ตอนที่ 2 ความผิดที่ไม่ได้ก่อ (4)
“นี่คุณเชื่อยัยเด็กนี่มากกว่าฉันหรือไง” คุณพราวพิไลตัดพ้อ
“ไม่ได้ยินที่ฉันบอกหรือไง ไปตามตาเพชรมานี่ เดี๋ยวนี้”
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ลูกชายคนเดียวของบ้านก็ก้าวเข้ามาในห้อง คุณพราวพิไลรีบดึงลูกชายเข้ามากอดด้วยความหวงแหน พลางส่งสายตาเคียดแค้นให้สามี
“ไหนลองเล่าให้พ่อฟังซิว่าเกิดอะไรขึ้น หนูทรายแกล้งหนูเฟื่องอย่างที่คุณแม่บอกหรือเปล่า”
พีรภัทรเงยหน้ามองผู้เป็นแม่ที่ทำปากขมุบขมิบบงการอย่างลำบากใจ หากถ้ายอมทำตามที่แม่ต้องการเด็กนั่นคงไม่แคล้วต้องถูกลงโทษอีกแน่ แม้จะไม่ชอบหน้านัก แต่เขาก็ไม่ชอบเห็นความอยุติธรรมเช่นกัน
"เปล่าครับ ไม่ได้แกล้ง น้องเฟื่องขาเป็นเหน็บเลยล้มไปเองครับ” คำตอบนั้นทำให้จำเลยตัวน้อยพ้นผิดโดยไม่มีข้อโต้แย้ง หากคุณพราวพิไลกลับไม่ยอมให้เรื่องจบลงง่ายๆ
“ถึงยังไงคุณก็ต้องทำโทษเด็กนี่”
“ก็หนูทรายไม่ผิด คุณก็ได้ฟังลูกพูดแล้วนี่” คนเป็นสามีโต้
“คุณขู่ลูก ลูกก็กลัวสิ ไม่รู้ล่ะ ถ้าคุณไม่จัดการเด็กนี่ให้หลาบจำล่ะก็ ฉันไม่ยอมจริงๆ ด้วย”
“เรื่องคราวนี้ให้แล้วกันไปเถอะ ผมหวังว่าคุณนิภาเองก็คงไม่ติดใจเอาความนะครับ” คุณไกรภพหันไปเอ่ยกับเพื่อนของภรรยา
“นี่คุณเข้าข้างยัยเด็กนี่เหรอคะ คอยดูเหอะต่อไปมันคงแกล้งลูกเราหนักๆ อีก แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้นะ”
“หนูทรายไม่ใช่เด็กแบบนั้น มีเหตุผลหน่อยสิคุณพราว โตๆ กันแล้วนะ” คุณพราวพิไล เม้มปากแน่น ในใจไม่ยอมลงให้สามีแม้แต่น้อย
“อ๋อ ใช่สิ ฉันมันคนไม่มีเหตุผล ใครจะไปแสนดีเหมือนแม่คนรักเก่าคุณล่ะ”
“หยุดนะพราวพิไล! คุณพูดอะไรคิดถึงเด็กๆ ที่นั่งฟังอยู่บ้างเหอะ”
“ดีสิ มันจะได้รู้ว่าแม่ของมันนิสัยเลวยังไง”
“ศศิลดาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้” ชื่อที่หลุดจากปากประมุขของบ้านทำให้ศุภิสรานิ่งงัน
“เกี่ยวทุกอย่าง ถ้าไม่เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น วันนี้คุณคงไม่ต้องไปเก็บเด็กนี่มาไว้ตำตาตำใจฉันอย่างนี้หรอก”
“พอกันที ผมไม่อยากฟังคุณพูดอีก ไปกันเถอะหนูทราย อย่าไปฟังคนเพ้อเจ้อเลย” คุณไกรภพไม่ฟัง รีบจูงมือเด็กหญิงเดินหนีขึ้นรถออกไปทันที ทำเอาคุณพราวพิไลแทบกระอักออกมาด้วยความเจ็บใจ
