลินยิ้มระรื่นเดินออกจากกลุ่มกลับเรือน รุ่งสางนางจะเข้าไปทักทายทำความรู้จักกับผู้ตรวจการผู้นี้

ต่างจากเฉินไป๋อิงนางมิได้ใส่ใจแม้แต่น้อยว่าผู้ใดมา หรือผู้ใดจะไปในความคิดของนางยามนี้คือพาบุตรชายกลับเรือน เอาอาหารไปให้แม่ไก่ เอาหญ้าให้วัวได้กินค่อยกลับเข้าเรือนทำอาหารแสนอร่อยให้บุตรชายได้กิน โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าผู้คนกำลังตื่นเต้นกับผู้ตรวจการใหม่เพียงใด

เรื่องการค้าขายผักของเฉินไป๋อิงดังขึ้นหูของเจี่ยนอันหนิง นางตาร้อนผ่าวไม่น่าเชื่อว่าเฉินไป๋อิงจะมีปัญญา นางจึงจะเดินทางไปเห็นด้วยตาตัวเองที่เรือนของเฉินไป๋อิง ระหว่างนั้นลี่หลินมาพอดี

“ท่านแม่จะรีบร้อนไปที่ใดหรือเจ้าคะ ข้ามีเรื่องน่ายินดีมาเล่าสู่ท่านแม่ฟังเจ้าค่ะ”

“เรื่องของเจ้าเอาไว้ก่อนยามนี้ข้าต้องไปให้เห็นด้วยตาตนเอง นังไป๋อิงมันหาปัญญาจากที่ใดมีผักไปขายที่ตลาด แถมยังขายในราคาถูกและผักสวยงาม ข้าไม่เชื่อหรอกว่าผักพวกนั้นนางจะปลูกเองหรือว่าตอนนี้พ่อค้าผักต่างหมู่บ้านมาหลงใหลผัวพันกับนาง ยกผักให้นางมาค้าขายกันนะ!! ง่ายไม่เปลี่ยนจริง ๆ นี่นะหรือบุตรของขุนนาง” เจี่ยนอันหยิงพูดไปโมโหไป เพราะความอิจฉาริษยาต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มีอยากได้ทุกอย่างที่ไม่ใช่ของตนเองเมื่อเห็นเฉินไป๋อิงได้ดีไปกว่าตนนางยิ่งไม่พอใจ

“ท่านแม่ข้าไปด้วยเจ้าค่ะ ตั้งแต่นางออกจากเรือนไปข้าไม่เคยเห็นนางเลย ป่านนี้บุตรของนางคงเติบโตมากแล้วสินะ คงผอมเนื้อหุ้มกระดูกสภาพมอมแมม” บุตรสาวนิสัยไม่ต่างจากมารดาเพราะนางอคติกับไป๋อิงเรื่องหนึ่ง หากครั้งนั้นไป๋อิงไม่โผล่ไปชีวิตของนางอาจจะดีกว่านี้เป็นฮูหยินของบุตรขุนนางไปตั้งนานแล้ว นางจึงกล่าวโทษว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดและคิดว่าไป๋อิงเป็นสตรีร้ายกาจอิจฉาริษยาต้องการแย่งของที่นางอยากได้ ทำให้ลี่หลินเกลียดไป๋อิงเข้ากระดูกดำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel