บทที่ 3 ภารกิจที่หนึ่ง (2)
ในที่สุดเมิ่งเหยียนซินก็ทำใจยอมรับความจริง เพราะนับตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้น เมิ่งเหยียนซินไม่ได้หวนกลับโลกใบเดิมของตน ในเมื่อมิอาจกลับไปได้แล้ว เช่นนั้นเมิ่งเหยียนซินก็ควรได้ออกไปเปิดหูเปิดตาเสียบ้าง เพื่อวางแผนเส้นทางการใช้ชีวิตในโลกใบใหม่
ถึงที่นี่เป็นโลกแห่งจินตนาการของนักเขียนที่เมิ่งเหยียนซินชื่นชอบ ทว่ามันกลับเป็นนิยายที่จบไปแล้ว หนำซ้ำยังไม่มีการบอกเล่าเรื่องราวของคุณหนูรองไว้โดยละเอียด เพราะเมิ่งเหยียนซินในนิยายเป็นเพียงตัวประกอบเรียกน้ำตาที่ถูกสอดแทรกเข้ามาเพื่อเพิ่มอรรถรสเท่านั้น
เมิ่งเหยียนซินไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดนักเขียนคนนี้ต้องสร้างตัวตนคุณหนูรองเมิ่งขึ้นมา ในเมื่อบทบาทของนางจะเรียกว่าตัวเอกก็ไม่ใช่หรือจะบอกว่าเป็นตัวประกอบก็ไม่เชิง มันก้ำกึ่งอย่างไรชอบกล เพราะในนิยายเมิ่งเหยียนซินปรากฏกายไม่เท่าใด นางก็ต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ทว่ายามนี้เมิ่งเหยียนซินดันโผล่เข้ามาแทนที่คุณหนูรองเมิ่งตัวจริง เรื่องเลยตาลปัตรกลับหลัง เพราะคนตายได้ฟื้นคืนชีพอย่างน่าอัศจรรย์
"คุณหนูรองท่านจะออกไปข้างนอกหรือ"
"ใช่เจ้าค่ะ เป็นอย่างไร เครื่องแต่งกายนี่คงไม่มีใครจำข้าได้กระมัง"
แม่ชีผู่เยว่เคร่งเครียดอยู่เล็กน้อย "คุณหนู อย่างน้อย ๆ ส่งจดหมายไปบอกนายท่านดีหรือไม่เจ้าคะ ใต้เท้าเมิ่งจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง"
เมิ่งเหยียนซินทำหน้าบิดเบี้ยว "หากข้าส่งจดหมายกลับจวน คงไม่ถึงมือท่านพ่อหรอกเจ้าค่ะ แม่เลี้ยงมหาภัยกับยัยลูกสาวแสนโฉดคงได้ริบเอาไว้เสียเอง จากนั้นพวกนางต้องหาวิธีส่งคนมาตามสังหารข้า"
แม่ชีผู่เยว่ยกมือทาบอก "ตายจริง คุณหนูทำไมจึงคิดเช่นนั้นเจ้าคะ ถึงฮูหยินใหญ่แสดงออกว่าไม่พึงใจท่าน แต่คงไม่ถึงกับต้องฆ่าแกงกันกระมัง"
หากไม่คิดฆ่าแกง สภาพคุณหนูรองจะเป็นเช่นเมื่อคืนหรือ
"เอาน่า ท่านเองก็ทราบดีไม่ใช่หรือว่าสองคนแม่ลูกนิสัยอย่างไร แม่นมท่านไปทำวัตรให้สบายใจเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ที่วัดเจาเจินเพื่อหลบแดดบังฝนชั่วคราวเท่านั้น เมื่อข้าหาลู่ทางทำมาหากินและตั้งตัวได้ แม่นม...ท่านยินดีออกมาใช้ชีวิตกับข้าหรือไม่เจ้าคะ"
แม่ชีผู่เยว่ส่ายศีรษะ ริมฝีปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มแสนอบอุ่น การนุ่งขาวห่มขาวทำให้จิตใจของนางสุขสงบ แม่ชีผู่เยว่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะถือศีลกินเจเช่นนี้จวบจนชีวิตจะหาไม่
"ขอบคุณที่คุณหนูยังห่วงใยข้า แต่ข้าคงกลับไปใช้ชีวิตเฉกเช่นสามัญชนมิได้แล้ว หากวันนี้ท่านอยากออกไปคลายกังวล ก็รักษาตัวด้วยนะเจ้าคะ อย่ากลับมืดค่ำ เส้นทางเข้าวัดเจาเจินเปลี่ยวมาก อาจเกิดอันตรายได้เจ้าค่ะ"
เมิ่งเหยียนซินยิ้มกว้าง "เจ้าค่ะ แล้วข้าจะรีบกลับ"
เมิ่งเหยียนซินเดินมาถึงประตูทางออกแล้ว หญิงสาวพยายามคำนวณเส้นทางเพื่อมุ่งหน้าไปท้องตลาด เพียงแต่เมิ่งเหยียนซินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรใช้เส้นทางไหนดี
[สวัสดีเจ้าค่ะ คุณหนูรองเมิ่ง]
เมิ่งเหยียนซินดีดกายสะดุ้งโหยง เมื่ออยู่ ๆ ก็มีจอโปร่งแสงปรากฏแวบเข้าม่านตา "เสียงใครน่ะ...เกิดอะไรขึ้น"
เปลือกตาบางกะพริบถี่ จดจ้องสิ่งประหลาดเบื้องหน้า
[ข้าคือระบบช่วยเหลือ นามว่าเสี่ยวทู่จื่อเสี่ยวทู่จื่อที่แปลว่ากระต่ายน้อยน่ารัก คุณหนูรองเป็นผู้สร้างข้าขึ้นมาจากสำนึกสุดท้ายของท่าน]
"หะ...หา เดี๋ยว ๆ นะ ใครเป็นคนสร้าง นี่เราต้องฟั่นเฟือนไปอีกแล้วแน่"
มือเรียวตบหน้าตนเองดังแปะ "โอ๊ยเจ็บ!"
[คุณหนู ที่นี่คือโลกเสมือนจริงเจ้าค่ะ]
"หา..." มือเรียวยกขึ้นกุมขมับ ดูเหมือนเมิ่งเหยียนซินไม่ได้ทะลุมิติธรรมดา ทว่ากลับพ่วงระบบประหลาดเข้ามาอีกหนึ่ง เมิ่งเหยียนซินไม่รู้ว่าตนไปเผลอสร้างเจ้าเสี่ยวทู่จื่อไว้ตั้งแต่เมื่อใด
[เพราะจิตสำนึกสุดท้ายที่ชิงชังต่อสองแม่ลูกสกุลเมิ่ง ท่านหวังพลิกชะตาคุณหนูรองแสนอนาถา ฉะนั้นท่านจึงเป็นผู้โชคดีได้ถูกรับเลือกให้แก้ไขดวงชะตา คุณหนูรองเมิ่งเหยียนซินเจ้าค่ะ]
เมิ่งเหยียนซินอ้าปากหวอ รู้สึกว่าตนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
[ภารกิจที่หนึ่ง เอาตัวรอดในดินแดนแสนอัปยศ]
เปลือกตาบางขยับขึ้นลงอีกครั้ง "เอ๋...อะไรกันล่ะเนี่ย ใครบอกว่าเราต้องทำตามระบบเช่นเจ้ากัน ข้าจะใช้ชีวิตอย่างอิสระ อย่าได้มาตีกรอบชีวิตแสนสงบสุขของข้าเชียว"
[ท่านไม่ทำตามเส้นทางของระบบก็ไม่เป็นไร แต่หากคุณหนูรองได้ย้อนกลับไปชะตาเดิม จิตวิญญาณของท่านก็จะดับสลายตามไปด้วย]
"ตาย! นี่พูดเล่นหรือเปล่า"
[ระบบถูกตั้งค่าคำสั่ง ไม่มีการพูดเล่นใด ๆ ทั้งสิ้นเจ้าค่ะ ไม่เชื่อท่านลองมองโดยรอบ ระหว่างที่สนทนากับเสี่ยวทู่จื่อ ทุกอย่างจะสงบนิ่งดุจไร้ชีวิต]
เมิ่งเหยียนซินกวาดตามองโดยรอบด้วยอาการประหม่า ต้นไม้ใบหญ้าสงบนิ่งดั่งภาพวาดติดผนัง ดูเหมือนขาของนางก็ก้าวไม่ออกเช่นกัน กระนั้นกลับสามารถยกมือขึ้นสัมผัสเบื้องหน้าได้ ปลายนิ้วชี้จึงค่อย ๆ แหย่ไปเบื้องหน้าที่มีจอโปร่งใสปรากฏอยู่ ครั้นจิ้มเข้าไปหน้าจอก็พลันกะพริบราวสัญญาณติดขัดพร้อมกับปลายนิ้วที่ทะลุโผล่อีกด้าน
ม่านตากลมโตเบิกค้างตื่นตะลึง "หึ๊ย!! นี่มันเรื่องประหลาดอะไรกันเนี่ย!?"
เชิงอรรถ
^
兔子 Tùzǐ ทู่จื่อกระต่าย / เสี่ยวทู่จื่อ กระต่ายน้อย
