บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

หญิงสาวทำแผลให้เขาเสร็จเรียบร้อย และปล่อยให้เขานอนอยู่ในห้องคนเดียว ก่อนที่เธอจะเดินออกมาตากผ้าที่เพิ่งซักเสร็จ

“สาว มาช่วยพ่อเก็บหมึกที” ผู้ใหญ่จงเรียกให้หญิงสาวเข้าไปช่วยเมื่อเห็นชาวบ้านเดินผ่านมา และไม่อยากให้ผิดสังเกตุ

“จ้ะ พ่อ” อุรัสมาเดินไปช่วยเก็บหมึกตากแห้ง

“ผู้ใหญ่ใช้แต่ลูกสาว เดี๋ยวนางสาวมันก็ขึ้นคานจนแก่หงักพอดี” ชาวบ้านคนนึงพูดขึ้น

โครม !!!!

รพีฉายแกล้งเดินเตะกะละมังเสียงดัง และร้องโวยวาย

“โอ๊ย !!!” เขาร้องเสียงดัง และวิ่งออกมาจากบ้านหน้าตั้งมาหาหญิงสาวอย่างมีแผน

“เฮ้ย ผ ... ผัวจ๋า ออกมาทำไมจ๊ะ” อุรัสมาวิ่งไปคล้องแขนชายหนุ่มร่างสูง และพูดขึ้นเสียงดัง เพื่อให้ชาวบ้านที่ยืนอยู่ได้ยิน โดยไม่ได้สังเกตุเลยว่าชายหนุ่มข้างตัวกำลังยิ้มกรุ้มกริ่ม

“เอ้า !! นางสาว ไอ้หนุ่มนี่ผัวเองเหรอ?”

“จ้ะ น้านวล” หญิงสาวตอบ

“สวัสดีครับ” รพีฉายยกมือขึ้นไหว้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าเขา

“เออ ไว้พระเถอะลูก”

“ผมเป็นผัวเขาครับ” รพีฉายแกล้งพูดออกมาดื้อๆ

“ไปแต่งงานแต่งการกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ผู้ใหญ่นี่ปิดเงียบเชียว” ชายวัยไล่เลี่ยกันถามขึ้น

“ฉันแต่งกันที่กรุงเทพนู่นแหละจ้ะ” อุรัสมาชิ่งตอบขึ้น

“ที่นี่ก็สวยครับ ผมก็อยากแต่งอีกครั้งที่นี่” เขาพูด แล้วแกล้งทำหน้าตาใสซื่อ

“เอ่อ...” หญิงสาวมองเขาตาเขียว

“แต่งอีกนะครับที่รัก” เขาพูด พร้อมกับเอามือคล้องคอหญิงสาวข้างตัว

“ปล่อยนะเว้ย” อุรัสมากระซิบ แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

“เมียอย่าดิ้นสิครับ ไม่ต้องเขินหรอก คนกันเองใช่ไหมครับป้า?” เขาหันไปขอแรงสนับสนุนจากคนดู

“ใช่ๆ เอ็งจะหวานกันต่อก็ตามใจเถอะ ข้าไปล่ะ” ทั้งคู่บอก แล้วเดินจากไป

“นี่คุณ !!” อุรัสมาตวาดเสียงดัง

“...” เขาทำหน้าตกใจด้วยความเสแสร้งสุดฤทธิ์

“ผู้กองรพีฉาย” ผู้ใหญ่จงเรียกเขา เพื่อจะสอบถามเรื่องเมื่อคืน

“...?” เขาแกล้งทำหน้างงอย่างแนบเนียน

“พอจะบอกผมได้ไหมว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?” ชายชราถามขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

“อ่า...ใครคือผู้กองรพีฉายเหรอครับ” เขาโกหกหน้าตาย แถมยังปั้นหน้าใสซื่อต่อ

“คุณความจำเสื่อมเหรอเนี่ย” ผู้ใหญ่จงพูดหน้าตาตื่น

“ห้ะ !!!” อุรัสมาก็อุทานตามเสียงดังความตกใจ

“...”

“เอางี้ๆ ผู้กอง เอ๊ย ....” ผู้ใหญ่จงทำท่าจะพูด แต่ก็ชะงักไป

“...” เขาตั้งหน้าตั้งตาฟังแบบออกนอกหน้า

“ข้าคือผู้ใหญ่จง แล้วนี่นางสาวลูกข้า เป็นเมียเอง....” ชายชราค่อยๆพูดช้าๆ

“สวัสดีครับพ่อ” เขายกมือไหว้ทันที ทำเอาชายชรางงหนักยกมือรับไหว้ตอบ

“เออๆ ไหว้พระเถอะ เอ็งชื่ออะไรเนี่ย?”

“ผม... เอ่อ ชื่อเหรอครับ?” ถ้าเขาเป็นนักแสดงคงจะกวาดรางวัลมาเต็มบ้านแน่ๆ เพราะท่าทางแนบเนียนสุดๆ

“ให้นายนี่ชื่อแก้วแล้วกัน” ผู้ใหญ่จงตั้งชื่อให้เสร็จสรรพ แล้วส่ายหัวอย่างคิดไม่ตก

“จ้ะ ฉันชื่อแก้ว” รพีฉายรับคำอย่างอารมณ์ดี

“นางสวย พาไอ้แก้วเข้าบ้านไป เดี๋ยวตรงนี้ข้าจัดการเอง” ชายชราหันมาบอกบุตรสาวกำมะลอ

“จ้ะพ่อ เข้าไปๆ จิ๊!” เธอบอก แล้วเดินนำเข้าบ้านไปอย่างหงุดหงิด ไม่รู้เวรกรรมอะไร ถึงต้องมาพบมาเจอกันที่นี่อีก แถมตอนนี้ยังอยู่ในฐานะผัวเมียกำมะลออีก คนตัวเล็กตีหน้ายุ่ง แล้วเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าบ้านไปก่อนแล้ว เขายิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเดินตามเข้าไป

“เมียจ๋า แล้วเมื่อไหร่เราจะมีลูกกันสักที” รพีฉายแกล้งถามขึ้น

“จะบ้าหรอ !!!!” หญิงสาวได้ยินรีบโวยวายขึ้นทันที

“เอ้า ก็เราเป็นผัวเมียกัน เราก็ต้องมีลูก เดี๋ยวครอบครัวไม่สมบูรณ์”

“ไอ้บ้ากามเอ๊ย” หญิงสาววีนแตก แล้วหยิบถาดสตนเลสใกล้ๆมือมาฟาดหัวเขาแรงๆไม่ยั้ง

“โอ๊ย โอ๊ย เจ็บนะ” เขาบอก แล้วเอามือจับถาดสเตนเลสเอาไว้

“เออ เจ็บก็ดี จะได้ไม่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้อีก คุณนี่มันผีทะเลชัดๆ”

“แต่ผมยังไม่ตาย” เขาเถียงอย่างตั้งใจ

“อยากตายใช่ไหม?” อุรัสมาถามเสียงเข้ม

“ไม่ครับ ถ้าเมียยังโกรธอยู่แบบนี้ ผัวจะตายได้ยังไงล่ะ” เขาจงใจกวนประสาทเธออีกครั้ง

“ไอ้บ้าเอ๊ย !!!” ถาดอีกใบถูกยกมาฟาดไปทั่วอย่างสะเปะสะปะ

“ทำไมเป็นคนชอบความรุนแรงแบบนี้นะ” เขาพูด แล้วหลบถาดเป็นพัลวัน

“ไอ้คนชีกอ”

“อย่าสิ ผมเจ็บนะ” เขาโวยวาย

“เออ เจ็บไปเลย ฉันจะตีคุณจนกว่าความจำคุณจะกลับมาเลยคอยดู” อุรัสมาแหวใส่อย่างลืมตัว

“ความจำ....” เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“ใช่”

“ความจำอะไรเหรอ ?”

“ความจริงคุณคือ เรือเอกรพีฉาย ฉัฐวรารักษ์” เธอโพล่งใส่เขาอย่างหัวเสีย

“ใครคือ เรือเอกรพีฉาย ฉัฐวรารักษ์” เขาแกล้งถาม แล้วพอใจที่เธอรู้จักเขามาก่อนหน้านี้ แถมยังจำยศ ชื่อ และนามสกุลได้แม่นมาก แต่ยิ่งทำให้เขาสงสัยมากกว่าเดิมว่าเธอคือใคร ‘เธอเป็นใครกัน อัน หรือ สาว?’ เขาคิดในใจ

“ไปนอนในห้องนั้น แล้วไม่ต้องออกมาอีก” อุรัสมาชี้ไปที่ประตู และสั่งเขา

“ไม่”

“ทำไม ?”

“คุณต้องไปนอนกับผมด้วย” เขาพูดหน้าตาเฉย เพื่อยั่วโมโหเธอ

“ไอ้ ไอ้ เฮ้อออออ!!!” หญิงสาวฟาดถาดใส่เขาไปมาหลายที ด้วยความหงุดหงิด

“ถ้าคุณตีผมอีกครั้ง ผมจะจูบ...” เขาพูด แล้วเดินเข้าไปหาร่างบาง ด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ

“อย่านะ” อุรัสมาถอยหลังหนี แต่เขาก็ยิ่งเดินเข้ามาใกล้เธอ

“ลองตีดูอีกทีสิ...”

“ถอยไปสิ”

“ไม่”

“ไอ้โรคจิต” คนตัวเล็กกว่า

“แล้วคุณจะมาหวงเนื้อ หวงตัวอะไรเนี่ย เราเป็นผัวเมียกันนะ” เขาพูดอย่างใจเย็น แต่ก็ก้าวขายาวๆตามหญิงสาวมาจนติดผนัง

“เราเลิกกัน!” อุรัสมาบอก

“ไม่ ผมไม่เลิก”

“นายจะบ้าเหรอ ฉันจะเลิก นายไม่เลิกก็เรื่องของนาย”

“ถ้าพูดแบบนี้อีก ผมจะจูบ...” เขาบอก

“ฉันจะเลิก จบไหม?” หญิงสาวพูดเด็ดขาด

รพีฉายยิ้มร้าย แล้วก้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาใกล้ๆให้ห่างจากเธอไม่กี่เซ็นอย่างจงใจ และค่อยๆชยับมาใกล้ๆ เพื่อจะทำอย่างที่พูดไป แค่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...

พลั่วววว !!!!

กะทะใบใหญ่ฟาดเข้าที่หัวของเขาเต็มแรง ทำให้ร่างสูงรู้สึกปวดหัวตึ้บๆขึ้นมาทันที เขาละออกจากเธออย่างง่ายดาย

“จะฆ่าผมเลยหรือไง?” เขาถามด้วยใบหน้านิ่งๆ

“ใช่”

“หึ” เขาเค้นเสียงในลำคอ เขายิ้มร้ายกาจอีกครั้ง

“ยิ้มบ้าไร” หญิงสาว

“ฝากไว้ก่อนนะสุดสวย” เขาพูด และยักคิ้วหลิ่วตาใส่เธออย่างลืมตัว ก่อนจะเดินเข้าห้องไปหน้าตาเฉย

“เฮ้อ...”

“...”

“เฮ้อ...”

“เป็นไร?” เขมิกาถามเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ แถมเอาแต่ถอนหายใจไม่หยุด

“ก็... เอ่อ ช่างมันเถอะแก” หญิงสาวโบกมือเซ็งๆ

“เรื่องผู้กองล่ะสิ” เธอล้อเพื่อน

“เฮ้อ เปล่า ฉันจะไปสนใจเรื่องเขาทำไมล่ะ แกนอนได้แล้ว ฉันจะนอนแล้วนะ ฝันดี ^^”

“เดี๋ยว !!”

“ว่าไง ?” อุรัสมาถามขึ้น

“ฉันมีอะไรจะบอก แต่ไว้พรุ่งนี้ดีกว่า ^^” เขมิกาเอาคืนเพื่อนรักอย่างถือไพ่เหนือกว่า เพราะรู้นิสัยเพื่อนสาวดีว่าเห็นเรื่องงานสำคัญกว่าเรื่องอื่น

“ชิ !!! แกนะแก” คนฟังบ่นอุบ เมื่อโดนเอาคืน

“นอนสิ ^^”

“โอเค อย่ายิ้มแบบนั้นสิยะ ฉันเครียดเรื่องหมอนั่นจริงๆ เขาความจำเสื่อมนะ ...ฉันกลัวว่าเขาจะทำให้ภารกิจล่ม”

“แกอย่าเพิ่งคิดมากสิ ผู้กองรพีฉายเก่งจะตายไม่งั้นเขาคงไม่ติดยศ ‘เรือเอก’ ได้ตั้งแต่อายุ 27 หรอก เหมือนยูชีจินของฉัน>\\
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel