บทที่6
หลังจากหย่าเรียบร้อยแล้ว ช่วงแรกนิรมนยังอาศัยอยู่ในห้องเพื่อนสนิท ก่อนจะหาห้องเช่าราคาไม่แรงที่อยู่เขตเดียวกันได้ หญิงสาวตั้งใจไว้ว่าจะลองหาทำงานประจำดู แต่ถ้าไม่ได้ยังไงค่อยหาลู่ทางอื่นเพื่อขายของ
ส่วนวันนี้หล่อนกับเพื่อนรักนัดกันไปไหว้พระขอพรแถวที่ทำงานของอุ่น
นิรมนยืนรออยู่หน้าศาลเจ้าได้ไม่นาน หญิงสาวร่างผอมสูงผมสั้นก็รีบวิ่งถลาเข้ามา
“โทษทียัยนิ รอฉันนานไหม”
“ฉันก็พึ่งมาเหมือนกัน” คนตัวเล็กตอบเสียงหวาน ก่อนจะเดินนำไปซื้อธูป เทียน ดอกไม้ ของบูชาอีกหลายชิ้น
สองมือยกพนมขึ้นไหว้ ปากก็พรางสวดตามข้อความบนแผ่นกระดานตรงหน้า จิตตั้งอธิษฐานแน่วแน่
'ภาวนา..ข้าพเจ้านางสาวนิรมน ผู้มี ไม่เคยกระทำกรรมชั่ว เลือกทำแต่กรรมดี หากชาตินี้ข้าพเจ้าไม่สมหวังในความรัก ก็ขอให้ข้าพเจ้ามีโอกาสได้เป็นแม่คนสักครั้งเถอะ สาธุๆๆ'
เมื่อได้ทำบุญขอพร จิตอันขุ่นมัวเริ่มสดใสขึ้น อุ่นเองก็ดีใจที่เพื่อนตัดใจจากอดีตสามีได้เร็วกว่าที่คิด
“แล้วนี่แกจะกลับเลยไหม?” หล่อนถาม นิทำหน้าคิดเล็กน้อย ก่อนจะบุ้ยปากไปโซนตลาดที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
“ฉันว่าจะเดินเที่ยวอีกสักนิด แล้วเดี๋ยวสักพักก็จะกลับแล้วล่ะ”
“โอเค งั้นเจอกัน”
หลังแยกย้ายคนหน้าหมวยก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ นานแล้วที่หล่อนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว แม้แต่เรื่องง่ายๆ แบบการเดินดูของโง่ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไร เพราะก่อนหน้านี้มีทั้งงานราษ งานหลวงอยู่แทบตลอดเวลา
อารมณ์ของนิรมนจึงค่อนข้างแจ่มใสมากกว่าช่วงที่ผ่านมา ความเคียดแค้นชิงชังคลายลง เหลือแต่ความยินดีกับอิสรภาพที่ได้รับ
ดวงตาสองชั้นหลบในกวาดมองบริเวณโดยรอบ ก่อนจะสะดุดตากับร้านหนังสือเก่าร้านหนึ่ง น่าแปลกในยุคทุกอย่างคือออนไลน์ แต่ยังมีร้านหนังสือมือสองเหลือรอดมาได้ถึงตอนนี้
ร่างกายไวเท่าความคิด ร่างเล็กทะมัดทะแมงเดินเข้าร้านทันที ภายในร้านเวลานี้ไร้ลูกค้าแม้แต่คนเดียว มีเพียงหญิงชรากำลังนั่งสัปหงกอยู่ตรงหลังเคาน์เตอร์ กลิ่นหนังสือติดจะอับชื้นลอยอยู่ในอากาศ ทว่ากลับสร้างบรรยากาศชวนให้สงบใจ
นิรมนลังเลว่าจะปลุกเจ้าของร้านดีไหม ทว่าคิดอีกทีก็เกรงใจ ดังนั้นจึงตั้งใจว่าเมื่อเลือกหนังสือเสร็จค่อยปลุกชำระเงิน
ซึ่งชั้นหนังสือภายในร้านถูกจัดเรียงรายแยกเป็นหมวดหมู่ค้นหาง่าย มือเล็กไล่ไปตามสันหนังสือมองหาเล่มที่น่าสนใจ จนสะดุดตากับหนังสือปกสีแดงโดดเด่นกว่าเพื่อน
‘เกลียดรักผู้ชายใจร้าย’
ชื่อเรื่องแสนจะ toxic เกือบจะทำให้มือเล็กวางหนังสือคืนชั้น แต่เมื่อพลิกราคาด้านหลังลดจากปกเกือบ 90% มีผลต่อคนตัวเล็กที่ตั้งใจประหยัดเงินซื้อเก็บไว้อ่านเล่น นิรมนลัดเลาะหาหนังสือประโลมโลกไว้อ่านเล่นได้อีกสองสามเล่มจึงเดินไปจ่ายเงิน
เมื่อกลับถึงห้องเช่าสาวโสดอย่างหล่อนจึงจัดแจงเทสุกี้แห้งที่พึ่งซื้อจากปากซอยลงจาน นานแค่ไหนแล้วนะ ที่หล่อนไม่ต้องไปจ่ายตลาด…หาข้าวหาปลาให้คนทั้งบ้านกิน ซึ่งสมัยก่อนเมนูที่ทำส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่ของชอบ หรือต้องคำนึงเรื่องสุขภาพของคนในบ้านเป็นหลัก นานๆ ทีถึงจะได้ทำเมนูที่ตัวเองอยากกิน
หลังทานข้าว อาบน้ำสบายตัว อารมณ์จึงแจ่มใสมาก คนตัวเล็กคว้าหนังสือที่พึ่งสอยจากร้านมือสองขึ้นเตียง
ภายในหนังสือเริ่มเรื่องต้นด้วยความ toxic แบบที่หล่อนคิดไว้ไม่มีผิด โดยพระเอกของเรื่องมีชื่อว่า ‘พันธดนย์ เทพเกรียงไกร’ ตามบทบรรยายชายหนุ่มรูปร่างหล่อเหลาด้วยได้ความเป็นลูกเสี้ยวมาจากมารดา และตามขนบนิยม ไอ้พระเอกธงแดงมีแฟนสาวที่เป็นคู่หมั้นหมายกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก
ยัยน้องนางเอกทั้งน่ารัก..ขี้อ้อน..แสนดี ส่วนไอ้ผู้ชายเฮงซวยดันไม่เห็นค่า
นิรมนอ่านไปกัดฟันไปด้วยด่าไปด้วย เพราะพฤติกรรมไอ้ลูกหมาสุดแสนจะร้ายกาจ ทั้งนอกกาย นอกใจนางเอก ส่วนนางเอกช่วงแรกก็ยังทน แม้ว่าจะได้รับความหมางเมินจากคู่หมั้นมากแค่ไหนก็ตาม บทบรรยายไปเรื่อยๆ จนไปถึงกลางเรื่อง
ผู้ชายธงเขียวก็โผล่ออกมา สถานะชายหนุ่มเป็นน้องชายคนละแม่ของพันธดลย์ เขานั้นแสนดีทุกอย่าง
ไทป์พระรองชัดเว่อร์
นิรมนกระโดดขึ้นเรืออย่างไม่ต้องคิด แม้ภายในใจจะเตรียมใจกับตอนจบไว้ในระดับหนึ่ง เพราะรู้ว่านักเขียนในยุคก่อนมักนิยมเขียนให้นางเอกคู่กับผู้ชายร้ายๆ
เมื่อเนื้อหาดำเนินไปเรื่อยๆ ประกอบกับน้องชายตามช่วยเหลือนางเอกอยู่เสมอ สุดท้ายคนทั้งคู่ต่างก็ตกหลุมรักกัน
ถึงตรงนี้นิรมนถึงกับตบเข่าฉาด นึกดีใจว่าอีตาพันธดลย์ไม่ใช่พระเอกของเรื่อง เป็นเพียงแค่ตัวร้ายในเรื่อง แถมสุดท้ายยังตายอย่างอนาถ
ซึ่งหญิงสาวไม่รู้เลยว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นความฉิบหายที่จะตามมา!!
..
