บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ไม่อยากเป็นอนุ

หลังจากกลับถึงจวนกั๋วกง ห้องสกปรกเน่าเหม็นของหงเจี้ยนหยางก็ถูกเก็บกวาดจนเรียบร้อยแล้ว จางป๋อเหวินยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เด็กน้อยเสวียนหู่

“นี่มันอะไร” เขาถามกุนซือจาง

“นางเรียกว่า ตารางกายภาพบำบัด หรือก็คือ วิธีการรักษา”

“ฮะ? แช่น้ำอุ่นวันละหนึ่งเค่อ [1] เดินครึ่งชั่วยาม [2] กินอาหารที่ประกอบจากเมล็ดธัญพืช โดยเฉพาะถั่วและงา ผักใบเขียว ไข่แดง..ไข่แดงหรือ” อดีตแม่ทัพขมวดคิ้วมุ่น

“อืม..ข้าถามนางแล้ว นางบอกว่าให้แยกไข่ขาวออกไปและกินเฉพาะไข่แดง” จางป๋อเหวินพยายามอธิบายเพิ่ม

“ไร้สาระ แค่กิน เดินกับแช่น้ำอุ่น ไม่มีตำรับยา หรือการรักษาใด วิธีมักง่ายเช่นนี้ จะให้ข้าเชื่อได้อย่างไรว่านางเป็นเทพธิดา”

“นางบอกว่าเจ้ายังต้องเดินทางไปพบนางสองวันครั้งหนึ่ง เพื่อให้นางทำ..เอ่อ นางพูดว่า..กายภาพบำบัด และเจ้าต้องห้ามดื่มสุราอีกเด็ดขาด ต้องเปลี่ยนท่านอนด้วย และยังต้อง..”

“พอแล้ว ข้าไม่อยากฟัง ไปเอาเหล้ามา”

“ข้าไม่ใช่คนรับใช้ในจวนของเจ้า และข้าได้บอกฮูหยินผู้เฒ่าว่าเจ้าจะรักษาตัว ห้ามในจวนเก็บสุราไว้แม้แต่จอกเดียว”

“จางป๋อเหวิน!”

“หมูขี้ขลาด”

“ข้าไม่ได้เป็นหมู!”

“สุนัขเหม็นอาจม”

“จางป๋อเหวิน!!..ข้า..ข้าจะฟ้องนาง” หงเจี้ยนหยางราวกับเป็นเด็กน้อยถูกกลั่นแกล้ง เขาถึงขั้นยก นาง ที่กุนซือของเขาหวาดหวั่นมาข่มขู่

“...” กุนซือจางที่ปกปกติอ่อนโยนใจดี ยามนี้ในสายตาเต็มไปด้วยความเยียบเย็น แววตาของบุรุษชุดดำตัวเตี้ยว่างเปล่าจนน่ากลัว เขาเดินออกไปจากห้องทันที ไม่ยอมต่อปากต่อคำหรือหาทางบังคับเจ้าเสือดำเด็กน้อยอีก

“ข้า..ข้าไม่ได้ตั้งใจ” หงเจี้ยนหยางพูดตามหลัง แต่เสียงเบาจนอีกฝ่ายไม่ได้ยิน

“เฮ้อ..กายภาพบำบัดหรือ ข้าควรทำดีหรือไม่..เฮ้อ..” บุรุษตัวใหญ่กว่าเก้าฉื่อทิ้งตัวลงบนเตียง ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ยกแผ่นกระดาษขึ้นมาอ่านซ้ำอีกหลายรอบ ทำตัวราวกับหญิงสาวที่ถูกบังคับแต่งงาน ในใจเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน

เช้าตรู่ในวันอากาศเย็น อี้ซิ่ว สาวใช้ในจวนของกั๋วกงกำลังกวาดลานหน้าเรือนของท่านกั๋วกงคนปัจจุบัน ทุกคนในจวนล้วนรู้ดีว่าหงเจี้ยนหยางจะไม่ตื่นเวลาเช้าตรู่เช่นนี้

แต่จู่ๆ ประตูเรือนนอนของท่านกั๋วกงก็เปิดออก..อี้ซิ่วหันไปมองด้วยความตกใจ

“นี่..เจ้าชื่ออะไร มานี่หน่อย” หงเจี้ยนหยางเรียกสาวใช้

‘นี่ข้าทำเสียงดังเกินไปหรือ ข้าจะถูกโบยหรือ ข้า..ต้อง..’ สาวใช้อี้ซิ่วสติหลุดลอยเพราะความกลัวไปแล้ว

“นี่..” ชายหนุ่มงุนงงกับท่าทางหวาดกลัวนั้น

“อย่าฆ่าข้าเลยเจ้าค่ะ ข้ากลัวแล้ว” อี้ซิ่วร้องไห้ออกมา ขอร้องทั้งน้ำตาด้วยความหวาดกลัว สองมือกำไม้กวาดไว้จนสั่น

“ข้า..ไม่ได้จะฆ่าเจ้า แค่จะให้เข้ามาในห้องสักครู่”

“ท่านกั๋วกง! ได้โปรดไว้ชีวิตอี้ซิ่วด้วย อี้ซิ่วไม่ได้เป็นหญิงงามอะไร หากท่านอยากได้สาวใช้ช่วยอุ่นเตียง ข้า..ข้าจะไปตามพี่เอ้อหลิงให้ ข้า..ข้าไม่..” อี้ซิ่วถึงกับคุกเข่าลงตรงลานหน้าเรือน โขกศีรษะกับพื้นหินด้วยความกลัว

นางไม่อยากถูกยักษ์ผานกู่เช่นนี้พรากพรหมจรรย์ นางเคยได้ยินพี่เอ้อหลิง สาวใช้เพียงคนเดียวที่เคยอุ่นเตียงให้ท่านกั๋วกงพูดว่า เขาตัวใหญ่มาก ใหญ่จนข้าแทบทนรับไม่ไหว ร่างกายแทบฉีกขาด ช้ำไปทั้งตัว

พี่เอ้อหลิงยังน้ำตาคลอยามเมื่อเอ่ยคำพูดพวกนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับหลั่งน้ำตาให้กับการเสียสละของพี่เอ้อหลิง มอบของขวัญมากมายให้ ทั้งยกตำแหน่งอนุให้กับพี่เอ้อหลิงเพื่อปลอบใจ

แต่อี้ซิ่วหวาดกลัวยิ่ง นางไม่อยากร่างกายฉีกขาด ต่อให้ได้เป็นอนุจวนกั๋วกงนางก็ไม่ต้องการ นางรับไม่ไหว..นางกลัวรูปร่างสูงใหญ่ของท่านกั๋วกง

สาวใช้คิดไปไกล..

“เจ้าพูดเรื่องอะไร ข้าแค่จะให้เจ้าเข้ามาต้มน้ำร้อน ข้าจะแช่ตัว รีบหน่อย อีกครู่ข้าจะไปกินมื้อเช้ากับท่านแม่” หงเจี้ยนหยางตัดบท

“..เอ่อ เจ้าค่ะ” อี้ซิ่วเงยหน้าขึ้นมองท่านกั๋วกงอย่างงุนงง คราบน้ำตายังเต็มสองแก้มแม้จะหยุดร้องไห้ไปแล้ว แต่หากไม่ใช่การอุ่นเตียง นางก็ยินดีทำ

“แล้วเอ้อหลิงนี่มันใครกัน” ท่านกั๋วกงได้แต่ส่ายหัว ไม่เข้าใจท่าทางของสาวใช้สักนิด จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเอ้อหลิงที่อี้ซิ่วพูดถึงคือใคร

วันนั้น หงเจี้ยนหยางตื่นแต่เช้าจนทุกคนในจวนแตกตื่น ยามที่เขาเดินไปกินข้าวเช้ากับท่านแม่ ฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ในที่สุดบุตรชายของนางก็ยอมออกมาจากห้องเน่าเหม็นนั่นสักที

“ต่อไปให้ทำอาหารที่ประกอบจากเมล็ดธัญพืช โดยเฉพาะถั่วและงา ผักใบเขียว ไข่แดง เครื่องใน เนื้อหมูไม่ติดมัน เนื้อปลา ตับ นมและ เอ่อ..” ชายหนุ่มจำไม่ได้ทั้งหมด จึงหยิบแผ่นกระดาษออกมาดูให้แน่ใจ

“และให้มีผลไม้ด้วยเสมอ” หงเจี้ยนหยางสั่งสาวใช้ในจวน เขาตัดสินใจว่าจะลองทำตามวิธีของเทพธิดาเถื่อนนั่นดูสักครั้ง หากไม่ได้ผลค่อยตามไปหักคอนางก็ยังไม่สาย

“ได้..ลูกแม่อยากกินอะไรเพิ่มอีกหรือไม่ เดี๋ยวแม่สั่งพ่อครัวให้เตรียมไว้มากเท่าที่ลูกต้องการ” ฮูหยินผู้เฒ่าเอาอกเอาใจลูกชาย

“ไม่ต้องขอรับแค่นี้ก็พอ อีกอย่าง ให้สาวใช้ต้มน้ำให้ลูกแช่ทุกเช้าด้วยจะดีมากขอรับ” เขาไม่อยากเจอเหตุการณ์เช่นเมื่อเช้าอีก

“ได้ๆ ลูกแม่ต้องการสาวใช้สักคนเพื่อ..”

“ท่านแม่ ท่านหมอบอกแล้วว่าให้งดเรื่องในห้องหอด้วย เพื่อเพิ่มพลังไอหยาง [3] ขอรับ” เขาโกหกมารดาได้อย่างหมดจด ไร้ความรู้สึกผิด ไม่ใช่ว่าเขาเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ไม่ชื่นชอบสตรีตามที่ท่านแม่กังวล แต่เพราะร่างกายของเขาไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการ

ปัญหาเรื่องที่เขาไม่อาจร่วมเตียงกับสตรีหรือใครก็ตาม เป็นมานานมากกว่าอาการบาดเจ็บที่ข้อมือเสียอีก หงเจี้ยนหยางรู้ตัวนานแล้วว่าเจ้านั่นของเขาไม่ยอมแข็งตัวไม่ว่ากับสตรีงดงามเช่นไร

ในยามเช้าและยามเห็นสตรีงดงามถูกใจ ดาบใหญ่ของเขาจะแข็งแรงปกติยิ่ง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาไม่อาจร่วมหอกับผู้ใดได้ ท่านหมอในกองทัพบอกว่าเขาอาจมีเรื่องทุกข์ใจ แต่นึกดูแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าเขาทุกข์ใจเรื่องใด

เมื่อก่อนหงเจี้ยนหยางไม่เคยใส่ใจ คิดเพียงว่าตัวเองยังปกป้องชายแดนได้ เรื่องอื่นก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เขาไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรู้ นอกจากจางป๋อเหวินและสหายในกองทัพไม่กี่คน

ไม่นึกว่าจะถูกปีศาจจิ้งจอกตนหนึ่งมองออก แม้เขาจะไม่ได้รู้สึกอับอาย แต่เรื่องนี้จะให้ท่านแม่ของเขารู้ไม่ได้เด็ดขาด หากฮูหยินผู้เฒ่ารู้เรื่องที่เขาไม่อาจมีบุตรได้ นางคงผูกคอตายตามท่านพ่อไปอีกคนแน่

“เฮ้อ..” หงเจี้ยนหยางได้แต่ถอนหายใจ เขายอมแบกรับเรื่องนี้ไว้ลำพัง

[1] หนึ่งเค่อ คือ ประมาณ 15 นาที

[2] ครึ่งชั่วยาม คือ 1 ชั่วโมง

[3] หยินหยางคือสมดุลของโลก ตามความเชื่อของลัทธิเต๋า จึงเปรียบให้ผู้หญิงเป็นเหมือนหยิน ผู้ชายเป็นหยาง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel