บทที่ 5
ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคิดอย่างเยาะหยัน แต่เมื่อเวลาบนมือถือถึงเวลานัดปุ๊บ หญิงสาวในชุดเดรสสีน้ำเงินขลับผิวขาวจัดให้ผ่องสว่างก็เยื้องย่างลงจากรถแท็กซี่ ด้านหลังตามมาด้วยสาวผมบ๊อบท่าทางทะมัดทะแมง
อนันท์ชะงักชั่วครู่ เมื่อเห็นภรรยาที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นคนอื่นเดินเข้ามา ใบหน้าเล็กถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนากว่าปกติ ทว่ากลับขลับเครื่องหน้าทุกส่วนให้โดดเด่น..ความสวยไม่ต่างจากวันแต่งงานแม้แต่นิด ถ้าจะต่างคงเป็นสีหน้าเรียบสนิทว่างเปล่าที่มองมา
ความรู้สึกเสียดายวาบขึ้นโดยไม่รู้ตัว โลกมักจะใจดีกับคนสวยฉันใดก็ฉันนั้น
“สวัสดี..นิกินอะไรมาหรือยัง” อดีตสามีตะกุกตะกักถามด้วยความเคยชินปนประหม่า
ไหนมารดาบอกว่าตอนที่ทะเลาะกันเจ้าหล่อนฟูมฟายตีอกชกหัว..เสียอกเสียใจนักหนา ช่างต่างจากภาพตรงหน้าที่เขาเจอเหลือเกิน
ยิ่งเจ้าหล่อนเลือกใช้คำพูดตัดบท ยิ่งพาให้คนที่เชื่อมั่นในตนเองว่าทำเลวแค่ไหนภรรยาตัวน้อยก็ไม่มีวันจะเลิกรัก..ใจวูบโหวง
“เข้าไปข้างในเลยไหมคะ”
ชายหนุ่มจำใจเดินตามร่างเล็กเข้าไปด้านใน..แผ่นหลังบาง ก่อให้เกิดความลังเลผุดขึ้นมาพร้อมกับภาพในอดีต
ภาพเด็กผู้หญิงแถวบ้าน ซึ่งต่อมากลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้น..เติบโตมาด้วยกัน รักกัน
ภาพที่หญิงสาวทำบะหมี่ให้กินยามดึก เพราะเขาต้องเตรียมสอบหมอ
วันที่เข้าโรงพยาบาลก็มีเธอมาคอยเฝ้าไม่ห่าง
วันที่เขาขอร้องให้ออกจากงาน ทั้งที่เธอสอบติดข้าราชการครูตามความฝันที่มีตั้งแต่วัยเยาว์..ด้วยข้ออ้างให้เห็นแก่ครอบครัวของเรา
ตลอดเวลาสามสิบกว่าปี..ไม่มีวันไหนที่ไม่มีกัน
เราผ่านทั้งวันที่ทุกข์ และวันที่สุขมาร่วมกัน
จวบจนวันนี้เขาประสบความสำเร็จหน้าที่การงานก็มีเธออยู่เคียงข้าง
“มาซิคะ คุณกำลังยืนรออะไร” ภรรยาตัวน้อยหันมาตั้งคำถามเสียงเรียบ ร่างสูงเดินตามด้วยความไวที่เร็วขึ้น และกว่าเขาจะรู้ตัวก็มานั่งอยู่หน้าโต๊ะ ซึ่งเจ้าพนักงานตั้งคำถามทันที
“พวกคุณคิดเรื่องหย่ามาดีแล้วใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“….”
“อ้าว..คุณผู้ชายคิดดีแล้วใช่ไหม?” เจ้าหน้าที่ถามซ้ำเมื่อเห็นชายหนุ่มที่มาด้วยกันนั่งนิ่ง เพราะมีหลายคู่เมื่อถึงเวลาหย่ากันจริงแล้วเปลี่ยนใจ
นิรมนเองก็แปลกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ ไอ้ผู้ชายเฮงซวยเงียบไป จึงผินหน้าไปมองด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนจะตอบแทนว่า
“คิดดีแล้วซิคะ ก็ในเมื่อเขาเป็นคนขอฉันหย่า..เพื่อจะไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน” มือเล็กคว้าปากกาตรงหน้ามาเซ็นอย่างมั่นคง ปราศจากความลังเลแม้แต่น้อย พร้อมกับหันไปเร่งคนข้างตัว
"เซ็นซิคะ"
นายแพทย์อนันท์จำใจต้องเซ็นช่องว่างด้านข้างมือไม้สั่น
เมื่อเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว อดีตภรรยาหยิบมันลงกระเป๋าที่เตรียมมาด้วยความไว เพียงแค่หายใจร่วมกันเพียงไม่กี่นาทีก็ชวนให้หล่อนสะอิดสะเอียนเต็มทน
“นิ..คุณจะไปไหน..ให้ผมไปส่งไหม” อดีตสามีที่กำลังใจแป้วส่งคำถามเสียงแผ่ว ในขณะที่อุ่นผู้มาด้วยถึงกับหงุดหงิดในพฤติกรรมไม้หลักปักขี้เลนของชายหนุ่มนัก
“แกจะมาทำตัวอ่อนโยนในวันที่เลิกกันไม่ได้ป่ะวะ นันท์”
“ฉัน…” เขาลังเลเล็กน้อย นึกอยากจะ ‘ขอโทษ’ เธอกับเรื่องที่เขาเผลอทำแย่ไป แต่ปากก็ยังหนัก
อีกทั้งช่วงหลังๆ นึกว่าตนไม่รู้สึก ‘รัก’ ผู้หญิงตรงหน้าแล้ว มีเพียงแต่ความอิดหนาระอาใจปนรำคาญ ทว่าเมื่อถึงเวลาต้องลาจากกันจริงๆ ความอาลัยอาวรณ์กลับผุดขึ้นไม่หยุด
ราวกับว่าถ้าเขาไม่รั้นเธอไว้ตอนนี้ เขาอาจไม่ได้เจอเธอตลอดไป
“นิ..นันท์”
“พอเถอะค่ะ ฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณ..แล้วก็ขอโทษด้วยที่ฉันไม่สามารถอวยพรให้คุณมีความสุขกับนังชู้”
พูดจบเจ้าหล่อนก็หมุนตัวจากไปพร้อมเพื่อนสนิท ทิ้งให้อดีตสามีเฮงซวยจ่อจมกับความรู้สึกสับสน
