
บทย่อ
ซินหลินเป็นนักกายภาพบำบัดที่ทำงานอย่างหนักมาตลอด ช่วงเวลาที่เธอได้พักผ่อน เธอกลับทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งมีสามีเป็นชายพิการ พร้อมกับตัวช่วยพิเศษที่ติดตัวมาด้วย!
ตอนที่ 1 ทะลุมิติ
ค่ำคืนในวันมืดมิด มีสถานที่หนึ่งเปิดเพลงเสียงดังกระหึ่ม แสงสีสาดส่องไปทั่วทุกพื้นที่ ผู้คนมากมายเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปมา รายล้อมอยู่รอบตัวหญิงสาวผมเป็นลอนยาวสวยนัยน์ตาหวานเยิ้ม เธอมองดูความวุ่นวายและฟังเสียงบรรเลงเพลงร็อกพาให้ใจเธอเต้นตามจังหวะ มีผู้คนเต้นคลอเคลียกันไปมาในสถานบันเทิงที่เธอกำลังนั่งอยู่ ในมือถือไวน์ชั้นดีมีรสชาติหวานนุ่มลิ้นและรสขมเล็กน้อย เธอนั่งอยู่ตรงบาร์เหล้าที่มีบาร์เทนเดอร์วาดลวดลายในการชงเหล้าให้กับเหล่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในค่ำคืนนี้
หญิงสาวสวยหุ่นดีในชุดสีแดงเข้ารูป เธอเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลงด้วยความเมามัน สายตากวาดมองไปทั่วรอบตัว เธอมองเห็นเพื่อนสาวคนสวยในชุดดำสั้นรัดรูปได้อย่างพอดีตัว นั่งโงนเงนไปมาด้วยความน่าเป็นห่วง
“ซินหลิน เธอไหวหรือเปล่าเนี่ย” เธอเดินเข้าไปถามเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง
เสียงเรียกของใครบางคนที่คุ้นเคยทำให้หญิงสาวในชุดสีดำได้สติและเงยหน้ามอง สายตาของเธอปรับภาพซ้อนไปมาให้มันชัดเจนขึ้น จึงได้มองเห็นเป็นเพื่อสาวคนสวยในชุดสีแดงรัดรูปเช่นเดียวกันกับเธอ “ฉันยังไหว พวกเธอเต้นกันต่อเลย ฉันขอนั่งพักหน่อยก็แล้วกัน” เธอตอบเพื่อนสาวที่ดูท่าทางเป็นห่วงเธอออกไปด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย
หญิงสาวในชุดสีแดงมองดูท่าทางของหญิงสาวที่ตอบเธอว่าไหว มีสภาพที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่ “ถ้าเธอไม่ไหวก็บอกฉันนะ ฉันเต้นอยู่ไม่ไกล รู้ว่าตัวเองคออ่อนก็ยังจะกินเยอะอีก” เธอบ่นเพื่อนสาวที่นาน ๆ จะมีเวลาว่างมาเที่ยวกับพวกเธอ
“เธอบ่นฉันเป็นแม่อีกคนแล้วนะ ฉันโตแล้วย๊ะ! ฉันไม่กินมันเยอะหรอกนา” เธอตอบเพื่อนสาวในชุดสีแดง เพราะไม่อยากทำลายบรรยากาศที่เพื่อนกำลังสนุก พร้อมกับทำท่าทางว่าสบายมาก
หญิงสาวชุดแดงมองดูความเรียบร้อยของเพื่อนอีกรอบ เธอเดินกลับไปเต้นกับเพื่อนคนอื่นต่อ เธอเป็นห่วงซินหลินที่ช่วงนี้เธอดูเครียดมากกว่าปกติมาก ไม่รู้ว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจอะไร?
ซินหลินเหลือบมองเพื่อนสาวแสนดีเดินจากไป เธอกลับมานั่งสนใจกับไวน์ตรงหน้าต่อ มีเรื่องที่ไม่สบายใจหลายอย่าง ตั้งแต่ที่เรียนจบมา ก็ยังไม่เคยได้ไปเที่ยวพักผ่อนอย่างจริงจังเลย มัวแต่ตั้งใจเรียนและหาเงิน ตอนนี้มีเงินแล้ว... แต่ไม่มีเวลา งานที่ทำก็แสนเหนื่อยแต่มีความสุขที่ได้ทำ เธอเป็นหมอกายภาพ ต้องใช้แรงกายในการช่วยผู้ป่วยจนรู้สึกเหนื่อยล้าอยู่บ่อยครั้ง
หลายวันมานี้ ซินหลินรู้สึกปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง อาจจะเป็นเพราะพักผ่อนน้อยก็ได้ ยิ่งปล่อยไว้ อาการปวดหัวก็เริ่มหนักขึ้น คิดแล้วก็รู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนขึ้นมา
‘หรืออาจจะเป็นเพราะไวน์ที่ฉันเพิ่งดื่มเข้าไปก็ได้’ ไม่ทันที่ซินหลินได้คิดทบทวนอะไรมากมาย อาการที่เป็นอยู่ก็ยิ่งแย่ลง ภาพทุกอย่างที่มองเห็นดูพร่ามัว เสียงที่ดังกึกก้องอยู่ในสถานบันเทิงเริ่มเบาลง... เธอมองทุกอย่างเป็นภาพซ้อนและอ้วกออกมา ทุกอย่างค่อย ๆ แย่ลง แขนขาที่เคยแข็งแรงกลับอ่อนแรง เธอล้มลงไปพร้อมกับสติที่ดับวูบลงอย่างไม่ทันตั้งตัว…
“ซินหลิน!” เพื่อนสาวหันกลับมามองซินหลินอีกครั้ง เธอมองเห็นซินหลินอ้วกออกมาและล้มลงไป เธอร้องเรียกให้คนช่วยพร้อมทั้งเรียกรถพยาบาลมาอย่างเร่งด่วน พอมาถึงโรงพยาบาล หมอและพยาบาลก็พากันวิ่งเข้ามาเข็นร่างของซินหลินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เธอได้แต่ยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยใจที่เป็นกังวลและเป็นห่วง เธอร้องไห้ พร้อมทั้งโทรหาครอบครัวของซินหลิน เพื่อให้พวกเขารีบมาหาที่โรงพยาบาล แต่โทรเท่าไหร่ก็โทรไปไม่ติด…
ภายในห้องฉุกเฉินร่างของซินหลินนอนหายใจรวยริน เธอได้ยินเสียงเครื่องช่วยหายใจ เสียงผู้คนหลายคนที่พูดคุยอยู่รอบตัวด้วยความเคร่งเครียด เสียงสุดท้ายที่ได้ยินเป็นเสียงเครื่องปั๊มหัวใจและอาการชาตรงหน้าอกของเธอ…
ซินหลินได้สติอีกครั้ง เสียงเรียกของผู้คนที่ไม่คุ้นเคย แต่ชื่อที่พวกเขาใช้เรียกเป็นชื่อของคนอื่นที่ไม่ใช่ชื่อของเธอ?
“หยางฉิง! ตื่น ๆ อย่าหลับ…”
เสียงเรียกที่ดังชัดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ซินหลินค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวที่ไม่จางหายไป สายตาคู่งามมองไปรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย ตรงหน้าของเธอมองเห็นชายคนหนึ่งที่มีผมสีดอก หนวดเครายาวเป็นสีขาว เสื้อผ้าของเขาดูเก่ามาก เธอไม่คุ้นเคยกับชายผู้นี้มาก่อนเลย
‘นี่ฉันเป็นอะไรกันแน่ ชาวบ้านพวกนี้เป็นใคร?’ เธอมองดูชาวบ้านที่แต่งตัวไม่คุ้นเคย ส่งเสียงเรียกยิ่งทำให้เธอมึนงง การปวดหัวก็ยิ่งเพิ่มความปวดหัวมากขึ้นไปอีก เธอเอามือกุมไปที่หัวพร้อมกับภาพหลายอย่างเกิดขึ้นมาในหัวไม่หยุด
“หยางฉิงตื่นแล้ว! ทุกคนอย่ามุง เดี๋ยวนางจะหายใจไม่ออก” หมอหลี่เทาร้องบอกชาวบ้านให้ถอยห่างออกไป
เธอเอามือทั้งสองข้างกุมไปที่หัว ภาพจำต่าง ๆ ก็ไหลเข้ามาในความทรงจำของเธอไม่หยุด เป็นภาพที่เธอไม่คุ้นเคย
‘ความทรงจำพวกนี้มันคืออะไร มันไม่ใช่ของฉันนิ’ เธอใช้เวลาเรียบเรียงภาพในความทรงจำ พร้อมกับเสียงของผู้คนที่อยู่รายล้อมรอบตัว ภาพเหล่านั้นที่อยู่ในหัวเป็นภาพของคนอื่นที่ไม่เหมือนเธอเลยสักอย่างเดียว ซินหลินยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดู เป็นมือเรียวยาวขาวเนียนซึ่งไม่เหมือนกับมือของเธอเลย
‘หรือว่าตอนนี้ฉันได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของผู้หญิงที่ชื่อหยางฉิง? ฉันต้องรวบรวมสติและต้องพาตัวเองเดินออกไปจากตรงนี้ก่อน…’ ซินหลินคิดและหันมองไปรอบตัวอีกครั้ง มีชาวบ้านทั้งหญิงและชายมุงดูอยู่ด้วยสีหน้าหลากหลาย บางคนก็ดูอยากรู้ บางคนก็ดูเป็นห่วง และก็มีบางคนมองเธอด้วยสายตาแห่งความยินดี?
“หยางฉิงเป็นอย่างไรบ้าง!” หลี่เทาร้องเรียกหญิงสาวที่ลืมตาตื่นขึ้นมา สีหน้าของนางดูมึนงง
“ไม่เป็นอะไร” เธอตอบชายที่พบเห็นเป็นคนแรกเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา ชายคนนั้นดูสีหน้าเป็นกงวลมากกว่าคนอื่น ‘คนนี้คงเป็นหมอสินะ’
“เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ทำให้พวกข้าตกใจหมด อยู่ดี ๆ เจ้าก็เดินตกลงไปในหลุมและหัวกระแทกสลบไปตั้งหลายชั่วยาม ข้านึกว่าเจ้าตายไปเสียแล้ว เจ้าลุกไหวหรือไม่” หลี่เทามองท่าทีของหยางฉิง
“ลุกไหว ไม่เป็นไรมาก” ซินหลินตอบคนที่ชาวบ้านเรียกว่าหมอออกไปด้วยท่าทางไม่ชิน
“ดีแล้ว ถ้าเจ้าไปเป็นอะไรก็กลับไปบ้านเถอะ นี่เป็นยาแก้ปวด ข้าให้เจ้าเอาไว้ต้มกินหลังอาหารสามเวลา กินสักสองวันเจ้าก็จะดีขึ้น” หลี่เทาเอาห่อยาส่งให้หยางฉิงเอาไปต้มกินที่บ้าน
“ขอบคุณ ยาห่อนี้ราคาเท่าไหร่?” ซินหลินไม่ชอบเอาของใครฟรี ๆ ถึงตอนนี้จะไม่มีเงินแม้แต่เหรียญเดียวก็ตาม
หลี่เทาว่าจะไม่เก็บเงิน แต่ชาวบ้านที่มามุงดูเยอะเกินไป เขาจะไม่เก็บเงินก็ไม่ได้ “ยาห่อนี้ราคาเพียงห้าอีแปะ เอาไว้ถ้าเจ้ามีเงินค่อยเอามาให้ข้าทีหลังก็ได้” เขาบอกราคาของยาให้นางรู้
“เอาไว้กลับไปบ้านจะหาเงินมาจ่ายให้ท่าน วันนี้รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ ต้องขอบคุณทุกคนที่มาช่วย ฉันขอตัวกลับบ้านก่อน” ซินหลินรีบเดินก้มหน้า เดินออกไปตามทางที่อยู่ในความทรงจำ
ชาวบ้านที่มุงดูต่างตกใจ อ้าปากค้าง พวกเขาไม่ได้ยินเสียงด่า หรือเสียงโวยวายดังมาจากหยางฉิง คำพูดของนางก็ดูแปลกไป หรือนางสมองกระทบกระเทือนไปแล้วใช่หรือไม่ ผู้คนมองดูหยางฉิงเดินออกไปพร้อมกัน แต่ละคนก็มีเรื่องสงสัยในเรื่องเดียวกัน ว่าหยางฉิงแปลกไป? ...
หลังจากที่ซินหลินหนีออกมาจากผู้คนได้แล้ว เธอเดินไปตามทางที่อยู่ในความทรงจำอย่างไม่เร่งรีบ ระหว่างที่กำลังเดิน สายตาก็มองไปสองข้างทาง ถนนที่ไม่คุ้นเคย สายลมพัดผ่านเข้ามาเบา ๆ พาให้บรรยากาศดูเงียบเหงามากขึ้น
สายตามองไปตามบ้านแต่ละหลังที่อยู่ในหมู่บ้านที่ซินหลินทะลุมิติเข้ามา บ้านของที่นี่ส่วนใหญ่สร้างด้วยอิฐดินและไม้เป็นส่วนใหญ่ บ้านแต่ละหลังดูเก่าและทรุดโทรม บ่งบอกว่าหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ค่อยร่ำรวยเท่าไหร่ เธอเดินเท้าไปเรื่อย ๆ ก็มาหยุดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง รอบตัวบ้านใช้ไม้ไผ่ล้อมเอาไว้ทำเป็นรั้ว เธอเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นเป็นบ้านชั้นเดียวสร้างด้วยอิฐดิน รอบตัวบ้านมีสวนที่แห้งแล้งและมีแม่น้ำสายเล็กไหลผ่านเข้ามาในรั้วบ้าน ‘แสดงว่าเจ้าของบ้านหลังนี้ไม่ได้สนใจสวนหรือทำอะไรเลย’
“แค่ก แค่กๆ ....”
เสียงไอของคนดังออกมาจากข้างในตัวบ้าน ในความทรงจำที่ได้มาใหม่ หญิงสาวคนนี้อาศัยอยู่กับสามีที่พิการหนึ่งคนและก็ไม่ค่อยสนใจสามีคนนี้เท่าไหร่
เธอเปิดประตูบ้านที่ทำจากไม้เก่าแต่ยังใช้งานได้ดีเข้าไป ก็ต้องเดินถอยหลังกลับออกมาอีกครั้ง เพราะมีกลิ่นเหม็นอับและกลิ่นเหม็นหลายสิ่งรวมกัน ปะทะใส่หน้าเมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไป
‘ทำไมบ้านหลังนี้ถึงได้มีกลิ่นเหม็นขนาดนี้เนี่ย!’
เธอกลั้นใจเดินเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ระหว่างที่เดินเข้าไป นิ้วมือเรียวสวยยกขึ้นมาบีบจมูกไว้เพื่อป้องกันจากกลิ่นที่อยู่ภายในบ้านหลังน้อย ข้างในบ้านมีสิ่งของมากมายล้มอยู่ บางอย่างก็วางไว้ไม่เป็นทาง ทำให้การเดินเข้าไปในบ้านหลังนี้เป็นเรื่องลำบากเพราะต้องค่อยหลบหลีกสิ่งของที่มันกีดขวางทางเดินเอาไว้ ระหว่างที่เธอเดินเข้าไป เธอก็อยากจะร้องไห้ออกมา ‘ทำไมชีวิตของฉันต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย!’
เธอเดินตามเสียงไอเข้ามาในห้องหนึ่งก็พบกับชายหนุ่มตัวสูงที่มีสภาพทรุดโทรมนอนอยู่บนเตียงเตาข้างหน้าต่าง ภายในห้องของเขาเหม็นกลิ่นอับและฝุ่นที่เกาะเต็มไปทั่วทุกมุมห้อง จนเธอไม่คิดว่าคนสามารถนอนในที่แห่งนี้ได้ กลิ่นด้านในตัวห้องที่ชายหนุ่มนอนอยู่ไม่เหม็นเท่ากลิ่นที่อยู่ข้างนอกเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะห้องของเขามีหน้าต่างที่แดดส่องถึง และกลิ่นอับนั้นน่าจะมาจากตัวของเขาเองมากกว่า
ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง หน้าของเขาแดงเพราะไอติดต่อกันเป็นเวลานาน เขามองหญิงสาวที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสายตารังเกียจพร้อมกับไอออกมาไม่หยุด
“คุณเป็นยังไงบ้าง คุณต้องการน้ำหรือเปล่า?” เธอไม่คุ้นเคยกับการพูดของที่นี่เท่าไหร่ มีบางคำที่พูดติดขัดออกไปบ้าง
“เจ้าไม่ต้องมายุ่งเรื่องของข้า เจ้าจะไปไหนก็ไป!” เขาตะคอกเสียงดังใส่ภรรยาที่ไม่ได้เรื่องของเขา
ทำไมเขาต้องพูดไม่ดีกับเธอขนาดนี้ด้วย เหมือนว่าเขาจะโกรธเกลียดมาก ซินหลินค้นในความทรงจำก็พบว่า ชีวิตคู่ที่หยางฉิงคนเดิมได้อยู่กับสามี หยางฉิงเป็นผู้หญิงที่นิสัยไม่ดีและใช้เงินเก่งมาก ตั้งแต่ที่สามีบาดเจ็บจนกลายเป็นคนพิการ ก็ไม่สนใจสามีอีกเลย ยิ่งเมื่อถูกแม่สามีไล่ออกจากบ้าน ก็ยิ่งโกรธเกลียดและทิ้งขว้างสามีมากไปอีก ไม่แปลกใจเลยที่สามีจะโกรธเกลียดเจ้าของร่างได้มากขนาดนี้....
(ฝากกดหัวใจ️ กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ)
ขอบคุณน้า
