บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 หนึ่งต่อสอง

หยางฉิงมองหญิงสาวสองคนมีใบหน้าคุ้นเคยอยู่ในความทรงจำ ทั้งสองคนชอบเข้ามาหาเรื่องเจ้าของร่างอยู่เป็นประจำ หยางฉิงคนเดิมเป็นคนปากเก่ง แต่นางก็ไม่เคยได้ลงมือกับใคร ทั้งสองคนที่อยู่ในความทรงจำ คนหนึ่งเป็นพี่สาวของหลี่เซิงชื่อหลี่เจิง อีกคนเป็นเพื่อนของหลี่เจิงชื่อหลี่หยิน ทั้งสองคนมีหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งตัวเตี้ยร่างอวบ ส่วนหลี่เจิงตัวสูงผอมแห้งผิวคล้ำ ทั้งสองคนจนอายุยี่สิบเอ็ดปี ก็ยังไม่ได้แต่งงานออกเรือน ถ้าไม่ได้แต่งงานก่อนอายุสิบหกปี ชาวบ้านจะมองว่าเกินวัยหาชายหนุ่มมาแต่งงานด้วยยากเสียแล้ว

“แต่ง หรือไม่แต่งแล้วอย่างไร ถึงจะแต่งหน้าขาว ปากแดง ข้าก็ยังขายออก ไม่เหมือนใครบางคนจนปานนี้อายุล่วงเลยวัยปักปิ่นมานานแล้ว ก็ยังไม่ได้แต่งงานออกไป…” นางพูดพร้อมกับเหล่ตาไปทางทั้งสองคนและยกยิ้มให้เล็กน้อย

“มันว่าเจ้านะหลี่เจิง! เจ้ายอมได้หรือ” หลี่หยินไม่ยอมรับว่าเธอขายไม่ออกด้วยเช่นกัน

“มันว่าเราทั้งสองคนนั้นแหละ! ปากดีไปเถอะ ตอนนี้ไม่มีใครช่วยแกได้แล้ว ข้าจะตบสั่งสอนคนไร้ค่าอย่างแก ให้รู้เสียบ้างว่าอย่ามาปากดี หลี่หยินไปจับมันไว้! วันนี้ข้าจะตบมันให้เลือดออก”

หญิงสาวทั้งสองคน พังประตูรั้วบ้านที่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่นัก พากันเข้าไปรุมล้อมหยางฉิงเอาไว้ หลี่เจิงหันไปส่งสายตาให้หลี่หยินเข้ามาจับตัวของหยางฉิง หลี่หยินได้รับสัญญาณจากเพื่อนสาว นางก็รีบวิ่งเข้าไปล็อกแขนผอมแห้งของหยางฉิง พร้อมกับกดเล็บลงไปอย่างแรง

หยางฉิงที่ถูกทั้งสองคนบุกเข้ามาทำร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัว นางถูกหนึ่งในสองคนนั้นล็อกตัวเอาไว้ เล็บของนางกดไปที่แขนจนเป็นรอย นางไม่ปล่อยให้ทั้งสองคนได้ใจนานนัก นางใช้แรงที่มีสะบัดแขนทั้งสองข้างออกจากการจับกุม หยางฉิงกำหมัดในมือแน่น ต่อยไปที่ช่วงท้องตรงบริเวณลิ้นปี่ของทั้งสองคนได้อย่างแม่นยำคนละหนึ่งครั้ง จนทำให้หญิงสาวสองคนนั้นล้มลงไปด้วยอาการจุกแน่นช่วงท้อง

หยางฉิงเป็นคนที่ไม่ได้ยอมให้ใครมาทำร้ายก่อนอยู่แล้ว ในโลกเก่า นางเคยเรียนศิลปะป้องกันตัวมาอยู่บ้าง แค่ผู้หญิงสองคนไม่สามารถทำให้นางหวาดกลัวได้หรอก

ทั้งสองคนล้มลงไปนอนบนพื้นดินจนฝุ่นฟุ้งกระจายตามน้ำหนักตัว

“หลี่เจิงมันเอาแรงมาจากไหนมากมายนัก!” หลี่หยินหันไปพูดกับหลี่เจิงพร้อมกุมท้องที่เริ่มดีขึ้น

“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร แต่เรื่องนี้มันยังไม่จบแค่นี้หรอก” หลี่เจิงใช้แรงที่เหลือลุกขึ้น ใบหน้าของนางดูน่ากลัว ตาที่ลุกวาวพร้อมกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ ‘ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีใครตีข้าเลยเสียครั้งเดียว’ แล้วมันเป็นใครถึงได้กล้ามาตีคนอย่างนาง

“หน่อย!... เจ้ากล้าตีข้าหรือ คอยดูข้าจะให้ท่านแม่มาจัดการกับเจ้า!” หลี่เจิงชี้หน้าด่าหยางฉิงด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับมือแห้งกร้านฟาดไปบนใบหน้าหยางฉิงเต็มแรง ใบหน้าหยางฉิงหันไปตามแรงตบ บนใบหน้าซีกซ้ายเป็นรอยมือสีแดงเด่นชัด…

หยางฉินมองเห็นมือหลี่เจิงกำลังตีลงมาบนใบหน้า หยางฉิงสามารถหลบฝ่ามือของนางได้ แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น นางยืนรอรับฝ่ามือของหลี่เจิงที่ฟาดลงมา อย่างเต็มใจ หยางฉิงรู้สึกเค็มและได้กลิ่นคาวเลือดมาจากข้างในปาก นางยิ้มพอใจเล็กน้อย พร้อมกับร้องตะโกนเรียกชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงให้ได้ยินกันทั่ว มือที่เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ก็ต่อยตีไปตรงซี่โครงของทั้งสองคนซ้ำ ๆ จนทั้งสองคนล้มไปกองอยู่บนพื้นดินหน้าบ้าน

เสียงการตบตีและเสียงกรีดร้องของทั้งสามคนนั้น ดังไปทั่วบริเวณโดยรอบ บนพื้นดินมีฝุ่นฟุ้งกระจายตามร่างหญิงสาวทั้งสามคนเกลือกกลิ้งกันไปมา ผมของทั้งสามคนต่างชีฟูไม่เป็นทรง เสื้อผ้าของพวกนางเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดิน

“ช่วยด้วย! มีคนบุกเข้ามาในบ้านของข้า! ใครก็ได้ช่วยที! ” หยางฉิงร้องตะโกนให้คนช่วย ส่วนมือทั้งสองข้างของนางก็ไม่หยุดนิ่ง หยางฉิงใช้มือทั้งสองข้างต่อยตีไปตรงซี่โครงของพวกนางไม่ยังมือ นางตบตีในส่วนที่คนอื่นไม่สามารถมองเห็นได้ สภาพของนางก็ไม่ต่างกับทั้งสองคนเท่าไหร่นัก

ชาวบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของหยางฉิง ต่างพากันวิ่งออกมาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเขามองเห็นสภาพของแต่ละคนก็ต่างพากันตกใจกับภาพตรงหน้า มือของหลี่เจิงดึงทึ้งผมของหยางฉิง ส่วนมือหยางฉิงดึงผมของหลี่เจิง เท้าของนางยังเตะไปตรงท้องของหลี่หยินที่นอนอยู่บนพื้นดิน!

หญิงสาวมีอายุคนหนึ่งร้องห้ามทั้งสามคนเสียงดัง

“หยุด! ๆ พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน? ” หลี่จือได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากหยางฉิง นางจึงรีบเดินเข้ามาดู เพราะบ้านของนางอยู่ใกล้กับบ้านของหยางฉิงมากที่สุด เมื่อมาถึงก็พบเห็นหญิงสาวทั้งสามคนกำลังตบตีกันอยู่

“ถ้าไม่หยุดข้าจะไปฟ้องผู้ใหญ่บ้านนะ! ” หลี่จือมองดูทั้งสามที่ไม่ยอมหยุดมือ

ทั้งสามคนได้ยินเสียงดังของคนอื่นจึงได้หยุดมือ หญิงสาวสามคนแยกกันไปยืนคนละทางสภาพของพวกนางไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก แต่ละคนต่างเอามือจัดแต่งทรงผมและปัดเป่าเศษฝุ่นดินที่ติดมาตามเสื้อผ้าออกไป

“พวกเจ้ามาทำอะไรที่บ้านของหยางฉิงกัน? และทำไมถึงได้บุกเข้ามาตบตีนางถึงในบ้านของนางได้” หลี่จือถามทั้งสองคนออกไป

“ก็หยางฉิงน่ะสิป้าหลี่จือ พวกข้าได้ข่าวว่านางเพิ่งตกหลุมหัวกระแทก พวกข้าจึงเป็นห่วงเดินมาดู แต่พอมาถึง นางก็ด่าว่าพวกข้าก่อน...” หลี่เจิงรีบอธิบายให้ป้าหลี่จือฟัง

“จริงหรือเปล่าหยางฉิงที่นางทั้งสองคนพูด?” นางถามหยางฉิงเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เพราะนางรู้จักทั้งสองคนที่มาตบตีกับหยางฉิงดี ทั้งสองคนเป็นสาวโสดประจำหมู่บ้านและขายไม่ออก นิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ป้าหลี่จือต้องให้ความเป็นธรรมกับข้า ข้าจะไปหาเรื่องพวกนางได้อย่างไรกัน ข้าดูแลสามีที่ป่วยเดินไม่ได้ในแต่ละวันก็เหนื่อยมากอยู่แล้ว และดูหน้าของข้าสิ มีเลือดออกกบปากขนาดนี้ พวกนางทั้งสองคนมารุมทำร้ายข้าถึงในบ้าน ป้าคิดว่าใครจะเป็นคนผิดกันแน่ ข้าตั้งใจจะกลับตัวเป็นคนดี ตั้งใจดูแลสามีของข้าให้ดี แต่ข้าต้องโดนคนเข้ามาทำร้ายข้าถึงในบ้าน!...” หยางฉิงแกล้งร้องไห้เสียใจและพูดให้เสียงดัง จนชาวบ้านมามุงดูกันมากขึ้น

“ก็จริงของหยางฉิงมันนะ เรื่องมันก็เกิดขึ้นในบ้านของนางด้วย อีกอย่างหยางฉิงก็มีคนเดียว แต่พวกเจ้ามีตั้งสองคน” ชาวบ้านช่วยกันพูดเข้าข้างหยางฉิง

“ขอบคุณทุกคนมากเลยจ๊ะ ตั้งแต่ที่ข้าล้ม ข้าตั้งใจจะใช้ชีวิตให้ดี เปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น แต่ข้าก็ยังโดนกลั่นแกล้งอยู่แบบนี้ ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้เช่นไร ฮื้ออ!….” นางแกล้งร้องไห้เสียงดังขึ้นไปอีก จนชาวบ้านที่เข้ามามุงดูรู้สึกสงสาร

“นั่นสิ ทั้งสองคนทำไม่ถูกจริง ๆ ดูตัวพวกเจ้าและตัวของหยางฉิง ขนาดต่างกันตั้งเท่าไหร่”

มีเสียงดังขึ้นมาจากกลุ่มชายหลายวัยที่ยืนมุงดูเหตุการณ์

หญิงสาวสองคน โดนชาวบ้านรุมพูดว่า พวกนางต่างทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะเถียงออกไปเช่นไรดี ทั้งสองได้แต่ยืนกำหมัดและขบเคี้ยวฟันทำสีหน้าบึ้งตึงไม่พอใจ สายตาของหลี่เจิงมองไปทางหยางฉิงด้วยสายตาโกรธแค้น

‘คอยดูเถอะ! ข้าจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องท่านแม่!’ นางพูดอยู่ในใจ หลี่เจิงร้องโวยวายและเดินหนีชาวบ้านออกมา นางไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร วันนี้นางหยางฉิงมันทำไมถึงได้แปลกไปเช่นนี้?

“หลี่เจิงรอข้าด้วย เจ้าเดินออกไปไม่เรียกข้าไปด้วยเลยหรือ” หลี่หยินวิ่งตามมาจนถึงหลี่เจิง นางก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน ไม่รู้ชาวบ้านพวกนั้นเอาเรื่องของนางไปพูดบอกกับพ่อแม่หรือไม่ พ่อแม่ไม่ได้เข้าข้างเธอเหมือนเช่นหลี่เจิงหรอกนะ ‘ข้ารู้สึกหวาดกลัวนัก’

“เจ้าทำไมรีบเดินออกมาเช่นนี้ เจ้าจะยอมให้น้องสะใภ้ว่าเจ้าเช่นนี้หรือ” ตั้งแต่ที่เธอคบกับหลี่เจิงมา เพื่อนของนางไม่ใช่คนยอมใคร ครั้งนี้หยางฉิงคงต้องโดนหนักเสียแล้ว

“ใครบอกว่าข้ายอมมัน ข้ากำลังจะไปฟ้องท่านแม่ของข้าต่างหาก เจ้าก็รู้ว่าท่านแม่ของข้าไม่ชอบสะใภ้คนนี้มากขนาดไหน ดีที่ตอนนี้น้องเล็กนอนเป็นคนพิการเดินไม่ได้ ก็คงไม่มีใครที่ช่วยมันได้แล้วละ” หลี่เจิงพูดพร้อมกับหัวเราะ พอเธอหัวเราะแรงขึ้น นางก็เจ็บตรงซี่โครง ‘นางหยางฉิงมันมือหนักขนาดนี้เลยหรือ’ นางรู้สึกแปลกใจที่เมื่อก่อนหยางฉิงถึงจะปากเก่งแต่พอเอาเข้าจริง มันก็ไม่กล้าสู้นางเลยด้วยซ้ำ

“นี่ หลี่เจิงเจ้าคิดว่าหยางฉิงมันแปลกไปหรือไม่ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทำร้ายมัน แต่มันก็ไม่เคยจะสู้เราขนาดนี้ หรือหัวสมองของมันกระทบกระเทือนแล้วจริง ๆ อย่างที่ชาวบ้านคนอื่นพูด”

“เรื่องนี้ก็อาจเป็นไปได้?” นางคิดถึงคำพูดของหลี่หยิน

หยางฉิงมองพวกนางทั้งสองคนรีบเดินหนีกลับบ้านไป เธอคิดว่าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายแน่ พวกนางไม่ใช่ว่าเป็นลูกแหง่หรือ เป็นลูกที่พ่อแม่คอยเอาใจ ถึงตอนนี้หลี่เซิงจะป่วยอยู่ไม่อาจจะปกป้องเธอได้ ต่อไปนี้จะไม่เป็นเช่นเดิมอีกเพราะซินหลินหญิงสาวสุดแกร่งได้มาเข้าร่างของหยางฉิงแล้ว นางจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายแน่นอน!

“พวกนางทั้งสองคนก็ไปแล้ว ถึงข้าจะคิดว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบง่าย ๆ ข้าก็ขอบคุณพวกท่านมากที่มาช่วยปกป้องข้า ตั้งแต่ที่ข้าได้รับอุบัติเหตุ ข้าก็ตั้งใจจะกลับตัว กลับใจเป็นคนที่ดีขึ้น ข้าเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง…” หยางฉิงอธิบายถึงเหตุผลที่นางเปลี่ยนไปให้ชาวบ้านได้ฟัง ‘นางได้เรื่องอ้างถึงนิสัยที่เปลี่ยนไปอยู่พอดี’

ชาวบ้านที่ยังมุงดูอยู่หน้าบ้านหยางฉิง พวกเขาต่างได้ฟังที่นางพูดก็มีส่วนที่ถูกอยู่บ้าง เมื่อคนเราผ่านความเป็น ความตายมา ก็อาจจะรู้ถึงคุณค่าในการใช้ชีวิตมากขึ้น

“พวกเราดีใจที่เจ้ากลับตัวกลับใจเป็นคนที่ดีได้ หลี่เซิงสามีของเจ้าเมื่อก่อนเขาก็ลำบากเพื่อเจ้ามามากมายนัก ต่อไปนี้เจ้าก็ต้องตั้งใจดูแลหลี่เซิงให้ดี ถึงสามีของเจ้าจะกลับมาเดินอีกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าได้รู้จักหาเงินเจ้าก็อยู่ได้สบาย เจ้าดูที่ดินผื่นนี้สิ ที่หลี่เซิงพยายามแย่งมันมาให้เจ้า เอาละพวกข้าเข้าใจแล้ว พวกข้าจะเดินไปบอกผู้ใหญ่บ้านให้เจ้า เจ้าก็เข้าไปทำแผลที่ปากของเจ้าเถอะ และก็ระวังแม่สามีของเจ้าเอาไว้ นางไม่ยอมจบแค่นี้แน่” หลี่จือพูดเตือนหยางฉิงด้วยความเป็นห่วง ที่จริงนางสงสารหยางฉิงมากกว่าเสียอีกที่ต้องแยกบ้านออกมาดูแลสามีที่พิการเช่นนี้

“ใช่! ๆ พวกข้าก็จะเป็นพยานให้เจ้าอีกแรง” ชาวบ้านช่วยกันพูด

“ถ้าอย่างนั้นพวกข้าไปก่อนละ มีเรื่องอะไรก็ร้องดัง ๆ พวกข้าจะมาช่วยก็แล้วกัน” เป็นเสียงของชาวบ้านชายคนหนึ่ง

“ข้าขอบคุณที่พวกท่านทุกคนไม่ถือสา หญิงสาวเช่นข้า ที่เมื่อก่อนข้าอาจจะทำตัวไม่ดีออกไปบ้าง” นางหันไปขอบคุณชาวบ้านที่ยังอยู่หน้าบ้าน

หยางฉิงยืนมองชาวบ้านต่างแยกย้ายเดินกันออกไป หลังเรื่องราวที่น่าตกใจจบลง เรื่องราวของพวกนางก็คงถูกพูดถึงไปอีกนาน….

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel