บทที่ 4 ถ้าเธอเลว ฉันจะร้าย | ปากเสียจริง
บัตเตอร์talk
วันนี้เป็นวันที่ลูก ๆ หลาน ๆ ตระกูลแสงสุริยะได้มาออกรอบพร้อมครอบครัว คุณปู่คุณตาของผมชอบการตีกอล์ฟมาก ทุกครั้งที่มีเวลา จะชอบชักชวนหลานชายมาอยู่เสมอ ถึงแม้พวกผมจะไม่ชอบการตีกอล์ฟเลยก็ตาม แต่ก็ไม่อยากขัดคนเป็นปู่เป็นตา
"กูนี่โคตรจะเกลียดการตีกอล์ฟ คนแก่นี่โคตรจะคึกกัน ชวนออกรอบได้ทุกอาทิตย์" ไอ้ฉลามพูด ปกติมันไม่ชอบกีฬาประเภทกอล์ฟ ผมเองก็ไม่ได้ชอบ พี่ชายอีกคนของผมก็ไม่ได้ชอบเหมือนกัน แต่ที่มาตีกอล์ฟกันในวันนี้ก็เพราะ คุณปู่บังคับมา
"จริง" ผมเอ่ยเสริม มันเป็นอะไรที่โคตรจะน่าเบื่อในความรู้สึกของผมแต่ก็จำต้องมา ถ้าไม่มาคนที่จะโดนบ่นหูชาเป็นผมแน่นอน
"มาตีกอล์ฟเเหละดี จะได้ไม่ต้องมีเวลาไปเตร่ที่ไหน" แม่พูดเมื่อเห็นพวกผมเอาแต่กระซิบกระซาบกัน "ยิ่งโตยิ่งทำให้หนักใจ ให้มันมีดีสักคนบ้างนะ อย่าทำให้พ่อกับแม่ต้องลำบากใจทุกคน"
"คนที่ทำให้แม่กับพ่อลำบากใจก็มีแต่ไอ้ฉลามคนเดียวเท่านั้นแหละ พวกผมไม่เคยทำให้พ่อกับแม่หนักใจเลย"
"จริงเหรอ?" แม่แค่นหัวเราะเบาๆ
"จริ๊ง!" ผมเสียงสูง
"แล้วเรื่องคาวๆ ฉาว ๆ ของผู้หญิงที่พวกลูกไปติดพันนั่นล่ะ"
"หูยแม่ เธอเป็นดาราดัง และที่สำคัญเธอเป็นลูกสาวของนายตำรวจใหญ่เลยนะแม่"
"ลูกก็รู้ว่าพ่อเกลียดตำรวจเข้าไส้ ยังจะไปสานสัมพันธ์อีก อีกอย่างแม่ไม่ชอบนิสัยผู้หญิงคนนั้นด้วย"
"เเต่ผมชอบนิ่ครับ"
"ชอบก็อย่าโง่ไปเปย์มาก ผู้หญิงสมัยนี้หน้าเงินจะตาย แม่จะไม่ยอมให้ผู้หญิงหิวเงินพวกนั้นสูบเลือดลูกแน่"
"ครับบบ"
ผมหัวเราะแล้วจัดแจงท่าทางให้ถูกต้อง การยืนเป็นพื้นฐานของวิธีตีกอล์ฟให้ไกลที่สำคัญ เพราะส่งผลต่อการสวิง หากควบคุมแกนกลางลำตัวได้ดี ก็จะช่วยถ่ายเทน้ำหนักไปที่ไม้กอล์ฟได้อย่างเต็มที่ ซึ่งท่ายืนที่ถูกต้อง คือ หลังต้องตรงตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงก้นกบ เชิดคางขึ้นเล็กน้อย วางเท้าให้กว้างประมาณหัวไหล่และถ่ายเทน้ำหนักไปยังส้นเท้า
การตีกอล์ฟจำเป็นต้องหมุนตัวในการสวิง การเล่นกล้ามเนื้ออกซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มีส่วนช่วยในการควบคุมการเคลื่อนไหวของไม้กอล์ฟ แต่ก็ช่างหัวทฤษฎีบ้าบอพวกนั้น มันมีอีกหลายอย่างแต่ที่ผมจำได้ก็มีแค่นี้
พลั่ก ผมหวดเต็มแรงลูกกอล์ฟลอยละลิ่วกระแทกพื้นแล้วกลิ้งลงหลุม
"เหี้ย โฮลอินวันเลยมึง" ฉลามตะโกนอย่างดีใจ ดูทึ่งในสิ่งที่ผมทำมาก ๆ แต่ก็อย่างว่าแหละ ผมมันคนเก่ง (ที่จริงมันฟลุ๊ค^_^)
"กูมันเก่ง"
"แหม่ ชมนิดชมหน่อยแล้วคุยเชียวเลยนะมึง" ไอ้ฉลามแขวะผมไปที
"ทำไงได้ก็กูมันเก่ง มึงไม่เก่งอย่างกูก็หุบปากไปเลย"
"เออ กูทำโฮลอินวันได้สักครั้งเถอะมึง กูจะพูดยันลูกบวชเลยไอ้เวร!"
"เชอะทำคุย!"
"เก่งได้ตาจริง ๆ" ตาวิคเตอร์หัวเราะ
"เก่งได้กูต่างหาก" ปู่เอกพงศ์พูด "มึงเก่งแค่เย็.ดอย่างเดียว นอกนั้นจะมีเหี้ยอะไร" ปู่กับตาผมเป็นไม้เบื่อไม่เมาไม่ลงรอยกันตั้งแต่ไหนแต่ไร ทะเลาะกันได้ทุกครั้งที่มาออกรอบ ดูไม่กินเส้นกันมาก แต่พอเกิดเรื่องสองตระกูลที่ไม่เคยลงรอยกัน ก็จะร่วมมือต่อสู้ช่วยเหลือกัน
ดั่งคำที่เขาว่ากัน ยามศึกเราช่วยกันรบ ยามสงบเรารบกันเอง...
"ไอ้สัส มึงก็พูดเกินไป"
"กูพูดเรื่องจริง"
"แก่แล้วใครจะเย็.ด ทุกวี่ทุกวัน เหนื่อยตายห่า"
"มึงไง มึงชอบ"
"ไอ้เวร!"
"หูย ปู่วิคเตอร์ตีกอล์ฟเก่งจัง" ไอ้ฉลามตัวประจบประแจงปรบมือชอบใจ ผมวางไม้กอล์ฟแล้วไปนั่งกับไอ้คลาวด์ ไอ้นี่มันมันขี้เก๊ก ไม่ค่ออยแสดงอารมณ์ทางสีหน้าหรอก
"บัตเตอร์คะ" น้ำเสียงหวานใสดังขึ้นทำให้ผมต้องหันไปมอง ลินินอยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานไม่ได้เหมาะกับการมาตีกอล์ฟ เธอเดินนวยนาดเข้ามานั่งที่ตักผม ไม่ได้สนใจสายตาแม่ผมที่มองอย่างไม่พอใจเลย
แม่อลิซนิสัยดุดันไม่เกรงใจใคร ยิ่งแม่รู้ว่าลินินเป็นลูกสาวของนายตำรวจ แม่ก็ยิ่งไม่อยากให้ผมสานสัมพันธ์กับเธอ เพราะครอบครัวผมไม่ค่อยชอบตำรวจ
ครอบครัวของผมทำทั้งธุรกิจสีขาวสีเทา ไม่มีใครชอบตำรวจหรอก อีกอย่างตำรวจเองก็ไม่ได้ชอบครอบครัวหรือตระกูลของพวกผมเช่นกัน
"ครับ" ผมกุมมือนุ่มของเธอเอาไว้ ผมถูกใจผู้หญิงคนนี้มากนะ แต่แม่กับพ่อดันไม่ชอบ
"มาออกรอบก็ไม่ชวน" เธอกระเง้ากระงอด
"เขาก็ชวนแค่คนในครอบครัวมา คนนอกจะชวนทำไม?" แม่ผมพูดขึ้น
"แหม่ แม่อลิซคะ?"
"ฉันไม่ใช่แม่เธอ" แม่ผมเสียงห้วน ก่อนจะหันไปสนใจผู้หญิงที่เป็นแคดดี้ เธอแบกกระเป๋าอุปกรณ์เดินตรงมาพร้อมกับผู้หญิงอีกคน ผู้หญิงอีกคนผมรู้จักเธอชื่อแสนดี เป็นแคดดี้อยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้ว ส่วนผู้หญิงที่แบกถุงอุปกรณ์มาน่าจะเป็นเด็กใหม่ เพราะผมไม่เคยเห็นหน้าเลย
เด็กใหม่คนนั้นเดินตรงไปหาไอ้ฉลามพร้อมกับให้คำแนะนำ แม่ผมดูสนอกสนใจเธอเป็นอย่างมาก จ้องตาแทบไม่กะพริบ ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนสวยอะไรเลย เธอผิวคล้ำผมหยักศกหน้าตาบ้าน ๆ บ้าน ๆ ที่แปลว่าบ้านนอก
แม้จะดูเงอะงะแต่ปากแจ๋วมาก ให้คำแนะนำไอ้ฉลามอย่างดีเยี่ยม
"สนใจเหรอ?" ไอ้คลาวด์เอนกายแล้วยกขาขึ้นพาดโต๊ะ เอาจริง มันโคตรไม่มีมารยาท แต่ก็อย่างว่าแหละครับไอ้บ้านี่มันเป็นคนไม่มีมารยาทตั้งแต่ไหนแต่ไร นิสัยของมันผ่าเหล่าผ่ากอ ไม่ค่อยสนใจหรอกว่าใครจะพอใจไม่พอใจ
"เปล่าสักหน่อย"
"กูนึกว่ามึงอยากจะล่าเหยื่ออีกคน"
"เหยื่อเหี้ยไร" ผมเสียงเข้ม ลินินเม้มปากแล้วสะบัดตัวไปนั่งไขว่ห้างที่เก้าอี้ข้างๆ
"เเคดดี้คนใหม่ไง ปกติมึงมึงร่านจะตาย ไม่เคยสนความรู้สึกใคร ได้แล้วทิ้งคือสันดานของมึง"
"ไอ้เวร กูไม่ได้เป็นอย่างที่มึงพูดเลย" ผมเสียงกระด้าง
"เหรอ? คนเมื่อเช้าในห้องมึงใครวะ?"
"อะไรนะคะ? ผู้หญิงเมื่อเช้าคือใครกันบัตเตอร์!" ลินินเสียงห้วน เธอนี่โคตรจะหูเบา โดยพี่เวรของผมปั่นประสาทเข้าให้แล้ว
"มึงพูดบ้าอะไรของมึง?!" ผมสบถออกมาอย่างหงุดหงิด ไอ้พี่เวรมันกลับหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างชอบใจ
"ผู้หญิงเมื่อเช้าอะไรกัน?"
"คนที่ออกมาจากห้องมึงไง?"
"ไม่มี!" ผมปฏิเสธแล้วลุกขึ้น "ไปกันเถอะลินิน อย่าไปสนใจคำพูดของไอ้เวรนี้เลย มันกำลังปั่นประสาทเราสองคนให้แตกคอกัน"
"...." เธอไม่พูดแต่ผมก็รับรู้ได้ว่า เธอไม่พอใจกับคำพูดของพี่ชายผม ผมไม่ได้เป็นอย่างที่มันพูดเลยสักนิด ผมไม่เคยได้ใครแล้วทิ้งสักหน่อย ผมก็แค่ให้โอกาสได้เรียนรู้กัน ไปกันไม่รอดก็แค่ทางใครทางมัน
"แล้วมึงจะไปไหนอะ" เวนาลูกพี่ลูกน้องของผมเดินมานั่งข้างไอ้คลาวด์
"ช่างกู!" ผมดึงแขนลินินให้เดินตามไปที่รถ ผู้หญิงที่เป็นแคดดี้เธอเดินมาที่รถที่ผมกับกับลินินอยู่เช่นกัน
"รถคันนี้เป็นของใครคะ?" น้ำเสียงนั้นไม่ได้เป็นมิตรเลยสักนิด เธอหน้าบึ้งมองผมกับลินินอย่างไม่พอใจ มาทำงานวันแรกก็ซ่าแล้ววู๊ย
"ของฉันเอง!" ลินินกอดอกเชิดหน้าอย่างถือดี
"มีอะไรหรือเปล่า?" ผมเลิกคิ้วถาม
"รถคันนี้เคยมีคนขับเหยียบน้ำกระเด็นใส่ฉัน"
"แล้วไง! ต่อให้เหยียบหัวเธอ เหยียบญาติพี่น้องเธอ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องสน" ลินินปากอ้อนอวัยวะช่วงล่างมาก
"ขอโทษฉันซะ!"
"ไม่! ฉันไม่ขอโทษ เธอมันก็แค่แคดดี้ค่าแรงวันล่ะไม่กี่ร้อย ฉันไม่ให้ค่าหรอกนะ"
"ตัวเองวิเศษกว่าคนอื่นว่างั้น"
"ใช่ ฉันเป็นลูกตำรวจใหญ่ที่ใครๆก็เกรงใจ ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องขอโทษเธอ ต่อให้ฉันไม่ขอโทษ เธอก็ไม่มีปัญญาทำอะไรฉันหรอก หึ!"
"มีสิ ทำไมฉันจะไม่มี ฉันก็จะสาดน้ำใส่คืนไงล่ะ!" ว่าจบก็คว้าถังน้ำที่อยู่ไม่ไกลสาดใส่ลินินทันทันที
"กรี๊ด! นังบ้า!"
___________________________________
