ทหารเรือที่รัก

90.0K · จบแล้ว
Lalyblue,Woohoo,พิมพ์พรรษ
52
บท
6.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

...ความรักของเขาและเธอไร้เหตุผล และอันตรายแต่ตราตรึงหัวใจสองดวงไว้ด้วยกัน......เขากำลังจะก้าวเดินไปที่ต้นมะพร้าวสูงลิ่วที่อยู่ข้างบ้านหลังนั้น แต่ถูกมือนึงกระชากไหล่เขาแรงๆ ชายหนุ่มปัดมือนั้นออก แล้วหันไปตั้งการ์ดใส่ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเธอ“...เมียจ๋า แหะๆ” รพีฉายรีบปรับท่าที“มาทำอะไรที่นี่?” อุรัสมาถามขึ้นด้วยความสงสัย หญิงสาวแอบสะกดรอยตามเขามาห่างๆ พอเห็นว่าเขาเข้ามาในบริเวณบ้านของนายหัวแวน เขาก็คาดสายตาไป เพราะเธอต้องรีบหลบลูกน้องของเจ้าของบ้านเป็นระยะๆ“มาเดินเล่น” รพีฉายตอบหน้าตายสุดๆ“คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ?”“- _ -““บอกมาเดี๋ยวนี้นะ มาทำอะไรที่นี่” อุรัสมาคาดคั้น“...” เขาเงียบกริบ“นี่ !!! คุณไม่ได้ความจำเสื่อมใช่ไหม?” หญิงสาวถามขึ้นรพีฉายไม่ตอบคำถามอะไร แถมยังเอื้อมแขนแข็งแกร่งมากระชากเธอเข้าไปใกล้ตัวเร็วๆ แล้วอุ้มพาดบ่าทันที

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันทหารตลกสายลับนางเอกเก่งรักหวานๆรักแรกพบพระเอกเก่ง

บทนำ

รพีฉายขับรถกลับบ้านพักที่สัตหีบอย่างอารมณ์ดี เพราะเขาพึ่งได้ไลน์จากพยาบาลสาวสวยจากกองทัพอากาศมาสดๆ ร้อนๆเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว เขาปฏิเสธใครๆมาตลาดว่าเขาไม่ได้เจ้าชู้ ~ เคยได้ยินหรือเปล่าล่ะ ที่มีคนบอกว่า ‘ไม่ได้เจ้าชู้ แต่มีเนื้อคู่หลายคนน่ะ’ …เขาเพียงแต่รอคนที่ใช่ทุกสุดต่างหาก ถึงแม้แรกๆมองอะไรก็ใช่ไปหมด -0- แต่ถ้าใช่ที่สุดนี่ยังหาไม่เจอเฉยๆ ก็คิดดูละกันขนาดสวยระดับซุปตาฯ เขายังว่าไม่ใช่ แล้วแบบไหนกันจะใช่สำหรับเขา คิดเอาเถอะว่าขนาดตัวเองเขาเองยังไม่รู้เลย ~~~

“ที่ไฟแดงเยอะอะไรนักหนาน่ะ” รพีฉายบ่นเซงๆ เมื่อรถติดไฟแดงยาวเหยียดมาเกือบครึ่งชั่วโมง

…และสิ่งที่ทำให้เขากระวนกระวายขนาดนี้คือ…

“จะไปทันนัดกินข้าวกับพิงค์ไหมเนี่ย ?” เขาบ่นถึงพยาบาลสาวสวยอีกคนแห่งกองทัพเรือ เพราะมีนัดดินเนอร์กับเธอยังนี้

“โห ได้ขยับซะที”

เขากำลังจะเหยียบคันเร่งไปข้างหน้า เมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว

โครมมม !!!!

ใบหน้าหล่อเหลาถึงกับตึงขึ้นมาทันทีจากแรงกระแทกเมื่อสักครู่ เขาแทบจะยกเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากเหลือเกิน ชายหนุ่มเปิดประตูลงจากรถไปทันทีด้วยความหงุดหงิด แถมเขายังหงุดหงิดกว่าเดิมเมื่อรถที่ชนเขาดันมาบีบแตรไล่เขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

‘ให้ตายเหอะ เกิดมายังไม่เคยพบเคยเจอคนประเภทนี้’ เขาบ่นในใจ และเคาะกระจกรถคู่กรณีแรงๆ

“คุณ ๆๆ ลงมาคุยกันเดี๋ยวนี้ คุณขับรถชนรถผมยุบเลยนะเนี่ย” รพีฉายโวยแต่คู่กรณีไม่ยอมเปิดกระจกเลยด้วยซ้ำ

เขายืนถอนหายใจเซงๆ กับการกระทำของคู่กรณี จึงกลับไปที่รถตัวเอง แล้วขับออกไป

“อย่าให้รู้นะว่าใคร พ่อจะเบิดกระโหลกให้หงายไปเลย” เขาบ่นอย่างหัวเสีย

เอี๊ยดดดด !!!

“เฮ้ยย !!!” รพีฉายร้องลั่นเมื่อตอนขับปาดหน้า พอมองดีๆกลับเป็นรถคู่กรณีของเขาเอง

เขาเปิดประตูลงรถไฟด้วยอารทณ์โกธรสุดๆ

“เปิดประตูลงมาคุยเดี๋ยวนี้ !!!” เขาแทบจะตะโกนออกมาด้วยซ้ำ

วึ้ดดดดด

กระจกรถเลื่อนลงมาครึ่งนึง เผยให้เห็นหญิงสาวใบหน้าสาวหวานน่ารักส่งยิ้มมาให้อย่างใจเย็น

“ขอโทษนะคะ ท้ขับรถชนคุณ พอดีว่าฉันรีบ” เธอบอกแล้วยื่นเงิรให้เขา “รับไปนะคะ…”

“เดี๋ยวเขาคุณ” หญิงสาวกำลังจะปิดกระจก แต่เขาห้ามไว้ก่อน

“มีอะไรคะ ?”

“รีบแค่ไหนคุณก็ไม่ควรขับรถแบบนี้นะ รู้ไหมว่ามันจะทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน” เขาบ่นด้วยความโมโห ถึงคนตรงหน้าจะสวยหวานราวกับนางฟ้ามาจุติ แต่เขาก็หาได้แคร์ไม่

“ฉันขอโทษนะคะ แต่ว่าฉันรีบ” เธอตอบกลับนิ่งๆ อย่างใจเย็น

“ถ้ามีคนรีบแบบคุณทั้งโลก คงมีคนตายวันละล้านเลยล่ะ”

“นี่คุณจะเอายังไงน่ะฮะ ฉันบอกว่าฉันรีบ ฉันรีบ เข้าใจไหมห้ะ” คนในรถเหวี่ยงคืนเขาอย่างหงุดหงิด บวกกับธุระสำคัญที่เธอต้องไปเดี๋ยวนี้ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะตกกลับผู้ชายที่ขี้โวยวายเหมือนผู้หญิงแบบเขา

“บอกมาสิว่าธุระคุณมันเร่งด่วยขนาดไหน ถึงได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นขนาดนี้” เขาถามขึ้น และอยากจะขู่ต่อท้ายไปสักนิด ‘ถ้าตามไม่มีเหตุผล จะจูบซะให้เข็ด’

“เพื่อนฉันจะไปยิงกิ๊กผัว จบนะคะ บ๊ายยย” หญิงสาวพูด แล้วเลื่อนกระจกปิดเร็วๆ แล้วขับรถออกไปทันที

“…???” รพีฉายถึงกับเหวอที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น เข่ไม่รู้จะเชื่อเธอได้ไหม แต่กว่าจะตั้งสติกับผู้หญิงเจ้าเล่ห์แบบเธอ เขาก็รู้ทันทีว่าตัวเองกำลังพลาดมะหัน

“รถบุบขนาดนี้ ต้องทำสีใหม่ให้มาสองพัน…” เขาบ่น “ขี้งกจริงๆ”

รพีฉายเดินกลับไปขึ้นรถ และพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลง ก่อนจะเริ่มขับออกไปอย่างอารมณ์ดีเหมือนเดิม แต่แน่นอนล่ะ ใบหน้าสวยๆของคู่กรณีเขาเมื่อกี้น่ะ เขาไม่มีวันลืมลงเลยทีเดียว อย่าให้เจอล่ะกัน…

“เธอไม่รอดแน่ ^^” เขาพูด แล้วยิ้มร้ายๆ ตามแบบฉบับของตัวเอง

อุรัสมาขับรถมาจอดที่ชายหาดพัทยา และรีบวิ่งลงจากรถไปทันที…

“อันๆ มานี่เร็ว ฉันหายัยนิวไม่เจอ” ยุวดีเรียกเพื่อนเสียง

“แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ แยมแกลองโทรหามันอีกรอบสิ” หญิงสาวบอกเพื่อนหน้าเครียด

“มันไม่ยอมรับโทรศัพท์น่ะสิ”

“หวังว่าเราจะไม่ได้มาช้าไปหรอกนะ” เธอบอกเสียงเครียด ก่อนจะเข้าไปคุยกับคนขายห่วงอย่าง เจ้าของเต๊นท์ และคนขาวอาหารทะเล แต่ไม่มีใครพบเห็นเพื่อนของเธอเลย

“ถ้าเรามาช้าจะทำยังไงดีวะ ?” ยุวดีถามขึ้นอย่างหัวเสีย และเป็นห่วงเพื่อน

“ลองหาก่อนกันดีกว่า ยังไงค่อยว่ากัน” อุรัสมาบอกเพื่อน “เราอยาหกันหาดีกว่า แกไปทางซ้าย ฉันไปทางขวา”

“อือ”

ทั้งคู่วิ่งออกไปกันคนละทางเพื่อตามหาเพื่อน

… 3 ชั่วโมงก่อน…

และที่หญิงสาวทั้งสองคนต้องว้าวุ่นตามหาเพื่อนกันขนาดนี้ เพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเพื่อนของเธอไลน์มาบอกว่า…

(น้ำ : พวกแก วันนี้แหละ ฉันจะยิงพวกมันทั้งคู่ให้พรุน โทษฐานที่หลอกฉัน)

ยุวดีเป็นคนแรกที่เห็นข้อความ และได้แต่หัวเราะขบขัน

(แยม : แกจะไปเอาปินมาจากไหนวะ ถ้าเป็นไอ้อันก็ว่าไปอย่าง)

(อัน : อย่างชี้โพรงให้กระรอกดิยัยแยม)

หลังจากคุยกันได้ไม่กี่ชั่วโมงเพื่อนสาวก็ส่งรูปปืนที่วางอยู่ข้างเบาะคนขับมาให้ดู ทำให้เพื่อนอีกสองคนมองตาเหลือก วิ่งไปหยิบกุญแจออกมาสตาร์ทรถแทบไม่ทัน

(อัน : น้ำ แกใจเย็นๆนะเว้ย)

(น้ำ : ไม่ ยังไงฉันก็จะยิงมัน และจะมอบตัว)

(แยม : ไม่ได้ทำร้ายแค่มัน แต่แกทำร้ายตัวเองไปด้วย) ยุวดีพยายามพูดเตือนสติ แต่คนที่กำลังเต็มไปด้วยโทสะอย่างร้ายกาจก็ไม่ยอมเปิดใจรับฟังอะไรเลย

(น้ำ : ถ้าพวกแกเป็นเพื่อนฉัน พวกแกต้องเข้าข้างฉันดิ)

(อัน : ถ้าเพื่อนจะทำผิด เพื่อนก็ต้องเตือนเพื่อนดิวะ) อุรัสมาพยายามเตือนสติอีกคน

(น้ำ : มาดูผลงานฉันที่พัทยาได้เลย ต่อให้เขาช้างทั้งป่ามาฉุด ก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก)

เพื่อนทั้งสองรู้แน่แล้วว่าห้ามในไลน์ หรือโทรศัพท์ไปห้ามก็คงไม่มีประโยชน์ แม้อุรัสมาจะอยู่ในช่วงเวลาพักผ่อนเตรียมตัวปฏิบัติภาระกิจลีบ แต่เธอก็ไม่อาจทนให้เพื่อนทำผิด ทั้งที่ตัวเองรู้อยู่เต็มอกได้ ส่วนยุวดีที่กำลังสอนนักเรียนอยู่รีบยื่นใบลาด่วนทันที เพราะไม่อาจนิ่งดูดายได้เช่นกัน

ปัง !!!

เสียงปืนดังสนั่นขึ้นหนึ่งนัด ทำให้คนแถวนั้นแตกตื่นและวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น แต่หญิงสาวร่างบางกับรีบวิ่งเข้าไปหามันอย่างร้อนใจ…