ตอนที่ 3 บ้านวรรณยุกต์ (1)
ตั้งแต่ออกจากบ้านมา คุณไกรภพก็ไม่พูดไม่จาใดๆ สีหน้าเคร่งเครียด ทำให้คนถูกฉุดขึ้นรถต้องพลอยเงียบไปด้วย จนกระทั่งรถแล่นเข้ามาจอดสนิทในอาณาเขตของบ้านสวนหลังหนึ่ง แววตาสีอ่อนสวยมองบรรยากาศรอบๆ ตัวอย่างสนอกสนใจ บ้านเรือนไทยหลังงามรายล้อมด้วยเรือกสวนเขียวครึ้มดูร่มรื่น
“ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่าลูก” จู่ๆ คุณไกรภพก็หันมาถาม สายตาอ่อนโยนมองดวงหน้ามอมแมมด้วยความเวทนา
“ไม่ค่ะ หายเจ็บแล้ว” ศุภิสรารีบปดคำโต เพื่อให้คนถามสบายใจขึ้น “ที่นี่ที่ไหนคะ"
“บ้านเพื่อนของลุงเอง” ยังไม่ทันได้ความกระจ่างนัก คุณไกรภพก็ลงจากรถไปเสียก่อน ศุภิสราถอนหายใจเบาๆ ก่อนรีบเดินตามขึ้นบ้านไป โดยที่ไม่ทันสังเกตเห็นสายตาของใครคนหนึ่งที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น
รถคันหรูแปลกตาทำให้คนนั่งห้อยโหนอยู่บนกิ่งต้นมะม่วงต้องเหลียวไปมองอย่างสนใจ ร้อยวันพันปีไม่ค่อยมีใครไปมาหาสู่บ้านสวนอันเงียบสงบแห่งนี้ สงสัยวันนี้แขกผู้มาเยือนคงมีฐานะไม่หยอก ร่างผอมเก้งก้างรีบโจนทะยานลงจากกิ่งไม้อย่างชำนิชำนาญ...เห็นท่าคงต้องไปสังเกตการณ์ใกล้ๆ สักหน่อยแล้ว!
“นั่นเสียงใครน่ะ เจ้าโทเรอะ” เสียงร้องถามดังมาจากในบ้าน ทำให้ศุภิสราตกใจรีบหลบเข้าข้างหลังคุณไกรภพทันที
“ผมเองครับคุณป้า” คุณป้า หรือ คุณฝนทอง วรรณยุกต์ ขยับแว่นมอง
“อ้าว นั่นคุณไกรมิใช่รึ ลมอะไรพัดมาละจ๊ะ มาๆ ขึ้นบ้านก่อนลูก” หญิงสูงวัยยิ้มแย้มเชื้อเชิญเพื่อนกึ่งเจ้านายของลูกชายตน
“คุณป้าสบายดีหรือครับ”
“โอ้ย ก็สบายตามประสาคนแก่น่ะแหละพ่อคุณ”
“แล้วนี่คุณเอกไปไหนล่ะครับ”
“พ่อเอกไม่อยู่หรอกจ้า พาแม่ลูกสาวเขาไปเรียนดนตรีอะไรนู่นแน่ะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้วล่ะจ้ะ อ้าว แล้วนั่นเด็กที่ไหนกัน”
“หนูทรายไหว้คุณยายสิลูก”
“หนูทราย” คุณฝนทองทวนคำ พลางหรี่ตามองร่างเล็กๆ ที่เยี่ยมหน้าออกมาจากด้านหลังเพื่อนของลูกชายอย่างกล้าๆ กลัวๆ หากเมื่อได้เห็นหน้าเด็กหญิงชัดๆ หญิงสูงวัยก็ถึงกับตบอก อุทานลั่น
“คุณพระช่วย... แม่ลดา!”
“นี่ ‘หนูทราย’ ครับคุณป้า”
“คล้าย... คล้ายกันเหลือเกิน นี่ถ้าคุณไกรไม่บอกว่าเป็นใคร ป้าคงคิดว่าเป็นฝาแฝดแม่ลดาเป็นแน่ ยิ่งพูดก็ยิ่งคิดถึงตั้งแต่หนีออกจากบ้านไปคราวนั้นก็ไม่ได้เห็นหน้าอีก ไหนเข้าใกล้ๆ ยายหน่อยซิลูก ขอกอดให้ชื่นใจสักนิดเถอะนะแม่คุณ”
ศุภิสราหันไปมองคุณไกรภพที่ยิ้มและพยักหน้าให้น้อยๆ ก่อนคลานเข่าเข้าไปใกล้ หญิงมากวัยมองหนูน้อยด้วยแววตาเอ็นดู ดวงหน้าหวานลออละม้ายคนที่ตนเคยดูแลมาในอดีตยิ่งทำให้เธอนึกถูกชะตา
“แล้วนี่ไปไงมาไงกันล่ะ ทำไมจู่ๆ ถึงมาหาโดยไม่บอกล่วงหน้าก่อน มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคุณไกร”
“นิดหน่อยครับคุณป้า” คุณไกรภพอึกอัก “หนูทรายลงไปเดินเล่นข้างล่างก่อนนะลูก แต่อย่าเดินไปไกลนักล่ะ” แม้จะอยากรู้เรื่องด้วย หากเด็กหญิงก็หักใจรับคำ รีบเดินออกไป การสนทนาจึงเริ่มขึ้น
“คุณพราวล่ะสิ” คุณฝนทองพอเดาได้
“ครับ มีเรื่องที่บ้านนิดหน่อย คุณพราวเธอไม่ค่อย เอ่อ...ชอบยัยหนู”
“แหม มันก็น่าอยู่หรอก หน้าราวกับโขลกออกมาจากพิมพ์เดียวกัน ใครเห็นก็ต้องคิดบ้างล่ะ แล้วรอยแผลที่หัวที่ขานั่นก็คงฝีมือคุณพราวเหมือนกันสินะ”
