บทที่ 47 เข้าร่วม

กร๊าวว!! เสียงสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์ต่างกู่ร้อง เพื่อแสดงถึงอำนาจและความน่าเกรงขามของพวกมัน ฟูเหลาและคิระได้เดินทางมาถึงฐานลับของกิลด์มนุษย์เทพยุทธ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ในถ้ำใต้ดินลึกเข้าไปในป่านั่นเอง ทางเข้าถูกพลางตาด้วยต้นไม้ที่ถูกปลูกขึ้นจนใหญ่พอที่จะบังปากทางเข้าได้ และเมื่อเข้ามาด้านในก็จะมีสัตว์อสูรค้างคาวปีศาจที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อตบตาผู้เล่นคนอื่นเพื่อให้ดูเหมือนถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำปกติ แต่แท้จริงแล้วเมื่อเข้าไปลึกอีกหน่อยจะมีผู้เล่นเกือบร้อยคนรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆมากมายครบครันตกแต่งเพื่อใช้อยู่อาศัยด้วย

ฟูเหลากวาดตามองผู้เล่นคนอื่นอย่างถี่ถ้วน เขาพึ่งเคยเห็นผู้เล่นเผ่ามนุษย์จำนวนเยอะขนาดนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าเกมมา คิระเดินนำฟูเหลาไปยังเวทีเตี้ยๆที่อยู่กลางโถงใหญ่ของถ้ำ ก่อนจะส่งเสียงกระแอมเล็กน้อยเพื่อเรียกทุกคนให้หันมาสนใจ

“เอาล่ะฟังกันหน่อย.." คิระพูดเสียงดัง กลุ่มผู้เล่นจากกิลด์มนุษย์เทพยุทธ์นับร้อยต่างเงียบเสียงและค่อยๆหันมาฟังผู้เป็นหัวหน้าพูด

"ผู้เล่นคนนี้มีชื่อว่าฟูเหลา.. จากนี้ไปเขาจะมาเป็นหนึ่งในพวกเรา ในฐานะพันธมิตร..”

คิระผายมือเชิญให้ฟูเหลาขึ้นมาพูดแนะนำตัว

“ขอฝากตัวด้วยนะครับทุกคน..ผมชื่อ ฟูเหหลา เป็นพ่อค้าครับ..ยังไงก็ขอความกรุณาด้วยครับ..”

ฟูเหลาโค้งตัวเพื่อเป็นการให้เกียรติผู้เล่นที่อยู่ตรงนั้น แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้นจนต้องหันไปมองด้วยท่าางสงสัยเล็กน้อย

“คิคิ..”

ผู้เล่นตัวอ้วนคนหนึ่งหัวเราะออกมาหลังจากฟังฟูเหลาพูดจบ ในมือของเขาถือเบอร์เกอร์ชิ้นใหญjก่อนจะยัดเบอร์กอร์ชิ้นนั้นทั้งชิ้นเข้าปาก

กร๊วบๆ ง่ำๆ!!

“อะไรกันคิระ..แกจะพาใครมาอย่างน้อยก็ให้มันได้เรื่องหน่อยสิว่ะ..”

ผู้เล่นตัวอ้วนพูดขึhนพร้อมกับทำใบหน้าดูถูกฟูเหลา

“พูดจาให้มันดีๆหน่อย ตี๋อ้วน…”

คิระพูดเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง

“ก็มันจริงนี่หว่า…ฐานแห่งนี้เราต้องหาคนเก่งๆช่วยเคลียร์ภารกิจเพื่อรับเซตอาวุธจ้าวสมุทรนะ..แกเอาพ่อค้ามา แกจะให้เขาไปช่วยขายของให้ราชาเนปจูนหรอ..”

‘ชื่อนั้น…ชื่อเป็นชื่อเดียวกับที่วารีสีรุ้งเคยเล่าให้ฟังนี่หว่า..’

ฟูเหลาคิดในใจ

“นายไม่เห็นไอเทมที่เขาสวมสินะ..? คิดว่าพ่อค้าธรรมดาๆจะมีอะไรแบบนั้นใส่รึเปล่าตี๋อ้วน?” ตี๋อ้วนชายตามองฟูเหลาเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มสังเกตเห็นได้ว่าฟูเหลาใส่ไอเทมระดับสูงไม่แพ้กับคิระจึงค่อยๆเงียบไปพักหนึ่ง

“หายข้อข้องใจแล้วก็อย่าพูดมากให้เกียรติเขาด้วย..จากนี้ไปเราจะบอกทุกอย่างที่เรารู้เสมือนเขาเป็นคนในกิลด์ของเรา..”

“แต่ทำอย่างนั้นมันผิดนะคิระ..คนนอกกิลด์หัวหน้าเคยบอกว่าห้ามเผยแพร่ข้อมูลอะไรก็ตามที่เรารู้..”

ผู้เล่นชายตัวเล็กคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆพูดท้วงขึ้น เขาเป็นผู้เล่นชายที่มีส่วนสูงราวๆ 160 เซนติเมตร ผมสีน้ำตาลและใช้ผ้าสีดำพันปิดปากและคอไว้เหมือนนินจาในตัวการ์ตูน

“ตอนนี้ฉันมีตำแหน่งสูงสุดในนี้..เพราะฉะนั้นการตัดสินใจของฉันคือถือว่าเป็นเด็ดขาด ตกลงไหมนินนิน..”

“นายจะตัดสนใจแบบนั้นไม่ได้หรอกนะคิระ..นายต้องดูเสียงส่วนมากด้วย”

ชายอีกคนที่มีผมสีแดงและมีผ้าปิดตาข้างขวาพูดขึ้น..ร่างกายของชายคนนี้ดูสูงและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ดาบด้านหลังเป็นดาบขนาดใหญ่ที่มีใบดาบกว่างเท่าประตูบ้านบานหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่บริเวณใบดาบกลับดูเหมือนดาบที่โดนหักครึ่งเพราะบริเวณปลายดาบไม่มีด้ามแหลมและดูเหมือนจะมีรอยแตกเล็กน้อย ตัวดาบเป็นสีแดงที่มีด้านคมสองด้านเป้นสีเงิน ด้ามจับของดาบมีรูปหัวกะโหลกสลักไว้อยู่ซึ่งดูแล้วมันช่างหน้าเกรงขามไม่น้อย

“เอาอย่างนี้ดีกว่า..ผมจะขอพูดกับทุกคนแบบที่ผมพูดกับคิระ..พวกคุณฟังข้อเสนอของผมบ้างดีไหมครับ..”

ฟูเหลาพูดขัดขึ้นมาเพื่อตัดบทสนทนาของคิระและพวกพ้องที่ดูเหมือนจะกำลังมีเรื่อง ทุกคนต่างเงียบเพื่อฟังฟูเหลาทันทีเพื่อรักษามารยาทแก่เพื่อนใหม่ที่พึ่งได้รู้จัก เมื่อเห็ยว่าทุกคนอยู่ในความสงบูเหลาก็เริ่มพูดอธบิายอีกครั้งด้วยตัวเอง

“ผมตกลงกับคิระว่าจะเป็นพันธมิตรกับกิลด์มนุษย์เทพยุทธ์ไปเรื่อยๆ..จนกว่าผมจะเคลียร์ภารกิจของผมได้ผมถึงจะขอเข้ากิลด์พวกคุณ..แต่ในระหว่างนั้นผมจะช่วยกิลด์พวกคุณอย่างสุดความสามารถ ในทางกลับกัน พวกคุณก็ต้องช่วยผมในทุกๆเรื่องด้วยเช่นเดียวกัน”

“เราจะแน่ใจได้ยังไงว่านายจะไว้ใจได้และทำตามคำขอของเราทุกอย่าง”

ตี๋อ้วนโผลงถามขึ้น

“ผมเป็นพ่อค้าก็จริงแต่ผมก็ต่อสู้เก่งพอตัว..ถึงผมจะยังระดับต่ำอยู่แต่เชื่อได้เลย..ผมไม่คิดว่าผมจะแพ้คุณนะครับตี๋อ้วน…แม้ผมจะอยู่ในสภาพแบบนี้ก็ตาม..”

ฟูเหลาพูดตามตรงจนแทงใจดำชายร่างท้วมตรงหน้า ตี๋อ้วนแสยะยิ้มก่อนจะเดินมาเข้าใกล้ฟูเหลาพร้อมกับกวักมือเรียกให้เข้ามาหา

“เรามาปะลองกันสักสองสามกระบวนท่าเป็นอย่างไรฟูเหลา..ถ้านายทำให้ฉันยอมรับได้..พวกเราจะฟังนายพูดต่อ”

ฟูเหลาไม่พูดพล่ามทำเพลงเขาดีดตัวเข้าหาตี๋อ้วนเต็มกำลังโดยที่ตี๋อ้วนไม่ทันได้ตั้งตัว ขาขวาถูกกวาดเตะใส่ตี๋อ้วนเต็มแรง ปัก!!!

โล่โลหะขนาดยักษ์ถูกยกขึ้นมาป้องกันได้ทันอย่างรวดเร็ว ตัวโล่มีความสูงเท่ากับตัวของตี๋อ้วนซึ่งตัวโล่เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีลวดลายเรียบๆเป็นรูปพระอาทิตย์เท่านั้น ตี๋อ้วนกระแทกโล่ออกไปโจมตีฟูเหลาสุดแรง ปัง!!! ร่างของฟูเหลาเซถอยหลังไปสามก้าว ชายหนุ่มกำหมัดแน่นก่อนจะตั้งการ์ดขึ้นมา เขากำมือหลวมๆสองข้างมือข้างขวายกขึ้นสูงระหว่างหัวคิ้วและยื่นไปด้านหน้าเล็กน้อย ส่วนมือซ้ายถูกยกต่ำลงมาใกล้กับช่วงอก เขากระโดดฟุตเวิร์คเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหวของตัวเอง

“ใช่มวยไทยรึเปล่า?”

นินนินพูดขึ้นลอยๆ

ฟูเหลาที่อดีตก็เคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลายแขนง รวมถึงมวยไทยด้วยเช่นเดียวกันยิ้มเหี้ยมด้วยความมั่นใจ ตี๋อ้วนไม่รอช้า เขายกโล่ขึ้นมาไว้ด้านหน้าก่อนจะวิ่งพุ่งชนใส่ฟูเหลาพร้อมกับขานทักษะ

“กระทิงคลั่ง!!”

สิ้นคำพูดร่างกายของตี๋อ้วนก็ถูกเสริมพลังโจมตีด้วยทักษะทันที กล้ามเนื้อบนร่างกายอ้วนๆของเขาเริ่มเปล่งขึ้นมา ฟูเหลาดีดตัวด้วยเสต็ปเท้าของนักมวยหมุนตัวหลบการโจมตีครั้งนี้ของตี๋อ้วนอย่างรวดเร็ว เขาไม่ปล่อยให้ช่องว่างของเขาหลุดลอยไปได้อย่างแน่นอน หมัดขวาที่กำไว้แน่นถูกเสริมพลังด้วยทักษะเสริมพลัง ก่อนจะชกไปที่ลำตัวของตี๋อ้วนเต็มแรงจนกระเด็นไปชนกับผนังถ้ำ

ตูม!!!

ร่างของตี๋อ้วนทรุดลงกับพื้นและแน่นิ่งไปในที่สุด กลุ่มผู้เล่นจากกิลด์มนุษย์เทพยุทธ์ต่างอึ้งไปตามๆกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าตี๋อ้วนจะพ่ายแพ้ชายหน้าใหม่ตรงหน้านี่แม้แต่คนเดียว แต่บัดนี้ ตี๋อ้วนที่ได้ชื่อว่าเป็นโล่แห่งกิลด์ได้ถูกโค่นลงโดยพ่อค้าไร้นามที่ไหนไม่รู้ซะแล้ว

แปะ แปะ แปะ..

คิระปรบมือให้ฟูเหลาก่อนจะพูดเรียกผู้เล่นในกิลด์ให้ฟังต่อ

“เอาล่ะ..ปล่อยตี๋อ้วนไปก่อนละกัน..มันน่าจะสลบเดียวก็คงฟื้น ตอนนี้เราคงไม่สงสัยในฝีมือของฟูเหลากันแล้วสินะ..แต่ถ้ามีใครสงสัยอีกก็ให้ไปท้าเขาหลังเขาพูดจบละกัน..”

คิระหันไปพยักหน้าให้ฟูเหลาเล็กน้อย ชายหนุ่มเดินขึ้นไปบนเวทีก่อนจะเริ่มพูดต่อดโดยไม่สนใจร่างของตี๋อ้สนที่นอนแน่นิ่งอยู่ด้านล่าง

“ผมจะช่วยภารกิจของพวกคุณให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้..ในทางกลับกันผมเองก็อยากให้คุณช่วยผมเช่นเดียวกัน..”

“ว่ามาเลย..นายต้องการอะไรบอกกับพวกเราได้เสมอ..”

ชายผมแดงพูด

“ในตอนนี้ผมคาดว่าผมอาจจะได้รับภารกิจลับต่อเนื่องมาโดยไม่รู้ตัว..และด้วยภารกิจนั้นผมต้องการจัดการปรับเปลี่ยนระบบของนครวาเรียสผ่านการค้าขายซะใหม่..ก่อนหน้าที่ผมจะลงมายังใต้ทะเลนี้ผมได้เจอกับจอมทัพเผ่าเงือกนามลูก้า..และได้รู้ว่าเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้าทาสจากเผ่าพันธุ์อื่นๆส่งให้ทวีปฟรานด์ ผมจึงจงใจลงมาใต้ทะเลเพื่อไปยังนครวาเรียสเพื่อค้นหาความจริง..”

“หาความจริงฃเรื่องอะไร?”

คิระถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“ฉันได้ยินมาว่า..นครวาเรียสมีการค้าขายทาส NPC มนุษย์เป็นจำนวนมาก ถ้าเราสามารถทำอะไรกับเรื่องนั้นได้เราอาจต่อรองกับนควาเรียสและเผ่าเงือกได้ หลังจากนั้นฉันจะไปฟรานด์เพื่อช่วยทาสที่เหลือ..นี่คือแผนที่คิดขึ้นคร่าวๆในตอนนี้”

“นายจะช่วยไปทำไม..อย่างนายจะทำอะไรกับการค้าทาสในนครวาเรียสได้…ที่นั่นมีแต่เผ่าเงือกแถมเราอาจเสียกำลังรบไปเยอะมากแน่ๆถ้าต้องการจะเปิดสงครามกับเผ่าเงือกเพียงแค่แย่งชิงการค้าทาส”

ชายผมแดงพูดอธิบาย เขาไม่คิดว่าความต้องการของฟูเหลาถูกต้องซะทีเดียว การที่คิดการใหญ่แบบนี้จำเป็นต้องมีขุมกำลังพอสมควร แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้มีขุมกำลังมากมายอะไรขนาดนั้น..

“ในทางกลับกัน..เรื่องที่ฟูเหลาพูดมันก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นภารกิจลับแบบต่อเนื่องนะ..”

จู่ๆนินนินก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนจะหันไปหาชายผมแดง

“ลองคิดดูนะปราชญ์แดง..เหตุการณ์ที่หมอนี่เจอคือจอมทัพเผ่าเงือกเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้าทาสต่างเผ่าพันธุ์ให้กับทวีปฟรานด์ ซึ่งเราก็รู้ว่าเป็นถิ่นของผู้เล่นเผ่าออร์ค และถ้าNPC เผ่าพันธุ์ที่โดนจอมทัพนั่นจับตัวไปรู้เข้า มันต้องทำสงครามกับเผ่าเงือกแน่นอน.. นายคิดว่าเหตุการณ์ระดับนี้ไม่ใช่ภารกิจอย่างนั้นหรอ.. ดีไม่ดีสิ่งที่หมอนี่กำลังทำอยู่มันคือการเคลียร์ภารกิจในเงื่อนไขระดับสูงสุดด้วยซ้ำ เพราะถ้าหมอนี่จัดการเรื่องการค้าทาสได้สำเร็จ แสดงว่าจอมทัพนั่นจะต้องจ้องจัดการฟูเหลาและผู้ร่วมภารกิจทั้งหมดแน่นอนและถ้าสามารถกำจัดมันได้สำเร็จและไปช่วยทาสคนอื่นๆที่ทรานด์ได้ เราอาจได้รางวัลจากเผ่าพันธุ์ที่เราช่วยเหลือราอีกทอดหนึ่งก็ได้..”

“แต่ถ้าเราไปที่ฟรานด์เพื่อช่วยทาสคนอื่นๆเราก็ต้องสู้กับออร์คด้วยเช่นเดียวกัน..ที่พูดมาทั้งหมดมันเหมือนเป็นดาบสองคมที่มีทั้งส่วนได้และส่วนอันตราย..”

ตี๋อ้วนพยุงร่างของตัวเองขึ้นก่อนที่จะปัดฝุ่นตามร่างกาย

“หากต้องการทำภารกิจี่นายว่าจริงๆ..เราก็จำเป็นจะต้องครอบครองเซตซีรี่จ้าวสมุทรซะก่อนฟูเหลา..”

คิระพูดก่อนจะหันไปหาผู้เล่นคนอื่น

“ภารกิจครั้งนี้อาจยาวนานและยากกว่าครั้งไหนๆ..แต่ก็อาจมากไปด้วยไอเท็มชั้นดีด้วยเช่นเดียวกัน..ใครโหวดที่จะรับเขาเป็นพันธมิตรและทำตามภารกิจที่ตกลงกันเมื่อสักครู่ขอให้ยกมือขึ้นมา!! คะแนนเสียงไหนมากกว่าจะเป็นมติเอกฉันท์”

สิ้นคำพูดของคิระ ผู้เล่นกว่าร้อยคนต่างยกมือกันท้วนหน้าพร้อมกับทำใบหน้าอันมุ่งมั่นและพร้อมที่จะทำภารกิจที่ยากลำบากอย่างเต็มกำลัง คิระและฟูเหลาหันมายิ้มให้กันเล็กน้อย คิระจับมือฟูเหลาและชูขึ้นเหนือศีรษะ

“ยินดีต้อนรับฟูเหลาเข้าสู่กองกำลังกิลด์มนุษย์เทพยุทธ์!!!”

“เฮ้!!!!!!!!!”