บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 มาต่อว่าถึงเรือน

ตอนที่ 5 มาต่อว่าถึงเรือน

เจี่ยนอันหนิงกับลี่หลินพากันเดินกึ่งวิ่งเพราะยามนี้ท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว เรือนของเฉินไป๋อิงอยู่หลังหมู่บ้านหากกลับค่ำกว่านี้อาจจะลำบากและหวาดกลัวอีกด้วย เมื่อมาถึงเจี่ยนอันหนิงใบหน้าบึ้งตึงเกรี้ยวโกรธ กวาดสายตาจ้องมองไปรอบๆ เรือนของเฉินไป๋อิงยิ่งไม่พอใจไปมากกว่าเดิม นางทำได้ขนาดนี้ได้อย่างไรไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่แปลงผักหรือว่านางมีคนเลี้ยงดู

“หน็อยวันนี้ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าผู้ใดกันที่แน่ที่เลี้ยงดูนางข้าไม่เชื่อหรอกว่านางหาของพวกนี้มาด้วยความมุมานะของนางเอง”

“ท่านแม่ในเรือนของนางเงียบไร้เสียงผู้คนข้าว่านางไม่ได้อยู่ด้านในแน่ ๆ เอ๊ะนั่นใช่นางหรือไม่เจ้าคะ" ลี่หลินชี้นิ้วไปที่แปลงผัก เห็นเฉินไป๋อิงกำลังรดน้ำผักกับบุตรชายของนาง สองแม่ลูกรีบเดินไปหานางที่แปลงผักทันที

“ท่านแม่ นั่นมิใช่หญิงชราที่ต่อว่าท่านแม่เมื่อคราวก่อนหรือขอรับ” เฉิงหงได้ยินเสียงฝีเท้าเงยหน้าขึ้นมองเห็นสตรีสองนางกำลังเดินตรงมาหาตนและมารดา ไป๋อิงวางถังน้ำถอนหายใจเฮือกใหญ่คิดว่าตนเองจะพ้นจากคนพวกนี้ทำไมยังมาระรานนางอีก

“พวกท่านมาทำอันใดที่นี่ ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าข้าตัดขาดไม่มีญาติผู้ใหญ่”

“ทำเป็นปากดี ข้าเพียงแค่ต้องการมาดูให้เห็นกับตาเท่านั้นว่าเจ้านำผักจากที่ใดไปขายที่ตลาด เดิมทีข้าคิดว่าเจ้ามีเจ้าของแปลงผักหมู่บ้านอื่นมาดูแล หลงมารยาเจ้าจนต้องมอบผักให้เจ้าเป็นการตอบแทน ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะให้ร่างกายแลกทั้งเมล็ดผักและสัตว์เลี้ยงพวกนี้ ฮึ ฮึ ไร้ศักดิ์ศรีเสียจริง ไม่ว่าเจ้าจะตัดขาดข้าอย่างไรก็อย่าลืมว่าทุกคนล้วนรู้ว่าเจ้าคือผู้ใด อย่าทำเรื่องให้ข้าต้องเดือดร้อนอับอายขายขี้หน้า ให้ฮูหยินเรือนอื่นมาชี้นิ้วด่าทออยู่หน้าเรือนเอาได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ข้าจะจัดการขับไล่เจ้าออกจากหมู่บ้านแห่งนี้เอง” ไป๋อิงคิดไว้แล้วสองแม่ลูกคู่นี้ไม่ได้มาดีแน่นอน เพราะทั้งสองไม่เคยคิดดีเห็นว่านางเป็นคนในตระกูลสายเลือดเดียวกันแม้แต่น้อย ขนาดสมบัติยังแย่งของนางไปจนหมด

“เฮอะ สมองของท่านคงเล็กยิ่งกว่ากองมูลสัตว์ที่อยู่ตรงหน้านั่นเสียอีกนะเจ้าคะถึงคิดแต่เรื่องไม่ดี ไม่ต้องห่วงหรอกว่าข้าจะสร้างความเดือดร้อน ให้อย่าลืมสิว่าผู้ใดกันแน่ที่ขับไล่ข้าออกจากเรือนของข้ามา ยังเหลือความอับอายอยู่หรือแม้กระทั่งความละอายใจของท่านยังไม่มีเหลืออยู่อย่าว่าแต่ความเป็นคนเลย ออกไปจากเรือนของข้า ข้าไม่ต้อนรับ” ไป๋อิงมิอาจทนขับไล่เสียงดังสนั่น ลี่หลินยืนอยู่ด้านหลังใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความโมโหตอบกลับไป๋อิงทันที

“เจ้าอย่ามาล่วงเกินท่านแม่ของข้าเช่นนี้นะ เจ้าไม่รู้จักสำนึกบุญคุณเพราะท่านแม่ของข้าเจ้าถึงมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ คิดว่าข้าอยากมาเหยียบเรือนของเจ้าหรือไง อี๊กลิ่นสาบกลิ่นโคลนสกปรกสิ้นดี แม้กระทั่งตัวของเจ้าข้าไม่อยากจะเดินเข้าใกล้ด้วยซ้ำเหม็นสาบ” ลี่หลินพูดพรางยกแขนเสื้อปิดจมูก ไป๋อิงแสยะยิ้มเมื่อเห็นกิริยาท่าทางของลี่หลิน นางเองก็ต่ำไม่ต่างไปจากนางนักหรอก ไป๋อิงรำคาญอยากขับไล่ให้ทั้งสองออกจากที่นี่ไปเร็ว ๆ สายตาของนางเหลือบไปเห็นกองมูลวัวที่อยู่ใกล้ ๆ นางนำมาใส่ผักเมื่อคราวก่อนยังกองอยู่ที่เดิม นางก้มลงนำมือกำมูลสัตว์ที่แห้งเป็นผงโยนใส่ทั้งสองคนพร้อมเอ่ยปากขับไล่อีกครั้ง

“ว่าข้าเป็นคนสกปรก พวกเจ้าเองก็สกปรกไม่ต่างกันนักหรอก ออกไปจากเรือนของข้าก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน”

“กรี๊ด!! นี่เจ้าเอาอันใดขว้างใส่พวกเรา ทำไมถึงเหม็นอย่างนี้”

“มูลวัวนะ ข้ายังมีความเมตตาใช้มูลแห้งหากยังไม่รีบก้าวเท้าออกไปตอนนี้ข้าจะเอามูลเปียกขว้างใส่พวกเจ้าอีกครั้ง”

“กรี๊ด!! ท่านแม่ข้าแสบตากายของข้าเหม็นไปหมดแล้ว นังเฉินไป๋อิงข้าฝากเอาไว้ก่อนเรื่องนี้ข้าไม่ยอมแน่ ๆ ”

ลี่หลินทั้งเหม็นทั้งคันรีบเดินกึ่งวิ่งออกจากเรือนของเฉินไป๋อิงด้วยความเจ็บใจ ก่อนจะไปไม่ลืมที่จะฝากความแค้นเอาไว้

“อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทำอันใดเจ้า คอยดูเถิดแค้นครั้งนี้ต้องได้ชำระ” เจี่ยนอันหนิงชี้นิ้วด่าทอไป๋อิงอีกคนก่อนจะวิ่งตามหลังบุตรสาวออกไปกลัวว่าไป๋อิงจะใช้มูลสัตว์เปียก ๆ มาขว้างใส่อย่างที่นางกล่าวมาเมื่อครู่

แปะ ๆ

“เยี่ยมไปเลยท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นท่านแม่สู้ผู้ใดสักครา วันนี้ท่านแม่ของข้ายอดเยี่ยมที่สุด” เด็กชายตบมือพร้อมเอ่ยเชยชมท่านแม่ของตน ไป๋อิงถอนหายใจมองตามแผ่นหลังของสองแม่ลูกก่อนจะก้มล้างมือในถังน้ำ

“สิ่งที่แม่ทำไม่ใช่เรื่องดีนัก เจ้าอย่าได้จำและทำตามแต่หากว่ามีผู้ใดมาระรานเจ้าก่อนเมื่อนั้นเจ้าถึงสู้กลับ อย่ารังแกผู้ใดเหมือนสตรีทั้งสองเมื่อครู่เข้าใจหรือไม่”

“ขอรับท่านแม่ ข้าย่อมรู้ว่าสิ่งใดดีไม่ดี แต่ว่าตอนนี้ข้าหิวแล้ว”

“นั่นสินะ ท้องฟ้ามืดน่าจะถึงยามโหย่ว (18.00) แล้วเจ้าไปล้างเนื้อล้างตัวเถิด แม่จะล้างไม้ล้างมือไปเตรียมอาหารให้เจ้าเอง” ไป๋อิงจูงมือลูกชายเข้าเรือนแยกไปทำอาหารให้บุตรชายอย่างที่กล่าวมาเมื่อครู่ ในใจครุ่นคิดเรื่องรับมือจากสองมือลูก นางเชื่อว่าทั้งสองไม่ยอมปล่อยนางไปง่ายๆ แน่

ยามเหมา (06.00)

เฉินไป๋อิงตื่นแต่เช้าตรู่หลังจากเตรียมอาหารเช้าเสร็จนางไปที่สวนด้านหลัง เติมหญ้าและน้ำให้วัวที่เลี้ยงเอาไว้ก่อนจะนำเศษผักและหัวอาหารที่นางนำมาจากมิติเพื่อให้ไก่ที่นางเลี้ยงเติบโตอย่างแข็งแรงออกไข่ออกมาอย่างสมบูรณ์ เมื่อจัดการสัตว์เลี้ยงแล้ว นางไปตักน้ำมารดผักอย่างขะมักเขม้น แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องลงมาทำให้ผักของนางเขียวชอุ่มงดงามจนนางลืมความเหน็ดเหนื่อยไปหมดสิ้น

“วันนี้ผักเริ่มโตมากแล้ว วันนี้ข้าจะนำพวกเจ้าออกสู่ท้องตลาดขอให้ขายดีเช่นดั่งเมื่อวานด้วยเถิด” เฉินไป๋อิงปาดหยาดเหงื่อพร้อมพูดออกมาพึมพำ ก่อนจะได้ยินเสียงของเฉิงหงพูดคุยเสียงดังเดินมาทางนาง คิ้วของนางขมวดเข้าหากันอย่างงวยงงเพราะมีบุรุษรูปงามเสื้ออาภรณ์ที่สวมใส่เพียงแค่เห็นครู่เดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้านเป็นแน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel