บทที่ 4 แสร้งทำตัวอ่อนแอ
บทที่ 4
แสร้งทำตัวอ่อนแอ
เมื่อตอนเย็นมาถึง ทุกคนในบ้านจ้าวต่างทยอยกลับมาจากการทำงานตามปกติ ทำให้บรรยากาศในลานบ้านเริ่มคึกคักขึ้น
อีกครั้ง แต่ไม่นานเสียงของจ้าวหมิงหมิงก็ดังขึ้นขัดจังหวะทุกคน
“ปู่คะ ปู่ต้องช่วยฉันนะ ฉันถูกซีซีทำร้ายค่ะ” จ้าวหมิงหมิงร้องไห้เสียงดัง ดึงสายตาของทุกคนให้หันมามอง
ปู่จ้าวขมวดคิ้วหันไปมองหลานสาวคนโตอย่างเคร่งขรึม
“ซีซี ทำร้ายเสี่ยวหมิงจริงเหรอ”
จ้าวซีซีก้มหน้างุด ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
“ปู่คะ...ทำไมฉันจะต้องทำร้ายน้องด้วยล่ะคะ”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แววตาฉายความหวาดกลัวและความเสียใจออกมาได้อย่างแนบเนียน
“ฉะ...ฉัน แค่...ฉันแค่พยายามจะพูดดีกับน้อง แต่จู่ ๆ น้องก็โกรธขึ้นมา แล้วกล่าวหาว่าฉันทำร้าย ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ฮึก...”
พูดจบก็สะอื้นเสียงเบา ทำให้ภาพลักษณ์ของเธอยิ่งดูอ่อนแอและน่าสงสารเข้าไปอีก
ปู่จ้าวมองหลานสาวทั้งสองคนอย่างพิจารณา ก่อนจะขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม
“เสี่ยวหมิง กล้ากล่าวหาพี่สาวแบบนี้โดยไม่มีหลักฐานได้ยังไงกัน”
พอได้ยินเสียงของปู่ จ้าวหมิงหมิงจึงตกตะลึง ไม่คิดว่า
จ้าวซีซีจะพลิกสถานการณ์ได้รวดเร็วถึงขนาดนี้ จึงพยายามโต้แย้งอย่างไม่ยินยอม
“ปู่คะ ซีซีแค่แกล้งทำเป็นอ่อนแอ ความจริงแล้วเธอ...”
เพียะ!
เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังขึ้นกลางลานบ้าน ทำให้ทุกคนหันไปมองต้นเสียงอย่างตกตะลึง
“พอได้แล้ว” ชายวัยกลางคนที่เป็นอาสามของจ้าวซีซีและเป็นพ่อของจ้าวหมิงหมิง ฟาดฝ่ามือลงบนแก้มของลูกสาวตัวเอง พร้อมกับเสียงตำหนิอย่างไม่พอใจ
“กล้าทำให้พ่อเสียหน้าต่อหน้าปู่ได้ยังไง”
จ้าวหมิงหมิงยกมือขึ้นกุมแก้มที่ถูกตบ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและความคับแค้นใจ ก่อนจะพูดอีกครั้งอย่าง
ไม่ยินยอม
“พ่อ ฉันพูดความจริงนี่นา ความจริงแล้วซีซีไม่ได้อ่อนแอ
สักหน่อย ที่ผ่านมาเธอเสแสร้งมาตลอด และตอนนี้ก็กำลังเสแสร้งต่อหน้าทุกคน”
“หุบปาก! ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็กต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ ไม่ใช่กล่าวหาคนอื่นลอย ๆ แบบนี้” จ้าวตวนตวาดเสียงดัง
ตอนนี้เขาเริ่มโมโหลูกสาวตัวเองที่ทำให้ตนขายหน้าต่อหน้าญาติพี่น้อง ทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบสนิท
เหลียงฮุยและจ้าวหยวน ซึ่งเป็นพ่อแม่ของจ้าวซีซีมอง
ลูกสาวด้วยความประหลาดใจ แม้พวกเขาจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าจ้าวซีซีไม่ได้ออ่อนแออย่างที่จ้าวหมิงหมิงพูดก็ตาม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำเหมือนกับว่าเป็นกลางไว้ก่อน
“อาตวน อย่าลงโทษเสี่ยวหมิงแรงเกินไปเลยนะ” เหลียงฮุยพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่ก็แฝงความเย็นชาเอาไว้
“เสี่ยวหมิงยังเด็ก บางทีอาจเข้าใจอะไรผิดไปบ้าง”
จ้าวหยวนเสริมขึ้น ก่อนจะพูดต่ออย่างจริงจัง
“แต่กล่าวหาคนอื่นเช่นนี้ก็สมควรได้รับบทเรียนอยู่ดี”
ลู่ซือหรือว่าอาสะใภ้สาม ซึ่งเป็นแม่ของจ้าวหมิงหมิงกำหมัดแน่น รู้ดีว่าถ้าไม่ยอมทำอะไรสักอย่างครอบครัวของเธอจะต้อง
ถูกมองว่าไม่มีมารยาท
เธอกัดฟันก่อนจะหันไปสั่งลูกชายคนเล็กให้ไปหยิบไข่
สองฟองมา จากนั้นเดินไปยื่นให้จ้าวซีซีด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก
“ซีซี นี่เป็นไข่ไก่ที่บ้านอามีอยู่ อาขอให้หลานรับมันไว้
เป็นการขอโทษ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่หากจับน้ำเสียงดี ๆ ก็จะรู้ว่าอาสะใภ้สามคนนี้มีความไม่พอใจแฝงอยู่
การที่ต้องให้ไข่สองฟองกับหลานสาวอย่างจ้าวซีซี มันไม่ต่างอะไรกับดูดเลือกของเธอไป
จ้าวซีซียื่นมือรับไข่ไว้ พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
“ขอบคุณเค่ะอาสะใภ้สาม ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้ถือโทษโกรธน้องหรอกค่ะ น้องอาจจะทำไป เพราะน้องไม่ชอบฉัน”
พอได้ยินอย่างนั้น จ้าวหมิงหมิงก็กัดริมฝีปากแน่น จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเจ็บใจ แต่ไม่อาจพูดอะไรได้ตอนนี้
‘คอยดูเถอะนังซีซี ฉันจะต้องเอาคืนแกให้ได้’
หลังจากรับไข่จากอาสะใภ้สามอย่างว่าง่าย จ้าวซีซียังคง
ก้มหน้าทำตัวอ่อนน้อมเช่นเคย แม้ว่าจะอึดอัดใจไปบ้างที่ต้องแสร้งเป็นคนอ่อนแอแบบนี้ แต่เพราะต้องทวงตัวตนที่แท้จริงคืนมา
เลยต้องยอมเล่นละครไปก่อน
ก่อนจะหันไปมองจ้าวมู่อิงด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“เสี่ยวอิง พี่รู้ว่าเธอชอบกินไข่ ทำข้าวต้มไข่ก็น่าจะอร่อยนะ รับไปเถอะ พี่ให้”
ทุกสายตาต่างจับจ้องมองมาที่จ้าวซีซีด้วยความแปลกใจ
แต่เมื่อเห็นท่าทีอ่อนแอและอ่อนโยนแบบนั้น พวกเขาก็เริ่มคิดว่า
เธอคงไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างที่จ้าวหมิงหมิงบอกหรอก เพราะไม่อย่างนั้นมีหรือที่จะยอมให้ไข่ไก่กับจ้าวมู่อิงทั้งสองฟอง
จ้าวมู่อิงได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองจ้าวซีซี ดวงตากลมโตของเธอดูจะสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปรับไข่มา
“ขอบคุณค่ะพี่”
“ไม่เป็นไรหรอก เสี่ยวอิงเป็นน้องของพี่นะ พี่ย่อมเสียสละ
ให้ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรที่น้องชอบ พี่พร้อมที่จะให้เสมอ”
หญิงสาวตอบและยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน เธอพยายาม
ทำเหมือนร่างเดิมเพราะไม่ต้องการให้ใครจับผิดได้
เหลียงฮุยมองลูกสาวคนโตของตนด้วยความโล่งใจ กลัวว่าจ้าวซีซีจะเปลี่ยนไปเหมือนอย่างที่จ้าวหมิงหมิงพูดมาก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังทำตัวอ่อนโยนและโง่งมเหมือนเดิมจึงได้วางใจ
“ซีซีช่างเป็นพี่ที่ดีจริง ๆ รู้จักแบ่งปันน้องด้วย” เหลียงฮุยกล่าวชมด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้ว” จ้าวหยวนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพูดอย่างชอบใจอีกครั้ง “ซีซีของพ่อเป็นคนใจกว้างเสมอ”
ลู่ซือหรืออาสะใภ้สามที่ยืนอยู่ข้างกันได้แต่กำหมัดแน่น เนื่องจากไม่พอใจที่ต้องยกไข่ให้จ้าวซีซีตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้เด็ก
คนนั้นกลับเอาไปให้น้องสาวอีก
‘นี่หมายความว่าอย่างไร เธอกำลังประชดประชันใช่ไหม
จ้าวซีซี’ เธอคิดในใจอย่างเจ็บแค้น
ส่วนทางด้านจ้าวหมิงหมิงเองก็รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย จึงได้จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย ในใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจ รู้สึกว่าทุกอย่างในวันนี้ผิดปกติอย่างบอกไม่ถูก
แต่ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไร จ้าวซีซีก็ยังคงรักษาท่าทาง
ของตัวเองไว้ได้อย่างแนบเนียน ทำตัวเชื่อง ๆ อ่อนโยนและดูโง่งมเหมือนที่ทุกคนเคยเห็น
‘ปล่อยให้พวกเขาคิดไปเถอะว่าฉันยังเป็นจ้าวซีซีคนเดิม’
ภายในใจของเธอมีแต่ความเย็นชาแฝงอยู่ หญิงสาวรู้ดีว่า
คนพวกนี้ไม่เคยมีความจริงใจให้เลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนก็ไม่มีวันได้รับความรักจากครอบครัวนี้
‘แต่ก็ช่างเถอะ ฉันจะทำให้พวกเขาได้รับผลกรรมของตัวเอง’
แม้รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวซีซีจะยังดูอ่อนโยนแต่ภายในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยแผนการที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น
เมื่อไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไป เพราะนี่ก็เลยเวลามื้อเย็นมามากแล้ว
