บทที่ 35 เป้าหมายใหม่ที่ชัดเจน
ปัก ปัก ปัก!!! เสียงการปะทะของฝ่ามือฟูเหลาที่โจมมตีใส่สัตว์อสูรทากสองหัว บริเวณลานว่างใกล้ๆนครวาเรียสดังอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในตอนแรกผู้เล่นที่อยู่ใกล้ๆให้ความสนใจการต่อสู้ของฟูเหลาและฝูงทากสองหัวเป็นอย่ามาก เพราะไม่เคยมีใครเห็นผู้เล่นคนไหน สามารถจัดการสัตว์อสูรทากสองหัวนับร้อยๆตัวได้ด้วยตัวคนเดียวมาก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ๆผู้เล่นคนอื่นๆก็เริ่มเลิกให้ความสนใจและกลับไปเก็บระดับของตัวเอง แม้กระทั่งวารีสีรุ้งที่ในตอนแรกจับจ้องการต่อสู้ของฟูเหลาตาไม่กระพริบ แต่พอเวลาผ่านไปได้ 1 ชั่วโมงก็นอนเล่นอยู่ตรงปะการังยักษ์ใกล้ๆซะแล้ว..
“ไอ้หมอนั่นจะเก็บระดับตรงนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย…สัตว์อสูรตรงนี้กระจอกจะตาย..”
วารีสีรุ้งนอนมองไปด้านบนพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ
‘เตะซ้าย! กวาดขวา! ตอกส้น!’
ฟูเหลากำลังฟื้นความทรงจำสมัยอยู่ในเกมยอดวรยุทธ์ที่เขาเคยเป็นถึงผู้เล่นระดับท๊อป ชายหนุ่มพยายามจดจำท่วงท่า ทักษะการต่อสู้ระยะประชิดที่เขาใช้เวลาสั่งสมมาหลายปีเพื่อมาใช้ในโลกโซลเวิลด์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้..ทากสองหัวที่มีจำนวนมากแต่พลังโจมตีไม่สูงจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการฝึกต่อสู้กลางวงล้อมศัตรู
ปัก ปัก!! ลูกเตะซัดเข้าที่ลำตัวทากสองหัวตัวหนึ่งจนกระเด็นไปชนตัวอื่นๆ แต่เนื่องจากฟูเหลาไม่ได้ใช้ทักษะพิเศษและไม่ได้ใช้อาวุธ ทำให้พลังโจมตีของฟูเหลาไม่สามารถจัดการสัตว์อสูรทากสองหัวพวกนี้ได้ในการโจมตีแค่สองหรือสามครั้ง ทำให้ภาพที่ผู้เล่นโดยรอบเห็นก็คือฟูเหลากำลังสู้เพื่อป้องกันตัวเองจากฝูงทากสองหัวแทน ความสนใจในตอนแรกที่คิดว่าฟูเหลาสามารถต่อกรกับสัตว์อสูรนับร้อยๆตัวได้จึงหมดไป
“หมอนั่นเก่งใช่ย่อย..ยันทากสองหัวเกือบร้อยตัวโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย…”
“กากสิไม่ว่า!! ดูพลังโจมตีหมอนั่นดีๆ กว่าจะฆ่าสัตว์อสูรทากสองหัวได้สักตัวใช้เวลาตั้ง 5 นาที บ่งบอกว่าผู้เล่นคนนั้นระดับต่ำมาก..”
ผู้เล่นสองคนพูดวิจารณ์ฟูเหลาที่กำลังตวัดขาเตะกวาดทาก 3 ตัวที่อยู่ด้านหน้า
‘เราใช้มีดไม่ค่อยถนัดซะด้วย…แต่ถ้าเราไม่ใช้มีด พลังโจมตีของเราก็จะต่ำเกินไป..’
ฟูเหลาพูดกับตัวเอง เขากำหมัดหลวมๆก่อนจะชกออกไปสองทีอยากรวดเร็ว ฟุบ ฟุบ!
เวลาล่วงไปอีก 1 ชั่วโมง ฟูเหลาก็เคลื่อนตัวออกจากวงล้อมของสัตว์อสูรทากสองหัว วารีสีรุ้งบิดขี้เกียจและเตรียมพร้อมจะตามฟูเหลาไปอีกครั้ง ชายหนุ่มตัดสินใจยกเลิกการต่อสู้กับทากสองหัวและต้องการเดินทางไปฝึกฝนกับสัตว์อสูรตัวอื่นต่อเพราะคิดว่าทากสองหัวไม่อาจเติมเต็มระดับพื้นฐานของเขาได้อีกต่อไป
“ไม่ไหวๆ..ระดับขึ้นมาแค่ 1 ระดับเอง ถ้าไม่มีไอเทมระดับสูงกว่านี้เราใช้เวลาทั้งชาติแน่กว่าระดับจะแตะ 40 คงต้องหาวิธีเอาไอเทมของเราคืนมาให้ได้ก่อนแล้ว..”
ฟูเหลาพูดกับตัวเองก่อนจะหยิบตำราสัตว์อสูรขึ้นมาอ่านเพื่อวางแผนสำหรับการเดินทาง การที่จะได้ไอเทมทั้งหมดคืน คือเขาจำเป็นจะต้องเสี่ยงดวงไปยังหุบเหวน้ำตกทะเลเพื่อไปหาสัตว์อสูรวาฬหมึกตัวที่ฆ่าเขาเท่านั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้เล่นระดับ 28 อย่างเขาเลยที่จะปะทะกับสัตว์อสูรที่ระดับสูงกว่าหลายระดับอย่างสัตว์อสูรวาฬหมึก
“อ้ะ!! จริงด้วยเรายังไม่ได้ตั้งชื่อสมุนสุดที่รักทั้ง 46 ตัวนี่หว่า!!”
ชายหนุ่มเรียกเหาฉลามทั้ง 46 ตัวออกมาจากแหวน บอลแสงขนาดเท่ากำมือค่อยๆลอยออกมาจากแหวนจนเผยให้เห็นร่างของเหาฉลามทั้ง 46 ตัวที่กำลังจ้องฟูเหลาตาแป๋ว
“หูย!! น่ารักเวอร์!!”
ชายหนุ่มหยิบอาหารสัตว์ที่ซื้อมาจากร้านค้าโปรยให้เหาฉลามทั้งหมดกินเพื่อทำความคุ้นเคย แต่การที่ฟูเหลาเรียกเหาฉลามออกมาโดยไม่ได้คำนึงถึงผู้เล่นรอบข้าง มันก็ทำให้เขาต้องเจอกับเรื่องวุ่นๆอีกครั้ง
“น…นะ…นั่น!!!”
วารีสีรุ้งทำท่าทางตกใจพร้อมกับส่งเสียงจนฟูเหลาได้ยินและหันหน้าไปหาเธอ
“อ่าว!!เธอมาทำอะไรแถวนี้เนี่ย?”
“น..นาย!!เป็นคนที่ทำให้หน้าประตูนครวาเรียสวุ่นวายเมื่อวานอย่างนั้นหรอ!!”
วารีสีรุ้งทำท่าทางตกใจ เธอมั่นใจว่าเธอจำเหตุการณ์ทั้งหมดได้ไม่ผิดเพี้ยนอย่างน่นอน เพราะเธอคือผู้เล่นที่โดนลูกหลงเหาฉลามของฟูเหลากัดเข้าที่ก้นจนต้องหนีเข้ามายังนครวาเรียสเมื่อวานนี้..
“แหะๆ คงงั้นแหละ..”
ฟูเหลายิ้มแห้งๆ ก่อนจะหันไปใช้มือลูบไปที่เหาฉลามตัวหนึ่งที่ว่ายน้ำมาคลอเคลีย ชายหนุ่มทำท่าสบายๆอย่างไม่ทุกร้อนอะไร ซึ่งผิดกับวารีสีรุ้งที่ทำสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาเมื่อรู้ว่าฟูเหลาเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
“รู้ไหมว่าตอนนี้ทางทหารเงือกไล่ตามหาตัวนายกันอยู่..”
วารีสีรุ้งเอ่ยถามขึ้น
“พึ่งรู้เนี่ยแหละ..งี้คงคิดถูกสินะที่ไม่ทำตัวเด่นในเมือง..”
“ถามตรงๆนะ!!นายเป็นใคร?”
วารีสีรุ้งเอ่ยถามด้วยใบหน้ากังวล เพราะการที่เขาค้าขายกับผู้กระทำความผิดในนครวาเรียสอาจทำให้เธอถูกNPCทหารเงือกจับไปขายเป็นทาสในโทษฐานกระทำความผิดซื้อขายกับผู้บุกรุกได้..
“ฉันคงบอกเธอไม่ได้หรอก..แต่บอกได้แค่ฉันไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายต่อนครวาเรียส เพียงแต่ฉันต้องการหาความจริงอะไรบางอย่างและอีกข้อก็คือฉันต้องการหาเงิน!!”
ฟูเหลายิ้มด้วยแววตาลุกวาวเป็นทองคำ
“ถ้านายไม่บอก!! ฉันจะแจ้งเรื่องให้ทหารเงือกมาจับนาย!!ถึงนี่จะเป็นเพียงเกมแต่ทุกที่ย่อมมีกฎ และฉันชอบที่จะรักษากฎให้กับเผ่าพันธุ์ตัวเอง!!”
วารีสีรุ้งหยิบอาวุธของเธอออกมาจากกระเป๋ามิติ เปี๊ยะ!!! เธอฟาดแส้ที่มีเกรียวน้ำวนอยู่รอบๆตัวแส้ของเธอ ฟูเหลามองจากลักษณะของแส้ก็รู้ได้ทันทีต้องเป็นไอเทมระดับ 4 ขึ้นไปอย่างแน่นอน
“เธอจะสู้กับฉันงั้นหรอ? ไหนเธอบอกว่าเราจะทำการค้ากันไง..”
ฟูเหลาพูดด้วยรอยยิ้มเพราะเขาเองไม่ต้องการปะทะกับวารีสีรุ้งแม้แต่น้อย การที่ผู้เล่นระดับต่ำอย่างเขาต้องมาปะทะกับผู้เล่นที่ดูท่าทางเก่งเอาเรื่องเช่นวารีสีรุ้ง มันไม่ใช่เรื่องที่ดีนักในตอนนี้
“ฉันไม่ทำการค้ากับอาชญากรย่ะ!! ถ้านายไม่ยอบบอกเหตุผลที่ดูฟังขึ้น งั้นฉันจะจับนายกลับไปให้ทหารเป็นคนตัดสินความผิดเอง!!”
สิ้นคำพูด..แส้ของวารีสีรุ้งก็สะบัดใส่ฟูเหลาอย่างรวดเร็วจนฟูเหลาตามการเคลื่อนไหวไม่ทันและโดนฟาดไปที่แขนซ้ายเต็มแรง เพี้ยะ!! พลังชีวิตของฟูเหลาลดฮวบลงทันทีจนฟูเหลาต้องทำตาโตด้วยความตกใจ
‘ให้ตายเหอะ!!พลังโจมตีสูงชะมัด!! ดูท่าเธอจะเป็นผู้เล่นระดับสูงกว่าเราเกิน 10 ระดับแน่ ถ้าเราเข้าปะทะตรงๆและโดนแส้นั่นคงได้ดิ้นตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน!!’ ฟูเหลาคิดในใจด้วยท่าทางตื่นตระหนก
“ระดับนายแค่ 28 นายสู้ฉันไมไม่ได้หรอก!!ต่อให้นายมีทักษะอะไรก็ตาม..อาวุธนายก็ไม่มี! ยอมจำนนซะเถอะ!!”
วารีสีรุ้งพูดด้วยความมั่นใจ ฟูเหลาหัวเราะเบาๆก่อนจะพูดต่อด้วยรอยยิ้ม
“เธอมั่นใจจังเลยนะ..แต่ฉันก็อธิบายไปแล้วหนิว่าฉันไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไร…ทำไมต้องมาสู้กันด้วย? พูดด้วยกันดีๆเหอะ ไหนๆเราก็เป็นพ่อค้าแม้ค้าด้วยกันทั้งคู่ เรามาทำข้อตกลงกันเหอะนะ..”
“การเป็นกบฏในเผ่าเงือกหรือการเป็นอาชญากรในดินแดนของเผ่าเงือก ถือเป็นความผิดขั้นร้ายแรง! ในเมื่อนายเป็นผู้ลักลอบที่สร้างความวุ่นวานตอนเข้ามายังนครวาเรียส นายก็ถือเป็นอาชญากร และถ้าฉันจับนายได้..ฉันก็จะได้รางวัลอย่างงามอยู่แล้วแถมยังไม่ผิกกฎอีกด้วย..ทำไมฉันต้องมายอมทำข้อตกลงกับนาย!!”
วารีสีรุ้งสะบัดแส้ในมือไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง..ฟูเหลาที่ตั้งตัวได้พลิกตัวหลบการโจมตีอย่างรวดเร็ว เปี๊ยะ เปี๊ยะ เปี๊ยะ!! วารีสีรุ้งทึ่งในความสามารถของฟูเหลาไม่น้อยที่สามารถตามความเร็วของแส้เธอได้ทัน วารีสีรุ้งตัดสินใจเอ่ยทักษะพิเศษของเธอขึ้นมาเพื่อโจมตีฟูเหลาสุดกำลังอีกครั้ง
“แส้วารีอสรพิษพัวพัน!!”
สิ้นคำพูดเกรียวน้ำที่พันรอบตัวแส้ก็หมุนเร็วขึ้นและพุ่งออกไปยังทิศทางที่ฟูเหลาอยู่ ก่อนที่เกรียวน้ำจะแยกตัวออกมานับสิบสายและค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป็นเกรียวน้ำรูปร่างคล้ายงู บึ่ม!!!
“ขอโทษนะชาวเผ่าเงือก..ที่ฉันคนนี้เกือบขายไอเทมของเผ่าพันธุ์เราไปให้ชายแปลกหน้า..ตอนนี้ฉันกำลังจัดการเขาและยึดไอเทมชิ้นนั้นกลับมา..”
วารีสีรุ้งหลับตาพร้อมกับกุมมือลงต่ำคล้ายท่าสงบนิ่ง..
“เดี๋ยว!!!ฉันยังไม่ตาย!!!”
เมื่อควันจากการระเบิดหายไป วารีสีรุ้งก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นฟูเหลาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจากการโจมตีในครั้งนี้แม้แต่น้อยเพราะมีบอลน้ำมาคลุมรอบๆร่างกายของเขาเอาไว้
“ทักษะรังวารีของฉันแจ๋วดีใช่ไหมล่ะ…”
ฟูเหลายิ้มเล็กน้อย สายตาอันเยือกเย็นจ้องไปที่วารีสีรุ้งจนทำให้เธอสะท้านด้วยความกลัวและเดินถอยหลังไปสองก้าว
“ตอนแรกก็ไม่ได้อไรหรอกนะ..แต่ดูเธอจะยึดติดกับความถูกต้องมากไปหน่อย..”
‘ชายคนนี้!!’
“เธอคิดว่าฉันจะสู้แธอไม่ได้หรอ..แค่ฉันใช้เหาฉลามข้างหลังฉัน 46 ตัวนี้รุมฆ่าเธอๆก็ไม่รอดแล้ว..”
ชายหนุ่มพูดอธิบาย
“หรือถ้าฉันแค่เอามีดเล่มนี้ปาดคอเธอจากด้านหลังสักหลายๆทีในจุดตายเธอก็ไม่รอดเช่นกัน..”
ฟูเหลาค่อยๆเอามือที่ถือมีดอ้อมมาแตะบริเวณต้นคอของวารีสีรุ้งเบาๆ หญิงสาวถึงกับหน้าเปลี่ยนสีในทันทีเมื่อรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ฟูเหลาแสดงให้เธอได้เห็น
“น..นายทำได้ยังไง..”
ฟูเหลาไม่ตอบวารีสีรุ้งแต่เพียงแค่ใช้มีดในมือชี้ไปยังร่างของตัวเองที่อยู่ด้านหน้าให้หญิงสาวดูเอาเอง ร่างกายของฟูเหลาที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆสลายไปเหลือเพียงบอลน้ำและเหาฉลามเท่านั้น..
เหตุการณ์เมื่อสักครู่หลังจากที่วารีสีรุ้งปล่อยทักษะออกมา ฟูเหลาไม่ได้ยืนนิ่งๆรับการโจมตีแต่กลับใช้ทักษะรังวารีเพื่อป้องกันร่างกายก่อนจะสร้างภาพลวงตาเอาไว้ด้วยทักษะแยกอนันต์และย่อร่างกายของตัวเองด้วยทักษะย่อส่วนแล้ววิ่งอ้อมไปยังด้านหลังของวารีสีรุ้ง..
“ภาพลวงตา!!”
วารีสีรุ้งกัดฟันด้วยความเจ็บใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเสียท่ากับผู้เล่นที่มีระดับต่ำกว่า
“ฉันมาที่นี่เพราะต้องการสืบเรื่องระหว่างเผ่าพันธุ์เงือก เผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าและเผ่าพันธุ์ออร์ค”
ฟูเหลายอมบอกความจริงให้วารีสีรุ้งฟังเพื่อต้องการให้เธอเชื่อใจ
“เพื่ออะไร?”
ฟูเหลาค่อยๆลดมีดก่อนจะเคลื่อนร่างทิ้งระยะห่างกับวารีสีรุ้ง
“ก่อนอื่นคือ..ที่ฉันไม่สามารถให้ทหารตรวจสอบร่างกายได้เลยต้องสร้างความวุ่นวายเพื่อเข้ามาก็เพราะฉันเป็นเผ่ามนุษย์..”
วารีสีรุ้งทำหน้าอึ้งๆ
“ฉันไม่อธิบายหรอกนะว่าทำไมฉันถึงมีร่างกายแบบนี้…แต่ที่ฉันมาก็เพราะฉันไปเห็นเผ่าเงือกที่อยู่ด้านบนจับเผ่าภูติและมนุษย์ไปส่งขายยังทวีปฟรานด์ในรูปแบบที่ดูผิดเพี้ยน”
“ผิดเพี้ยนงั้นหรอ? เผ่าเรายึดมั่นในกฎเป็นอย่างมาก หากพวกที่ถูกจับเป็นทาสไม่ได้กระทำความผิดอะไร ไม่มีทางเลยที่เผ่าเงือกจะจับคนเหล่านั้นไปเป็นทาสอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย”
วารีสีรุ้งพูดเถียงฟูเหลา
“ฮ่าๆ เธอนี่ตลกชะมัดเอาอะไรมาตัดสินว่าเผ่าพันธุ์ที่ตัวเองเลือกเล่นดีนักหนา…แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าผู้เล่นคนอื่นจะนิสัยดีอย่างที่เธอคิด!! ไม่มีใครทำตามกฎอย่างซื่อตรงหรอกนะ ยิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตแล้ว การที่จะทำตามกฎอย่างซื่อตรงก็มีเพียงหุ่นยนตร์เท่านั้น เธออย่าทำให้ฉันขำไปหน่อยเลยวารีสีรุ้ง!! ไอ้พวกที่ฉันเจอคือผู้เล่นเผ่าเงือกที่เล่นอาชีพโจรสลัด เธอคงรู้อยู่แล้วนะว่าพวกโจรสลัดมักมีชื่อเสียงในด้านไหน อีกอย่างฉันดันเจออีกคนที่เธอจะต้องตกใจเลยหล่ะ..คนที่เป็นคนสั่งการโจรสลัดอีกทีหนึง คนที่ชื่อลูก้าหรือจอมทัพเงือกยังไงล่ะ..”
ฟูเหลาพูดด้วยรอยยิ้มอันเลือดเย็น วารีสีรุ้งถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟูเหลาพูดออกมาเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อชายตรงหน้าที่พึ่งจะเจอกันไม่กี่ครั้ง แต่ไม่นานนี้มันก็มีข่าวในเรื่องแบบนี้เช่นเดียวกันจนทำให้เธอเกิดความลังเลขึ้นไม่น้อย..
“คิดดูดีๆวารีสีรุ้ง..เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันจะต้องเป็นภารกิจลับอย่างแน่นอน และฉันเพียงคนเดียวไม่มีทางที่จะจบภารกิจนี้ได้ ในฐานะแม่ค้า..ทำไมเธอไม่ลองพิจารณาสิ่งที่ฉันพูดดีๆดูอีกทีล่ะ..นี่มันเกมนะ กฏหน่ะสำคัญ แต่หากมันมีอะไรผิดพลาด เธอก็ต้องเป็นคนจัดการให้ถูกต้อง..”
ฟูเหลาพยายามพูดกล่อมวารีสีรุ้ง..
ในตอนนี้ความคิดเรื่องการเป็นพ่อค้าในโซลเวิลด์ของฟูเหลาได้เปลี่ยนไปแล้ว การเป็นแค่เพียงพ่อค้าธรรมดาคงไม่สามารถรอดได้หากอยู่ในสังคมเกมที่เป็นแบบนี้ และระบบเกมที่ทำขึ้นมาแบบนี้
‘เราต้องไม่ใช่พ่อค้าธรรมดาที่เอาแต่หาไอเทมไปขาย เราต้องเป็นพ่อค้าที่แข็งแกร่งที่สุดและต้องเป็นคนที่แจ๋วที่สุด และต้องเป็นคนที่รวยที่สุดเท่านั้นถึงจะกุมบังเฮียนในเกมนี้ได้..เพราะฉะนั้นการทำภารกิจลับ จะนำพาความสมบูรณ์แบบในฐานะผู้เล่นพ่อค้าที่แข็งแกร่งที่สุดมาให้เรา!!’
ฟูเหลาคิดในใจอย่างฮึกเหิม..
